หน่วยที่ 2 วัสดุสารสนเทศและการตั้งสมมุติฐาน
วัสดุสารสนเทศ
วัสดุสารสนเทศ คือ สื่อที่บันทึกข่าวสาร ข้อมูล ความรู้ ซึ่งแบ่งตามสิ่งที่ใช้บันทึก ได้เป็น 3 ประเภท คือ วัสดุตีพิมพ์ วัสดุไม่ตีพิมพ์ และสื่ออิเล็กทรอนิกส์ วัสดุตีพิมพ์ คือ กระดาษที่พิมพ์ข้อความเพื่อใช้ประกอบการสื่อสารเป็นลายลักษณ์อักษร แบ่งเป็น 5 ประเภทดังนี้
1. หนังสือ เป็นเรื่องราวความรู้ของคนที่เรียบเรียงแล้วจัดพิมพ์ไว้อ่านมีส่วนประกอบที่สำคัญ คือ
1.1 ส่วนปก มีใบหุ้มปก ปกหนังสือ ใบยึดปก และใบรองปก
1.2 ส่วนต้น มีหน้าปกใน คำนา สารบัญ เป็นต้น
1.3 ส่วนเนื้อหา
1.4 ส่วนท้าย มีบรรณานุกรม ภาคผนวก ดัชนี และอภิธานศัพท์
2. วารสาร หรือนิตยสาร เป็นสิ่งพิมพ์ต่อเนื่องที่ออกติดต่อกันเป็นประจาภายใต้ ชื่อเรื่องเดิม เรียงลำดับเนื้อหาตามที่แจ้งไว้ในสารบัญ
3. หนังสือพิมพ์ เป็นสิ่งพิมพ์ต่อเนื่องมักออกเป็นรายวัน เพื่อเสนอข่าว เหตุการณ์ ที่น่าสนใจ
4. จุลสาร เป็นสิ่งพิมพ์ที่มีความยาวไม่มาก
5. กฤตภาค เป็นการรวบรวมเรื่องจากสิ่งพิมพ์ นำมาจัดเก็บเป็นระบบ วัสดุไม่ตีพิมพ์ เป็นวัสดุที่สามารถมองเห็น (ทัศนวัสดุ) หรือฟัง (โสตวัสดุ) หรือทั้งมองเห็น และฟัง (โสตทัศนวัสดุ) ได้โดยตรง หรือต้องอาศัยเครื่องมือนำเสนอข้อมูล เช่น รายการวิทยุ รูปภาพ หุ่นจาลอง รายการโทรทัศน์ ไมโครฟิล์ม เป็นต้น สื่ออิเล็กทรอนิกส์ มีลักษณะเป็นสื่อประสมของข้อมูล ภาพ ภาพเคลื่อนไหว เสียง เช่น บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เป็นซอฟ์แวร์ทางการศึกษาที่ผู้เรียนสามารถเรียนได้ด้วยตนเอง ทำกิจกรรมตอบสนองร่วมกับสื่อได้โดยผ่านเทคโนโลยีสารสนเทศ เป็นต้น สื่อการเรียนบนอินเทอร์เน็ต หรืออีเลิร์นนิ่ง หนังสือ และวารสารอิเล็กทรอนิกส์ บอกรับเป็นสมาชิกได้ทางซีดีรอม ฐานข้อมูล และเครือข่ายอินเทอร์เน็ต
การตั้งสมมุติฐาน
การตั้งสมมุติฐาน คือ ข้อคิดเห็น หรือถ้อยแถลงที่ใช้เป็นมูลฐานแห่งการหาเหตุผล การทดลอง หรือการวิจัย เรียกว่า สมมุติฐาน (ราชบัณฑิตยสถาน. 2546 : 1127) ซึ่งเป็นวิธีการแก้ปัญหาทางวิทยาศาสตร์โดยการเริ่มต้นจากการตั้งประเด็นปัญหา จากนั้นจะศึกษาค้นคว้า รวบรวมข้อมูลเพื่อคาดคะเนคำตอบของปัญหานั้นสมมุติฐาน ต้องสอดคล้องกับจุดมุ่งหมายของการศึกษาค้นคว้า
สมมุติฐานการศึกษาค้นคว้า เป็นคำตอบสรุปของผลการศึกษาที่ผู้ศึกษาค้นคว้าคาดคะเน หรือพยากรณ์ไว้ล่วงหน้าก่อนการเก็บรวบรวมข้อมูล คำตอบดังกล่าวได้มาจากการไตร่ตรองโดยใช้เหตุผลที่น่าจะเป็นให้มากที่สุด โดยมีรากฐานของทฤษฏี ผลการศึกษาค้นคว้า หรือผลการวิจัยที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนั้น (บุญชม ศรีสะอาด. 2545 : 34) ซึ่งผู้ศึกษาค้นคว้ามั่นใจว่าผลการศึกษาค้นคว้าจะตรงกับสมมุติฐานที่ตั้งไว้ แต่ผลการศึกษาค้นคว้าจริงอาจจะตรง หรือไม่ตรงกับสมมุติฐานก็ได้ สิ่งสำคัญ คือ ผู้ศึกษาค้นคว้าต้องอธิบายได้ว่าผลการศึกษาค้นคว้าเป็นเช่นนั้นเพราะเหตุใด
สมมุติฐานแบ่งได้ 2 ประเภทดังนี้ (จรัญ จันทลักขณา และกษิดิศ อื้อเชี่ยวชาญกุล. 2551 : 38)
1. สมมุติฐานทางสถิติ กำหนดขึ้นก่อนการทดลอง เป็นสมมุติฐานที่กำหนดเมื่อไม่รู้ว่า “มี” ให้กำหนดในเบื้องต้นว่า “ไม่มี” เช่น ไม่มีความแตกต่าง ไม่มีความสัมพันธ์ เป็นต้น
2. สมมุติฐานทางเลือก ในการศึกษาค้นคว้าให้ตั้งสมมุติฐานทางเลือกเพื่อใช้เป็นทางเลือกในการสรุปผล ถ้าหากผลการทดสอบทางสถิติชี้ว่า “ไม่จริง” แล้ว “ยอมรับ” เช่น มีความแตกต่าง มีความสัมพันธ์ เป็นต้น
ประโยชน์ของสมมุติฐาน
1. ใช้ตรวจสอบผลการศึกษาค้นคว้าได้
2. จำกัดขอบเขตการศึกษาค้นคว้าให้ดาเนินไปตามวัตถุประสงค์
3. ช่วยให้เข้าใจเรื่องที่ศึกษาค้นคว้าได้ชัดเจน