ประเด็นท้าทาย เรื่อง การพัฒนาการจัดการเรียนรู้รายวิชาภาษาไทย เรื่อง การเขียนบรรยาย บูรณาการบนพื้นฐานวัฒนธรรมวิถีน่าน โดยใช้กระบวนการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) การเสริมต่อการเรียนรู้ ( Scaffolding ) ร่วมกับเทคนิค ๕W๑H
📚๑. สภาพปัญหาการจัดการเรียนรู้และคุณภาพการเรียนรู้ของผู้เรียน
หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ได้กำหนดสาระและมาตรฐานการเรียนรู้ สาระที่ 2 การเขียน เนื่องจากนักเรียนชั้นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนแม่จริม ขาดพื้นฐานด้านการเขียนภาษาไทย นักเรียนมีผลการคัดกรองการอ่าน การเขียน ในระดับ พอใช้ เพื่อเพิ่มความสามารถในด้านการเขียนและเพิ่มผลสัมฤทธิ์ในวิชาภาษาไทยให้สูงขึ้น การเขียนเป็นการสื่อสารที่ซับซ้อนกว่าทักษะอื่นเพราะผู้ที่จะสามารถจินตนาการออกมาทางการเขียนเพื่อสื่อความหมายให้ผู้อื่นเข้าใจนั้นต้องสามารถฟัง พูด อ่าน ได้ดีจึงจะช่วยให้สามารถถ่ายทอดความรู้ความเข้าใจออกมาเป็นงานเขียนได้ ทักษะการเขียนจึงเป็นเครื่องมือในการสื่อความหมายที่คงทนถาวรเป็นหลักฐานที่ดีกว่าทักษะอื่น ดังนั้นผู้เขียนจึงต้องพยายามเขียนคำให้ถูกต้อง ใช้ภาษาที่ถูกต้องเพื่อสื่อความหมายให้ผู้อื่นเข้าใจ การเขียนจึงจะมีประสิทธิภาพ ในการเขียนต้องคำนึงถึงการสะกดคำที่ถูกต้อง เพราะการเขียนสะกดคำถูกและรวดเร็วช่วยให้ผู้เขียนเกิดความมั่นใจในตนเองทุกครั้งที่เขียนว่าจะสามารถทำให้ผู้อ่านเข้าใจได้ง่ายและถูกต้องแล้ว ต้องคำนึงถึงเนื้อความตามวัตถุประสงค์ สำนวนที่สละสลวยถูกต้องตามหลักภาษา ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องพื้นฐานและหัวใจหลักของการศึกษาในทุกวิชา การเสริมต่อการเรียนรู้พื้นที่รอยต่อพัฒนาการเป็นระยะห่างระหว่างระดับพัฒนาการที่เป็นจริงกับระดับพัฒนาการที่สามารถเป็นไปได้ เด็กสามารถแก้ปัญหาที่ยากเกินกว่าระดับพัฒนาการที่แท้จริงของเขาได้ หากได้รับการแนะนำช่วยเหลือหรือได้รับความร่วมมือจากผู้ที่เชี่ยวชาญที่มีความสามารถมากกว่า ต่อมาจะอธิบายแนวความคิดเรื่องการเสริมต่อการเรียนรู้การเสริมต่อการเรียนรู้เป็นบทบาทผู้สอนในการส่งเสริมพัฒนาการของผู้เรียนและเตรียมการชี้แนะหรือให้ความช่วยเหลือเพื่อให้ผู้เรียนไปสู่พัฒนาการในระดับที่สูงขึ้น จากนั้นก็จะอธิบายข้อเสนอแนะที่ทำให้การเสริมต่อการเรียนรู้ประสบความสำเร็จ
จึงมีความสนใจการพัฒนาการจัดการเรียนรู้รายวิชาภาษาไทย เรื่อง การเขียนบรรยาย บูรณาการบนพื้นฐานวัฒนธรรมวิถีน่าน โดยใช้กระบวนการจัดการเรียนรู้เชิงรุก
(Active Learning) การเสริมต่อการเรียนรู้ ( Scaffolding ) ร่วมกับเทคนิค ๕W๑H เนื่องจากเด็กในวัยนี้เป็นช่วงวัยสำคัญที่สามารถพัฒนาความคิดทางด้านภาษาได้เป็นอย่างดี นักเรียนจึงควรได้รับการจัดการเรียนรู้ ที่จะช่วยในการพัฒนาในด้านการเขียน ให้มีนักเรียนมีการทำงานร่วมกับผู้อื่น ทำงานตามความสมัครใจและการมีแรงจูงใจที่มีผลต่อการเรียนรู้ที่จะเป็นแนวทางในการพัฒนาความสามารถในการเขียนบรรยาย และเป็นแนวทางในการปรับปรุงการเรียนการสอนภาษาไทยให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
วัตถุประสงค์สอดคล้องกับความสำคัญของผลงาน
