วันที่โพสต์: 4 ธ.ค. 2014, 19:08:25
หลายคนอาจเคยสังเกตพฤติกรรมของเพื่อนมนุษย์และอาจทราบกันดีแล้วว่า ในมนุษย์คนเดียวอาจมีลักษณะนิสัยหลายแบบก็ได้ แต่ในวันนี้ผู้เขียนจะมาพูดถึงลักษณะนิสัยของมนุษย์แบบหนึ่งซึ่งบางคนเรียก พฤติกรรมนี้ว่า ทฤษฎีการกระจายความรับผิดชอบ
ทฤษฎีการกระจายความรับผิดชอบคืออะไร?
ทฤษฎีการกระจายความรับผิดชอบนี้หลายคนอาจยังไม่รู้จักว่า มันมีความหมายอย่างไร แต่ถ้าได้ฟังความหมายแล้วเชื่อว่า ทุกคนย่อมเคยเจอกับเพื่อนมนุษย์ที่มีพฤติกรรมในลักษณะนี้มาบ้างแล้ว นั่นคือ การไม่ทำงาน ทำงานน้อยหรือไม่ยอมช่วยเหลือผู้อื่นนั่นเอง
หลังจากที่รู้ความหมายแล้วท่านผู้อ่านลองวิเคราะห์ดูสิว่า เพราะเหตุใดมนุษย์กลุ่มดังกล่าวถึงแสดงพฤติกรรมเช่นนั้น คำตอบของท่านผู้อ่านอาจเหมือนหรือแตกต่างจากผู้เขียนก็ได้ แต่ในส่วนของผู้เขียนได้แบ่งคำตอบออกเป็น 2 ข้อ ดังนี้
1. มนุษย์กลุ่มดังกล่าวมีการตัดสินใจที่แม้แต่พวกเขาเองยังอาจไม่รู้ตัวว่า พวกเขากำลังคิดแบบนั้น(บางคนอาจจะรู้ตัว) ซึ่งความคิดของพวกเขาก็คือ ตอนนี้มีคนอื่นอยู่มากแล้ว ถ้าเราไม่ทำหรือไม่ช่วยเหลือ คนอื่นๆ ก็ต้องทำเอง เช่น มีขยะอยู่หน้าบ้าน มีคนอยู่ 7 คน เวลาที่ขยะจะถูกนำไปทิ้งมักต้องใช้เวลานานกว่ามีคนอยู่คนเดียว(ในกรณีที่มีคนอยู่มาก บางครั้งอาจใช้คนอื่นไปทิ้งด้วยซ้ำหรืออาจมีบางคนที่ไปทิ้งเอง แต่อาจจะคิดในใจว่า ทำไมคนอื่นไม่ทิ้ง)
2. มนุษย์กลุ่มดังกล่าวปัดความรับผิดชอบที่มีต่อสังคมบางอย่างออกไป โดยให้เหตุผลแก่ตัวเองว่า เรื่องที่เกิดขึ้นนั้นไม่ใช่เรื่องของเราหรืออาจคิดว่า เรื่องที่เกิดขึ้นนั้นเป็นเรื่องส่วนรวมของสังคมเราทำไปก็ไม่ได้ประโยชน์อะไรกับตัวเอง เช่น ถ้ามีเหตุการณ์น้ำท่วมเกิดขึ้นก็มีทหารไปช่วยเหลือประชาชนเอง ตัวเรานั้นจะช่วยหรือไม่ก็ได้
จากทั้ง 2 ข้อข้างต้น อาจเป็นข้อความที่สนับสนุนทฤษฎีการกระจายความรับผิดชอบได้มากขึ้น นั่นคือ ยิ่งมีจำนวนคนมากเท่าไร ความรับผิดชอบของบุคคลหลายคนยิ่งลดลงไปมากเท่านั้น
แต่ว่า...ข้อคิดเห็นด้านบนนี้จะถูกทั้งหมดจริงๆ หรือ? มันอาจจะมีอย่างอื่นอีกก็ได้นะ เช่น บทความก่อนหน้านี้ผู้เขียนต้องการกล่าวถึงเรื่องแผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นจากภัยธรรมชาติเท่านั้น จึงไม่ได้เขียนให้ท่านผู้อ่านคิดตามว่า แผ่นดินไหวก็เกิดขึ้นจากฝีมือมนุษย์ได้เช่นกัน เช่น การสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงจากผลลัพธ์ของระเบิดนิวเคลียร์ เมื่อคิดได้อย่างนั้นแล้ว ท่านผู้อ่านลองมาดูภาพสไลด์ด้านล่างนี่ก่อน แล้วช่วยกันวิเคราะห์สิว่า เหตุการณ์ดังกล่าวน่าจะเกิดจากอะไรได้บ้าง มันใช่เพราะทฤษฎีการกระจายความรับผิดชอบเพียงอย่างเดียวจริงๆ หรือ?
