ยินดีต้อนรับเข้าสู่เว็บไซต์แฟ้มผลงานอิเล็กทรอนิกส์ (E-Portfolio)
นางสาวอรุณศรี ยศอ่อน
นางสาวอรุณศรี ยศอ่อน
ชื่อ-สกุล นางสาวอรุณศรี ยศอ่อน
ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการ
กลุ่มสาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
โรงเรียนเพ็ญพิทยาคม อำเภอเพ็ญ จังหวัดอุดรธานี
สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาอุดรธานี
สอนรายวิชา วิทยาศาสตร์พื้นฐาน ชั้น ม.3 ชีววิทยา 2 ม.4 การสื่อสารและการนำเสนอ ม.2 ม.4(2/67)
สอนรายวิชา วิทยาศาสตร์พื้นฐาน ชั้น ม.3 วิทยศาสตร์ชีวภาพ ม.4 (1/68)
เป็นครูที่ปรึกษานักเรียน ชั้นม.3/4 (2/67)
เป็นครูที่ปรึกษานักเรียน ชั้นม.4/1 (1/68)
ตารางสอน ภาคเรียนที่ 2/2567
ตารางสอน ภาคเรียนที่ 1/2568
1. ภาระงาน จะมีภาระงานเป็นไปตามที่ ก.ค.ศ. กำหนด
1.1 ชั่วโมงสอนตามตารางสอน รวมจำนวน....16.6.........ชั่วโมง/สัปดาห์ดังนี้
- รายวิชาวิชาวิทยาศาสตร์พื้นฐาน 6 (ว23102) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/3-3/4
จำนวน...4.98... ชั่วโมง/สัปดาห์
- รายวิชาการสื่อสารและการนำเสนอ (I20202) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/8-2/9
จำนวน...3.32.... ชั่วโมง/สัปดาห์
- รายวิชาการสื่อสารและการนำเสนอ (I31202) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/4,4/6
จำนวน...3.32.... ชั่วโมง/สัปดาห์
- รายวิชาชีววิทยา 2 (ว31242) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/2
จำนวน...2.49.... ชั่วโมง/สัปดาห์
- กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน กิจกรรมลูกเสือเนตรนารี ชั้นมัธยมศึกษา
ปีที่ 1-3 จำนวน..1.66.. ชั่วโมง/สัปดาห์
- กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน กิจกรรมชุมนุม Science Herb ชั้นมัธยมศึกษา
ปีที่ 4-6 จำนวน..0.83.. ชั่วโมง/สัปดาห์
1.2 งานส่งเสริมและสนับสนุนการจัดการเรียนรู้ จำนวน...36...ชั่วโมง/สัปดาห์
- จัดทำแผนการจัดการเรียนรู้ จำนวน 2 ชั่วโมง/สัปดาห์
- สร้างและพัฒนาสื่อการเรียนการสอน จำนวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์
- การมีส่วนร่วมในชุมชนการเรียนรู้ จำนวน 5 ชั่วโมง/สัปดาห์
-งานกรรมการนำนักเรียนไปทัศนศึกษานอกโรงเรียน จำนวน 6 ชั่วโมง/ปี
-งานฝึกซ้อมนักเรียนแข่งขันศิลปหัตถกรรมระดับเขต จำนวน 20 ชั่วโมง/ครั้ง
-เอกสารธุรการชั้นเรียน จำนวน 2 ชั่วโมง/สัปดาห์
1.3 งานพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาของสถานศึกษา จำนวน....29....ชั่วโมง/สัปดาห์
- คณะทำงานกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ฯ จำนวน 2 ชั่วโมง/สัปดาห์