๑. เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรายวิชาภาษาไทย เรื่อง การเขียนบรรยาย
บูรณาการบนพื้นฐานวัฒนธรรมวิถีน่าน ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒ ก่อนและหลังเรียน โดยใช้กระบวนการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) การเสริมต่อการเรียนรู้
( Scaffolding ) ร่วมกับเทคนิค ๕W๑H
๒. เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒ จากการจัดการเรียนรู้รายวิชาภาษาไทย เรื่อง การเขียนบรรยาย บูรณาการบนพื้นฐานวัฒนธรรมวิถีน่าน โดยใช้กระบวนการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) การเสริมต่อการเรียนรู้
( Scaffolding ) ร่วมกับเทคนิค ๕W๑H
📚๒. วิธีการดำเนินการให้บรรลุผล
ในการออกแบบการจัดการเรียนรู้ครูผู้สอนมีการกำหนดจุดประสงค์การเรียนรู้ ตัวชี้วัด อีกทั้งมีการออกแบบการจัดการเรียนรู้ที่สะท้อนให้เห็นเป้าหมายด้านความรู้ ทักษะ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ และสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน จึงจัดกิจกรรมการเรียนรู้ซึ่งครูได้นำวงจรควบคุมคุณภาพ (PDCA) ของเดมมิ่ง คือ ย่อมาจาก 4 คำ ได้แก่ Plan (วางแผน), Do (การปฏิบัติ), Check (การตรวจสอบ) และ Act (การปรับปรุงแก้ไข) มาใช้ในการดำเนินงานดังนี้
ขั้นวางแผน (Plan)
1. ศึกษาหลักสูตร จุดมุ่งหมายของหลักสูตร สาระ มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัดของเนื้อหาสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒ การศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.๒๕๖๐) วิเคราะห์มาตรฐาน ตัวชี้วัด วิชาภาษาไทย กำหนดวัตถุประสงค์ และเลือกแนวทางในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เหมาะสมกับนักเรียน
๒. วิเคราะห์ผู้เรียนรายบุคคล ประเมินความสามารถของผู้เรียน เพื่อคัดกรองนักเรียนและเป็นข้อมูลพื้นฐานในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน
๓. ศึกษารูปแบบกระบวนการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning)
๔. นำข้อมูลที่สืบค้นได้มาวิเคราะห์ วางแผน ออกแบบกำหนดกิจกรรมการเรียนรู้ สื่อการเรียนรู้ รวมทั้งการวัดและประเมินผล โดยพิจารณาให้สอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้ของแต่ละหัวข้อเรื่อง และความสอดคล้องกับการจัดการเรียนรู้รายวิชาภาษาไทย เรื่อง การเขียนบรรยาย บูรณาการบนพื้นฐานวัฒนธรรมวิถีน่าน โดยใช้กระบวนการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) การเสริมต่อการเรียนรู้ ร่วมกับเทคนิค ๕W๑H
๕. สร้างแผนการจัดการเรียนรู้ โดยใช้กระบวนการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) การเสริมต่อการเรียนรู้ ร่วมกับเทคนิค ๕W๑H จำนวน ๕ แผน (แผนละ 1 ชั่วโมง) ใช้เวลาการสอนทั้งสิ้น ๕ ชั่วโมง ซึ่งแต่ละแผนการจัดการเรียนรู้จะประกอบด้วย มาตรฐานการเรียนรู้ สาระ ตัวชี้วัด สาระสำคัญ จุดประสงค์การเรียนรู้ สาระการเรียนรู้ กิจกรรม/กระบวนการเรียนรู้ ชิ้นงาน/ภาระงาน การวัดและประเมินผลสื่อการเรียนรู้/แหล่งการเรียนรู้ โดยกิจกรรมค่ายประวัติศาสตร์ ย้อนรอยอดีต เรียนรู้ถิ่น แผ่นดินน่าน บูรณาการการจัดการเรียนรู้ร่วมกับกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม และใบกิจกรรม โดยกระบวนการจัดการเรียนรู้ วิธีการจัดการเรียนรู้ด้วยการเสริมต่อการเรียนรู้ (Scaffolding) ร่วมกับเทคนิค ๕W๑H โดยมีครูเป็นผู้ให้ความรู้ช่วยเหลือ มีความสัมพันธ์กันในกลุ่มเพื่อน กระทั่งลดการช่วยเหลือ จนเห็นผลของความช่วยเหลือในท้ายที่สุด ด้วยกระบวนการ 6 ขั้นตอน
