ถ้ำนางสิบสอง ตำบลดงน้อย อำเภอราชสาส์น
“ถ้ำนางสิบสองเป็นเรื่องเล่าในนิทานพื้นบ้านเรื่องพระรถเมรี”
เป็นแหล่งท่องเที่ยวถ้ำนางสิบสอง ตำบลดงน้อย อำเภอราชสาส์น เป็นหน่วยอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมธรรมชาติและศิลปกรรมท้องถิ่นจังหวัดฉะเชิงเทรา บ่อนางสิบสอง จะตั้งอยู่ใกล้กับวัดหินดาษ อ.ราชสาส์น จ.ฉะเชิงเทรา เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของ อ.ราชสาส์น สถานที่แห่งนี้มีเรื่องเล่าตำนานชาวบ้านและประวัติศาสตร์น่าสนใจ คือ ถ้ำนางสิบสอง เป็นบ่อศิลาแลงลึกลงไปในดิน มีน้ำเอ่อเกลือบเมตร ปากบ่อกว้างประมาณ 1 เมตร ภายในเวิ้งกว้างและลึกเท่าใดไม่ทราบชาวดงน้อยเล่าว่าเมื่อก่อนปากบ่อกว้างกว่าปัจจุบันเห็นน้ำในบ่อตักเท่าไหร่ไม่รู้จักหมดและสามารถเดินตามบ่อนี้ไปทะลุที่ลานพระรถชนไก่ ครั้งหนึ่งมีวัวเดินตกลงไปตายในบ่อชาวบ้านเลยช่วยกันนำต้นโพธิ์มาปลูกปิดบัง ต่อมาต้นโพธิ์โค่นล้มไปอีก จึงเหลือแต่โพรงศิลาเป็นถ้ำนางสิบสองให้เราได้เห็นจนบัดนี้
บางท่านก็เล่าขานกันว่าพบบ่อน้ำศิลาแลง 3 บ่อ มีน้ำใสซึมตลอดปี และมีบ่อหนึ่งเป็นตำนานว่าเป็นถ้ำนางสิบสอง ที่นางยักษ์สนธมารกักขังทั้งสิบสองไว้ เล่ากันว่าภายในถ้ำลึกไปไกลไม่รู้จุดหมาย ใกล้กันมีรูปปั้นนางทั้งสิบสอง อีกบ่อหนึ่งเป็นบ่อน้ำศิลาแลงขนาดใหญ่กว่า 2 บ่อ ที่มีบันทึกในประวัติศาสตร์ว่า เคยใช้เป็นน้ำในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก รัชกาลที่ 6, 7 และ 9
บางท่านก็ว่ามีเมื่อประมาณ 30 กว่าปีมานี้มีพวกขุดทรัพย์ตามลายแทงเอาสายสิญจน์มาวงรอบสระเพื่อขุดทรัพย์
พองัดหินสี่เหลี่ยมกว้างยาวสัก 2 ฟุต ก็ได้ยินเสียงสนั่นครั้นครืนทั่วทั้งหมู่บ้านและวัดซึ่งอยู่ใกล้พอสิ้นเสียงพวกที่ขุดทรัพย์ก็มองเห็นทองเต็มลำเรือเหลืองอร่าม พอเอื้อมมือจะคว้าทองเรือก็เลื่อนจมหายไปต่อหน้าต่อตาได้แต่ดีบุกไป 18 กระบุง แล้วก็รีบไปตั้งแต่คืนนั้น รุ่งเช้าชาวบ้านที่ได้ยินเสียงก็ออกมาที่สระทั้งหมู่บ้านพระเณรออกมากันเต็มเห็นแต่จีวรเหลืองไปหมดแต่แล้วไม่พบอะไรเลยนอกจากสระเปล่าๆและหินก้อนนั้น ตากังที่สูงอายุแล้วจึงยกหินนั้นไปที่บ้านทำเป็นที่ล้างเท้าชาวบ้านที่อยู่ใกล้ๆ เล่าว่าเสียงสะเทือนเลื่อนลั่นแทบจะทำให้บ้านช่องถล่มทลายลงมา
ลักษณะเด่น
ภายในลึกเท่าใดไม่ทราบชาวดงน้อยเล่าว่าเมื่อก่อนปากบ่อกว้างกว่าปัจจุบันเห็นน้ำในบ่อตักเท่าไหร่ไม่รู้จักหมดและสามารถเดินตามบ่อนี้ไปทะลุที่ลานพระรถชนไก่ ครั้งหนึ่งมีวัวเดินตกลงไปตายในบ่อชาวบ้านเลยช่วยกันนำต้นโพธิ์มาปลูกปิดบัง ต่อมาต้นโพธิ์โค่นล้มไปอีก จึงเหลือแต่โพรงศิลาเป็นถ้ำนางสิบสองให้เราได้เห็นจนทุกวันนี้