ข้อดีของการประเมินแบบเทียบโอนประสบการณ์

        การประเมินแบบเทียบโอนประสบการณ์ (RESK) เป็นการวัดความรู้และทักษะที่คุณได้รับจากการทำงานหรือการศึกษาในสถานที่อื่น โดยไม่ต้องเข้าร่วมหลักสูตรอบรมหรือการศึกษาในสถาบันที่จัดสอบ

        การประเมินแบบเทียบโอนประสบการณ์ ช่วยให้คุณสามารถยืนยันความรู้และทักษะของคุณได้ และอาจช่วยให้คุณได้รับประกาศนียบัตร ใบอนุญาต หรือวุฒิวิชาชีพที่เกี่ยวข้องกับการทำงานของคุณ

        การประเมินแบบเทียบโอนประสบการณ์ มีประโยชน์ในกรณีที่คุณไม่สามารถออกมาอบรมหรือเข้าสอบได้ เพราะคุณต้องทำงานในวันปกติ หรือไม่มีเวลาหรือเงินเพียงพอ การประเมินแบบเทียบโอนประสบการณ์ จะช่วยให้คุณประหยัดเวลาและเงินได้ เพราะคุณไม่ต้องเข้าหลักสูตรที่ซ้ำซ้อนกับความรู้และทักษะที่คุณมีอยู่แล้ว

ถ้าคุณต้องการแก้ปัญหาจำนวนคนที่มาเข้าประเมิน คุณอาจต้องพิจารณาถึงข้อจำกัดของการประเมินแบบเทียบโอนประสบการณ์ เช่น

- คุณต้องมีหลักฐานที่แสดงถึงประสบการณ์การทำงานของคุณ อย่างน้อย 2 รายการ ตามแต่ละหลักเกณฑ์การประเมินในสาขาวิชาชีพ¹

- คุณต้องผ่านการสัมภาษณ์ผ่านวีดิโอคอนเฟอเรนซ์ หรือผ่านกระบวนการพิจารณาร่วมกับผู้เชี่ยวชาญ¹

- คุณต้องผ่านการประเมินให้ได้ค่า RESK Score ไม่ต่ำกว่า 80%²

   ถ้าคุณไม่สามารถให้ได้หลักฐาน หรือไม่สามารถเข้าร่วมการสัมภาษณ์ได้ คุณอาจไม่สามารถผ่านการประเมินแบบเทียบโอนประสบการณ์ได้

วิธีการอื่นที่อาจช่วยคุณแก้ปัญหานี้ได้ คือ

- คุณอาจต้องหาหลักสูตรอบรมหรือการศึกษาที่เหมาะสมกับความต้องการของคุณ และเข้าร่วมในเวลาที่ไม่ขัดกับการทำงานของคุณ เช่น ในช่วงเย็น หรือวันหยุด

- คุณอาจต้องปรับตารางการทำงานของคุณ เพื่อให้มีเวลาว่างในการเข้าร่วมหลักสูตรอบรมหรือการศึกษา และขออนุญาตจากผู้บังคับบัญชาของคุณ

- คุณอาจต้องหารายได้เพิ่ม เพื่อช่วยให้คุณมีเงินเพียงพอในการเข้าร่วมหลักสูตรอบรมหรือการศึกษา