- การพัฒนากระบวนการจัดการเรียนการสอน จำนวน 2 ชั่วโมง/สัปดาห์
- งานเวรประจำวัน จำนวน 2 ชั่วโมง/สัปดาห์
- งานครูประจำชั้น จำนวน 2 ชั่วโมง/สัปดาห์
- งานสำนักงานกิจการนักเรียน จำนวน 2 ชั่วโมง/สัปดาห์
- งานดูแลช่วยเหลือนักเรียน จำนวน 2 ชั่วโมง/สัปดาห์
-งานเยี่ยมบ้าน จำนวน 2 ชั่วโมง/สัปดาห์
-ผู้ปกครองในชั้นเรียน จำนวน 2 ชั่วโมง/สัปดาห์
-งานกิจกรรมโฮมรูม จำนวน 3 ชั่วโมง/สัปดาห์
-งานประชุมผู้ปกครองนักเรียนผู้ปกครองในชั้นเรียน จำนวน 2 ชั่วโมง/สัปดาห์
-งานสร้างขวัญและกำลังใจแก่นักเรียนที่มีความประพฤติดี จำนวน 6 ชั่วโมง/ปี
-งานส่งเสริมประชาธิปไตยสภานักเรียน จำนวน 2 ชั่วโมง/สัปดาห์
- คณะทำงานตามงานต่าง ๆ ที่ได้รับมอบหมาย
1.4 งานตอบสนองนโยบายและจุดเน้น จำนวน...60....ชั่วโมง/ปี
- โครงการส่งเสริมความเป็นเลิศทางวิทยาศาสตร์ จำนวน 6 ชั่วโมง/ปี
- โครงการพัฒนาทักษะการคิดเชิงวิทยาศาสตร์และนวัตกรรมรุ่นเยาว์ในการพัฒนาท้องถิ่น
(Science to School:S2S) จำนวน 2 ชั่วโมง/ปี
- งานเยี่ยมบ้านและติดตามนักเรียน จำนวน 6 ชั่วโมง/ปี
- งานสภานักเรียน จำนวน 6 ชั่วโมง/ปี
- งานโรงเรียนสีขาวของครูที่ปรึกษา จำนวน 40 ชั่วโมง/ปี
ประเด็นที่ท้าทายในการพัฒนาผลลัพธ์การเรียนรู้ของผู้เรียนของผู้จัดทำข้อตกลง ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งครู วิทยฐานะครูชำนาญการ ต้องแสดงให้เห็นถึงระดับการปฏิบัติที่คาดหวังของวิทยฐานะชำนาญการพิเศษ คือ การริเริ่ม พัฒนา การจัดการเรียนรู้และการพัฒนาคุณภาพการเรียนรู้ของผู้เรียน ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นหรือมีการพัฒนามากขึ้น (ทั้งนี้ประเด็นท้าทายอาจจะแสดงให้เห็นถึงระดับการปฏิบัติที่คาดหวังในวิทยฐานะที่สูงกว่าได้)
ประเด็นท้าทาย เรื่อง“ประเด็นท้าทาย ขั้นตอนการสอน 5E (Engage, Explore, Explain, Elaborate, Evaluate) ร่วมกับการใช้ AI รายวิชาวิทยาศาสตร์พื้นฐาน มัธยมศึกษาปีที่ 3 ตอนวงจรไฟฟ้า
1. สภาพปัญหาการจัดการเรียนรู้และคุณภาพการเรียนรู้ของผู้เรียน
1. สภาพปัญหาการจัดการเรียนรู้และและคุณภาพการเรียนรู้ของผู้เรียน
การจัดการเรียนรู้ในปัจจุบันกำลังเผชิญกับความท้าทายใหม่ ๆ ในยุคที่เทคโนโลยีดิจิทัลมีบทบาทสำคัญต่อการดำเนินชีวิตของมนุษย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกระบวนการศึกษา เพื่อพัฒนาศักยภาพของผู้เรียนให้สามารถปรับตัวและเติบโตในสังคมที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ดังนั้นการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในการจัดการเรียนรู้จึงเป็นแนวทางหนึ่งที่สามารถยกระดับประสิทธิภาพการเรียนรู้ให้สูงขึ้นได้อย่างมีนัยสำคัญ
