การสร้างประโยชน์จากผลงาน
การสร้างประโยชน์จากผลงาน
นวัตกรรม เป็นสิ่งที่ทำขึ้นใหม่หรือแปลกจากเดิม เป็นได้ทั้งความคิด วิธีการ หรืออุปกรณ์
การสร้างประโยชน์
ประโยชน์ หมายถึง สิ่งที่มีผลใช้ได้ดีสมกับที่คิดมุ่งหมายไว้ ผลที่ได้ตามต้องการ สิ่งที่เป็นผลดีหรือเป็นคุณ
มูลค่า หมายถึง ค่าของสิ่งของ ราคาของสิ่งของนั้น
คุณค่า หมายถึง สิ่งที่มีประโยชน์หรือมีมูลค่าสูง
การสร้างประโยชน์จากผลงาน เป็นการประยุกต์ใช้ความคิดสร้างสรรค์เพื่อต่อยอดหรือพัฒนาผลงาน ทำด้วยวิธีการ
เพิ่มมูลค่า และ สร้างมูลค่า
การเพิ่มมูลค่า
กลยุทธ์ทางการตลาด (4P) ได้แก่
(1) Product หมายถึง ตัวผลิตภัณฑ์ที่เป็นสินค้าหรือการบริการ เช่น บรรจุภัณฑ์ สี ลักษณะสินค้า
(2) Price ราคาของผลิตภัณฑ์ วิธีการกำหนดราคา เช่น คิดจากต้นทุน หรือลงท้ายด้วยเลข 9
(3) Place สถานที่จำหน่าย ช่องทางใด เช่น ออนไลน์
(4) Promotion หมายถึง กิจกรรมต่างๆ ที่ส่งเสริมการตลาด เช่น โฆษณา จ้างพรีเซ็นเตอร์
พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (E-commerce) เป็นระบบการซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้าหรือบริการ ทำธุรกรรมทางการเงินออนไลน์
-ชำระค่าสินค้าหรือบริการทางออนไลน์ (E-payment)
-ชำระผ่านธนาคาร โดยใช้แอปพลิเคชันต่างๆ (E-banking)
-การใช้เงินและกระเป๋าสตางค์อิเล็กทรอนิกส์ (E-money and E-wallet)
การสร้างมูลค่า
เป็นการสร้างคุณค่าให้ผลงาน เน้นการตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภคทั้งที่เป็นวัตถุสิ่งของและทางด้านอารมณ์ความรู้สึก มี 2 แนวทางคือ
(1) การพัฒนาต่อยอดผลิตภัณฑ์เดิมหรือการสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ เป็นการสร้างมูลค่าที่เน้นตัวผลิตภัณฑ์ทั้งที่เป็นผลิตภัณฑ์เดิม หรือคิดค้นผลิตภัณฑ์ใหม่โดยอาศัยการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ เช่น สินค้า OTOP ข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้
(2) การขยายตลาดหรือการหากลุ่มเป้าหมายใหม่ เป็นการสร้างมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์หรือการบริการโดยมุ่งเน้นไปที่ตลาดหรือกลุ่มผู้บริโภคที่เป็นเป้าหมายเฉพาะ เช่น เกมต่างๆ ผ้าอ้อมสำเร็จรูปสำหรับเด็กหรือผู้ใหญ่
สิทธิและการคุ้มครองผลงาน
ทรัพย์สินทางปัญญา หมายถึง ผลงานอันเกิดจากการประดิษฐ์คิดค้น หรือสร้างสรรค์ของมนุษย์ ต้องจดทะเบียนคุ้มครองตามประเภทของผลงาน ถึงจะได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายโดยชอบธรรม
ทรัพย์สินทางอุตสาหกรรม
สิทธิบัตร คือ หนังสือสำคัญที่รัฐออกให้เพื่อคุ้มครองการประดิษฐ์หรือการออกแบบผลิตภัณฑ์ที่มีลักษณะตามที่กฎหมายกำหนด
สิทธิบัตร
เครื่องหมายการค้า หมายถึง เครื่องหมายหรือสัญลักษณ์หรือตราที่ใช้กับสินค้าหรือบริการ เช่น
เครื่องหมายการค้า
ลิขสิทธิ์
หมายถึง สิทธิที่กฎหมายรับรองให้ผู้สร้างสรรค์ผลงาน กระทำการใดๆ เกี่ยวกับงานที่ตนเองทำขึ้น ผลงาน 9 ประเภทที่กฎหมายลิขสิทธิ์ให้ความคุ้มครอง
ลิขสิทธิ์
ผลงานที่ไม่ถือว่าเป็นลิขสิทธิ์
การนำเสนอผลงาน
เพื่อให้ผู้ฟังเข้าใจเนื้อหาและวัตถุประสงค์ของผู้นำเสนอ สามารถเห็นภาพได้ชัดเจนขึ้น และทำให้การนำเสนอมีชีวิตชีวาไม่น่าเบื่อ เช่น
- การนำเสนอด้วยวาจา อาจพูดปากเปล่าหรือพูดโดยใช้สื่อช่วยประกอบการนำเสนอ เช่น โปสเตอร์ ฟลิบชาร์ต ตลอดจนโปรแกรมคอมพิวเตอร์สำหรับนำเสนอ ไม่ควรใช้สื่อแทนผู้รายงาน การใช้สื่อที่ทันสมัย ก็ไม่ได้รับประกันว่าการนำเสนอจะประสบผลสำเร็จ
- การนำเสนอโดยใช้การเขียน เช่น รายงาน บทความ
หลักจิตวิทยาในการพูด ความสนใจของผู้ฟังจะสูงเมื่อเริ่มพูด แล้วลดลง และเพิ่มขึ้นตอนใกล้จบ
ปัจจัยที่ต้องคำนึงถึงในการนำเสนอผลงานมี 3 ประการ
ผู้นำเสนอ เป็นผู้ที่มีความสำคัญในการถ่ายทอดและสื่อสาร "เนื้อหา" ไปยังผู้ฟัง จึงต้องมีการเตรียมความพร้อมทั้งร่างกายและจิตใจ ขจัดความตื่นเต้นและความกลัว ทำได้โดยวางแผนก่อนการนำเสนอ เตรียมอุปกรณ์สอดคล้องกับเนื้อหา บริหารเวลาได้ มีการนำเสนออย่างราบรื่นและดูดี ใช้ภาษากาย ได้แก่ ดวงตา ท่าทาง และการเคลื่อนไหวอย่างเหมาะสม และสรุปจบอย่างน่าประทับใจ ชัดเจน และครบถ้วนโดยไม่เพิ่มประเด็นใหม่ มีข้อคิดทิ้งท้าย ตอบคำถามดี ยิ้มเสมอ และกล่าวขอบคุณ
เนื้อหาหรือผลงานที่นำเสนอ ควรเตรียมเนื้อหาที่จะนำเสนอให้ชัดเจนเป็นลำดับตามโครงเรื่องที่วางแผนไว้ สามารถแสดงปัญหาหรือจุดประสงค์ของการพัฒนาผลงานได้ชัดเจน แสดงการทำงานของผลงานตรงจุดประสงค์และเพื่อแก้ปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ยกตัวอย่างหรือเปรียบเทียบข้อมูลที่น่าเชื่อถือ และปรับเปลี่ยนได้ตามสถานการณ์
ผู้ฟังหรือกลุ่มเป้าหมาย ควรหาข้อมูลเกี่ยวกับผู้ฟังและเตรียมเนื้อหา ตลอดจนใช้ภาษาให้เหมาะสมกับผู้ฟังและตรงวัตถุประสงค์ของการนำเสนอ และแสดงความมั่นใจผ่านบุคลิกที่ดี น่าเชื่อถือ และตอบคำถามด้วยความมั่นใจในเหตุผลและข้อมูลอ้างอิงโดยไม่คาดเดาเอง