๖. จัดทำแบบทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียนเรื่องการเขียนบรรยาย บูรณาการบนพื้นฐานวัฒนธรรมวิถีน่าน และแบบประเมินการเขียนบรรยายบูรณาการบนพื้นฐานวัฒนธรรมวิถีน่าน ที่มีการจัดการเรียนรู้ด้วยการเสริมต่อการเรียนรู้ ร่วมกับเทคนิค ๕W๑H ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒ ตามระดับคะแนน (Rubric Scores)
๗. แบบประเมินความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒ ที่มีต่อการจัดการเรียนรู้ภาษาไทยด้วยการเสริมต่อการเรียนรู้ร่วมกับเทคนิค ๕W๑H
ขั้นดำเนินการ (Do)
๑.นำแผนการจัดการเรียนรู้ เรื่อง การเขียนบรรยาย บูรณาการบนพื้นฐานวัฒนธรรมวิถีน่าน โดยใช้กระบวนการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) การเสริมต่อการเรียนรู้ ( Scaffolding ) ร่วมกับเทคนิค ๕W๑H มาใช้จัดกิจกรรมการเรียนรู้กับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒ โรงเรียนแม่จริม
๒.จัดกระบวนการเรียนรู้การพัฒนาการจัดการเรียนรู้ภาษาไทย ด้วยการเสริมต่อการเรียนรู้(Scaffolding) ร่วมกับเทคนิค ๕W๑H
การพัฒนาผลงานและนวัตกรรมของนักเรียนจากการจัดการเรียนการสอน Active learning โดยใช้กระบวนการสอนแบบการเสริมต่อการเรียนรู้ ( Scaffolding ) ร่วมกับเทคนิค ๕W๑H ของการพัฒนาผู้เรียนให้เกิดการเรียนรู้สูงสุด ดังนี้
การเสริมต่อการเรียนรู้ ( Scaffolding ) หมายถึง วิธีการจัดการเรียนรู้ที่มีการเสริมต่อระดับพัฒนาการการเรียนรู้ของผู้เรียนโดยใช้กระบวนการ 6 ขั้นตอน ดังต่อไปนี้
ขั้นที่ ๑ สร้างความสนใจให้นักเรียนเรียนรู้ด้วยความสมัครใจ ครูใช้สื่อหลากหลาย กระตุ้นความสนใจของนักเรียนและเปิดโอกาสให้นักเรียนเลือกเรียนรู้ด้วยตนเอง
ขั้นที่ ๒ การใช้ประสบการณ์ของผู้เรียนในการปรับบริบทการเรียนรู้ ครูใช้คำถามเพื่อเสริมสร้างประสบการณ์และปรับบริบทการเรียนรู้ของนักเรียน
ขั้นที่ ๓ การสร้างความคิดให้ชัดเจน นักเรียนแต่ละคนกำหนดแผนในการเขียนอย่างเป็นลำดับขั้นตอน ร่วมกับเทคนิค ๕W๑H ได้แก่ What อะไร ปัญหาหรือสาเหตุที่เกิดขึ้น Where ที่ไหน สถานที่หรือตำแหน่งที่เกิดเหตุ When เมื่อไร เวลาที่เหตุการณ์นั้นได้เกิดขึ้น หรือจะเกิดขึ้น Why ทำไม สาเหตุหรือมูลเหตุที่ทำให้เกิดขึ้น How ทำไม จึงเกิดเรื่องนี้
ขั้นที่ ๔ การตรวจสอบทบทวนความคิด ให้นักเรียนจับกลุ่มหรือจับคู่ คละความสามารถ (เก่ง ปานกลาง อ่อน) เพื่อตรวจสอบผลงาน
ขั้นที่ ๕ การลงมือเขียนตามผังมโนทัศน์ ให้นักเรียนจับกลุ่มหรือจับคู่ คละความสามารถ (เก่ง ปานกลาง อ่อน) เขียนผังมโนทัศน์สรุปความรู้
ขั้นที่ ๖ การตรวจประเมินผลงานและปรับปรุง นักเรียนสามารถเขียนเรื่องตามจินตนาการได้ด้วยตนเอง
ขั้นการตรวจสอบ ( Check )
๑. ใช้แบบทดสอบก่อนเรียน-หลังเรียน เรื่อง การเขียนบรรยาย บูรณาการบนพื้นฐานวัฒนธรรมวิถีน่าน ให้สอดคล้องกับมาตรฐานการเรียนรู้ ตัวชี้วัด และวัตถุประสงค์การเรียนรู้ โดยมีการวัดและประเมินผลด้วยวิธีการที่หลากหลาย