จากประสบการณ์ในการจัดการเรียนรู้ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา พบว่านักเรียนส่วนใหญ่ผู้เรียนขาดความเข้าใจในกระบวนการทำงาน อุปกรณ์ทดลองจริงมีจำกัด ทำให้ไม่สามารถให้นักเรียนทุกคนได้ลงมือทดลองด้วยตนเอง การใช้สื่อแบบเดิมๆ เช่นหนังสือเรียนและภาพนิ่ง ไม่สามารถช่วยให้ผู้เรียนเข้าใจการไหลของกระแสไฟฟ้าและการทำงานของอุปกรณ์ในวงจรได้ดี
จากสถานการณ์ดังกล่าว การพัฒนารูปแบบการเรียนรู้ด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI)
จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งในการส่งเสริมการเรียนรู้ในวิชาวิทยาศาสตร์ ม.3 เรื่อง วงจรไฟฟ้า
ปัญหาด้านการจัดการเรียนรู้
1.วัสดุอุปกรณ์ทดลองเกี่ยวกับวงจรไฟฟ้า เช่น แบตเตอรี่ หลอดไฟ สวิตช์ และสายไฟ มีจำนวนจำกัด ไม่เพียงพอต่อการทดลองของนักเรียนทุกกลุ่ม
2.เวลาเรียนจำกัด ทำให้นักเรียนบางกลุ่มไม่ได้ทดลองด้วยตนเองหรือขาดโอกาสเรียนรู้จากการลงมือทำ
3.การทดลองบางอย่างมีข้อจำกัดด้านความปลอดภัย เช่น การต่อวงจรที่มีกระแสไฟฟ้าสูง
ปัญหาด้านคุณภาพการเรียนรู้ของผู้เรียน
1.นักเรียนบางส่วนไม่เข้าใจแนวคิดเกี่ยวกับกระแสไฟฟ้า ความต่างศักย์ และความต้านทาน เนื่องจากเป็นแนวคิดที่เป็นนามธรรม
2.นักเรียนขาดทักษะการวิเคราะห์และแก้ปัญหาจากสถานการณ์จริงเกี่ยวกับวงจรไฟฟ้า
3.การเรียนการสอนแบบเดิมอาจไม่สามารถดึงดูดความสนใจของผู้เรียนทุกคนได้
จากปัญหาดังกล่าว การใช้โมเดล 5E ร่วมกับ AI ในการเรียนเรื่องวงจรไฟฟ้า ช่วยแก้ปัญหาขาดแคลนอุปกรณ์โดยใช้ AI Simulation แทนการทดลองจริง และช่วยพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ของผู้เรียน นอกจากนี้ยังช่วยให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมมากขึ้น และสามารถนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ในชีวิตจริงได้
ปัญหา คือ วัสดุอุปกรณ์ทดลองเกี่ยวกับวงจรไฟฟ้า เช่น แบตเตอรี่ หลอดไฟ สวิตช์ และสายไฟ มีจำนวนจำกัด ไม่เพียงพอต่อการทดลองของนักเรียนทุกกลุ่ม
แก้ปัญหาโดย จัดการเรียนรู้แบบ (5E's) ร่วมกับ AI ในการเรียนเรื่องวงจรไฟฟ้า ช่วยแก้ปัญหาขาดแคลนอุปกรณ์โดยใช้ AI Simulation แทนการทดลองจริง
2. วิธีการดำเนินการให้บรรลุผล โดยใช้โมเดล 5E ร่วมกับ AI
ขั้นที่ 1: Engage (กระตุ้นความสนใจ)
1.ใช้ AI Chatbot หรือ AI Tutor (เช่น ChatGPT, Google Bard) ให้ผู้เรียนถามคำถามเกี่ยวกับวงจรไฟฟ้า เช่น "ทำไมไฟฟ้าถึงไหลผ่านวงจรได้?"
2.นำเสนอคลิปวิดีโอจำลองวงจรไฟฟ้า ที่อธิบายแนวคิดพื้นฐานผ่าน AI-generated Simulation (เช่น PhET Simulation, Tinkercad หรือโปรแกรมจำลองวงจร)
3.ตั้งคำถามเชิงท้าทาย เช่น "ถ้าเราใช้สายไฟที่มีความต้านทานสูงมาก ไฟฟ้าจะไหลได้หรือไม่?"