จากอัลบั้มดังกล่าวจะเห็นว่า ตั้งแต่ภาพแรกมีคนอยู่ในเหตุการณ์ที่ผู้หญิงเสื้อดำถูกทำร้ายร่างกายมากมาย แต่กลับไม่มีใครเข้ามาช่วยเหลือเธอเลย(น่าแปลกที่คนที่ทำท่าเหมือนจะเข้ามาช่วยผู้หญิงแต่กลับกลายเป็นคน...ช่วยปลดทรัพย์ซะงั้น) เรื่องนี้เกิดขึ้นเพราะทฤษฎีการกระจายความรับผิดชอบอย่างแน่นอน แต่ก็มีแนวโน้มเจือปนที่อาจเป็นไปได้อย่างอื่นอีก ดังต่อไปนี้
1. ผู้เขียนคาดว่า หลายคนที่อยู่ในเหตุการณ์ตอนนั้นกลัวตาย(แต่ก็แปลกใจว่า...ทำไมคนที่ขับรถสามล้อกลับขับหนีไปแทนที่จะขับชนคนร้าย น่าสงสัยนะว่า มันจะไปกลัวอะไร)
2. ผู้เขียนคาดว่า อาจมีบางคนที่หายไป...กำลังไปตามคนมาช่วย(กลุ่มบุคคลดังกล่าวไม่ทันคำนวณสถานการณ์ที่เป็นไปได้ว่า กว่าจะไปตามคนมาช่วยผู้หญิงที่ถูกทำร้ายมีโอกาสตายก่อนหรือไม่?) ทฤษฎีนี้เรียกว่า บทกลับของความเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้นจากการตัดสินใจผิดพลาดเพียงเสี้ยววินาที ความหมายของทฤษฎีดังกล่าว ผู้เขียนนิยามว่า การตัดสินใจช้าหรือผิดพลาดเพียงเสี้ยววินาทีอาจหมายถึงชีวิตของผู้อื่นหรือตัวท่านเอง
อย่างไรก็ตามจากภาพมีผู้ร้ายเพียง 2 คน มีผู้ชายคนอื่นที่อยู่ในเหตุการณ์อีกไม่ต่ำกว่า 5 คน(โดยเฉพาะคนที่ขับรถ) การชกยกนี้ฝ่ายธรรมะย่อมชนะอธรรมอย่างแน่นอน การที่ไม่เข้าไปช่วยเหลือแบบนี้ ถ้าผู้หญิงคนดังกล่าวเสียชีวิตขึ้นมา ท่านผู้อ่านคิดว่า บุคคลที่อยู่ในเหตุการณ์ทั้ง 5 คน เป็นผู้สมรู้ร่วมคิดในการฆาตกรรมทางอ้อมหรือไม่?
สุดท้ายนี้ผู้เขียนขอกล่าวว่า โลกเราในทุกวันนี้ พฤติกรรมมนุษย์ยากแท้ที่จะหยั่งถึง
หากท่านผู้อ่านพอใจบทความนี้ กรุณา คลิก โฆษณาของ AdFly เพื่อให้เราทราบความนิยมและช่วยให้เราไม่ขาดทุนมากจนเกินไป
อ่านบทความอื่นต่อ