๒ . ประเมินควาพึงพอใจต่อการจัดการเรียนรู้รายวิชาภาษาไทย เรื่อง การเขียนบรรยาย
บูรณาการบนพื้นฐานวัฒนธรรมวิถีน่าน โดยใช้กระบวนการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) การเสริมต่อการเรียนรู้ ร่วมกับเทคนิค ๕W๑H ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒
ขั้นการปรับปรุงแก้ไข (Act)
๑. นำข้อเสนอแนะในการนำไปใช้และการศึกษาค้นคว้าครั้งต่อไปจากนวัตกรรมเดิมไปพัฒนา
๒. ปรับปรุงพัฒนาแผนการจัดการเรียนรู้ โดยนำข้อเสนอแนะและข้อควรปรับปรุงพัฒนาให้สอดคล้องกับนวัตกรรมที่ปรับปรุง
๓. ขยายเครือข่ายและจัดทำโครงงานบูรณาการข้ามกลุ่มสาระการเรียนรู้และขยายสู่ภายนอก
📚๓. ผลการดำเนินงาน/ประโยชน์ที่ได้รับ
ผลการดำเนินงาน
๑.นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒ ได้รับการจัดการเรียนรู้รายวิชาภาษาไทย เรื่อง การเขียนบรรยาย บูรณาการบนพื้นฐานวัฒนธรรมวิถีน่าน โดยใช้กระบวนการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) การเสริมต่อการเรียนรู้ ร่วมกับเทคนิค ๕W๑H ตามที่กำหนดครอบคลุมทุกกิจกรรม
๒.ครูผู้สอนนำนวัตกรรมวิธีปฏิบัติที่เป็นเลิศ (Best Practice) การจัดการเรียนรู้รายวิชาภาษาไทย เรื่อง การเขียนบรรยาย บูรณาการบนพื้นฐานวัฒนธรรมวิถีน่าน โดยใช้กระบวนการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) การเสริมต่อการเรียนรู้ ร่วมกับเทคนิค ๕W๑H เป็นนวัตกรรมที่ครูสามารถนำมาใช้จัดกระบวนการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนภาษไทย
ผลสัมฤทธิ์
๑. ผลคะแนนการเขียนบรรยาย บูรณาการบนพื้นฐานวัฒนธรรมวิถีน่าน หลังจากการจัดการเรียนรู้รายวิชาภาษาไทย เรื่อง การเขียนบรรยาย บูรณาการบนพื้นฐานวัฒนธรรมวิถีน่าน โดยใช้กระบวนการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) การเสริมต่อการเรียนรู้ ร่วมกับเทคนิค ๕W๑H ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒ มีค่าเฉลี่ยคะแนนก่อนเรียนเท่ากับ ๖.๐๐ มีค่าเฉลี่ยคะแนนหลังเรียนเท่ากับ ๙.๒๖ คะแนนหลังเรียนสูงกว่าคะแนนก่อนเรียน ๓.๒๖
๒. ผลคะแนนความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒ จากการจัดการเรียนรู้รายวิชาภาษาไทย เรื่อง การเขียนบรรยาย บูรณาการบนพื้นฐานวัฒนธรรมวิถีน่าน โดยใช้กระบวนการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) การเสริมต่อการเรียนรู้ ร่วมกับเทคนิค ๕W๑H อยู่ในระดับมากที่สุด
( = ๔.๙๕, S.D.=0.๑๗)
ประโยชน์ที่ได้รับ
๑. กระบวนการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) สามารถสร้างบรรยากาศแห่งการเรียนรู้ ส่งผลให้นักเรียนมีความกระตือรือร้น และมีทักษะในการทำงานเป็นกลุ่ม
๒. จากการจัดการเรียนรู้รายวิชาภาษาไทย เรื่อง การเขียนบรรยาย บูรณาการบนพื้นฐานวัฒนธรรมวิถีน่าน โดยใช้กระบวนการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) การเสริมต่อการเรียนรู้ ร่วมกับเทคนิค
๕W๑H เป็นแนวทางในการศึกษาค้นคว้าในการวิจัยเกี่ยวกับการเขียน
๓. นำผลมาใช้เป็นแนวทางในการพัฒนา ปรับปรุงการจัดการเรียนการสอนภาษาไทยให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น