ขั้นที่ 2: Explore (สำรวจและค้นหาแนวคิดด้วยตนเอง)
1.ใช้ AI Simulation เพื่อให้นักเรียนทดลองสร้างวงจรไฟฟ้าเสมือนจริง (เช่น ใช้ Tinkercad หรือ PhET) โดยให้นักเรียนลองเปลี่ยนค่าความต้านทาน แรงดันไฟฟ้า และวิเคราะห์ผล
2.แบ่งกลุ่มให้นักเรียนทดลองใช้ AI เพื่อออกแบบวงจรไฟฟ้าและสังเกตการเปลี่ยนแปลงของกระแสไฟฟ้าและความต่างศักย์
3.ใช้ AI วิเคราะห์ข้อมูลการทดลอง เช่น การคำนวณค่าความต้านทานรวมของวงจร
ขั้นที่ 3: Explain (อธิบายแนวคิดทางวิทยาศาสตร์)
1.ให้นักเรียนใช้ AI ช่วยสรุปผลการทดลอง หรือ สร้างแผนภาพความคิด (Mind Map) อัตโนมัติ เกี่ยวกับหลักการของวงจรไฟฟ้า
2.นักเรียนอภิปรายผลจากการทดลอง โดย AI ช่วยตั้งคำถามปลายเปิดเพื่อกระตุ้นการคิดวิเคราะห์
3.ใช้ AI ในการสร้างแบบจำลองหรืออินโฟกราฟิก เพื่อแสดงความเข้าใจเรื่องกระแสไฟฟ้า แรงดันไฟฟ้า และความต้านทาน
ขั้นที่ 4: Elaborate (ขยายความรู้และนำไปใช้ในสถานการณ์ใหม่)
ให้นักเรียนออกแบบวงจรไฟฟ้าในสถานการณ์จริง โดยใช้ AI ช่วยวิเคราะห์ข้อดีและข้อเสียของวงจร
นักเรียนใช้ AI ในการคำนวณและทำนายผลของการเปลี่ยนแปลงในวงจร เช่น หากเพิ่มหลอดไฟอีกดวงในวงจร จะเกิดอะไรขึ้น
นำเสนอผลการออกแบบวงจรและใช้ AI ช่วยสร้างภาพจำลองเพื่ออธิบายการทำงานของวงจรไฟฟ้า
ขั้นที่ 5: Evaluate (ประเมินผลการเรียนรู้)
ใช้ AI วิเคราะห์ผลการเรียนรู้ของนักเรียน ผ่านการทำแบบทดสอบออนไลน์ที่มี AI ช่วยตรวจคำตอบและให้ฟีดแบ็กอัตโนมัติ
ให้นักเรียนสะท้อนความเข้าใจ โดยให้ AI สร้างคำถามปลายเปิดเพื่อตรวจสอบความเข้าใจ
ครูใช้ AI วิเคราะห์พฤติกรรมการเรียนของนักเรียน และออกแบบกิจกรรมเสริมสำหรับนักเรียนที่ยังไม่เข้าใจแนวคิด
3. ผลลัพธ์การพัฒนาที่คาดหวัง
ข้อมูลเชิงคุณภาพ
นักเรียนสามารถอธิบายหลักการทำงานของวงจรไฟฟ้าได้อย่างชัดเจน และมีความเข้าใจแนวคิดเชิงนามธรรมได้ดีขึ้น
นักเรียนมีทักษะในการตั้งคำถาม วิเคราะห์ และทดลองเกี่ยวกับวงจรไฟฟ้าด้วยตนเอง
นักเรียนมีความสนใจและมีส่วนร่วมในการเรียนมากขึ้น เนื่องจากมีการใช้ AI ช่วยจำลองและทดลอง
นักเรียนสามารถเชื่อมโยงความรู้ไปสู่การใช้งานในชีวิตประจำวัน เช่น การซ่อมแซมอุปกรณ์ไฟฟ้าเบื้องต้น
ข้อมูลเชิงปริมาณ
อัตราการมีส่วนร่วมของนักเรียนในกิจกรรมเพิ่มขึ้นจากเดิม อย่างน้อย 80% ของนักเรียนทั้งหมด
นักเรียนอย่างน้อย 90% สามารถใช้ AI Simulation สร้างและวิเคราะห์วงจรไฟฟ้าพื้นฐานได้
นักเรียน 85% สามารถออกแบบวงจรไฟฟ้าและอธิบายหลักการได้อย่างถูกต้อง
ระดับความสนใจและความพึงพอใจในรายวิชาสูงขึ้น (วัดจากแบบสอบถาม)ด้วยการใช้ AI และวิธีการเรียนการสอนเชิงรุก ผู้เรียนจะได้รับประสบการณ์การเรียนรู้ที่มีความหมายและสร้างแรงบันดาลใจให้ตระหนักถึงความสำคัญของการอนุรักษ์ระบบนิเวศและความหลากหลายทางชีวภาพในชีวิตจริงจากวิธีการดำเนินการให้บรรลุผลดังกล่าวข้างต้นสามารถสรุปเป็นขั้นตอนได้ดังภาพ