ประเพณีลอยกระทงสายไหลประทีป 1000 ดวง
ประเพณีลอยกระทงสายไหลประทีป 1000 ดวง
"ประเพณีลอยกระทงสาย ไหลประทีป 1,000 ดวง" ของชาวจังหวัดตาก มีมาช้านานหลายชั่วอายุคนแล้ว เพื่อเป็นการบูชาพระพุทธเจ้า และขอขมาพระแม่คงคา ซึ่งในสมัยก่อนชาวบ้านจะใช้ใบพลับพลึงมาเย็บเป็นกระทง แล้วตักขี้ไต้ใส่เชื้อเพลิงคือน้ำมันมะพร้าว ปล่อยลงสู่ลำน้ำปิง ซึ่งเมื่อมองดูใบพลับพลึงจะให้สีขาวนวล ส่วนขี้ไต้จะสว่างไสว ดูสวยงามคล้ายไข่แดงในไข่ขาว ลอยระยิบระยับเป็นสายในท้องน้ำ แต่เมื่อใบพลับพลึงหายากขึ้น ชาวบ้านจึงเปลี่ยนมาใช้กะลามะพร้าวตาเดียว (กะลาที่ไม่มีรู) แทน
สำหรับเหตุผลที่คนตากนิยมนำกะลามาทำกระทง ไม่ใช้ใบตองเหมือนที่อื่นก็อาจเป็นเพราะ ชาวเมืองตากนิยมกิน"เมี่ยง" เป็นประจำหลังอาหารหรือเป็นอาหารว่าง นอกจากนี้ยังขายเป็นสินค้าพื้นเมืองจนเป็นที่นิยมทั่วไปในภาคเหนือ โดยการทำเมี่ยงนั้นจะมีมะพร้าวเป็นส่วนประกอบที่สำคัญ เมื่อเอาเนื้อไปทำเมี่ยง ตัวกะลาที่มีเหลือจำนวนมากถ้าทิ้งไว้เฉยๆ ก็ไม่ได้ใช้ประโยชน์ ชาวตากจึงนำกะลาไปประยุกต์ทำเป็นกระทง
โดยจะนำกะลามาขัดถูให้สะอาด ตกแต่งลวดลายอย่างสวยงาม และภายในกะลาใส่ด้ายดิบที่ฟั่นเป็นรูปตีนกา แล้วหล่อด้วยเทียนขี้ผึ้งซึ่งนำมาจากเทียนจำนำพรรษา ที่พระสงฆ์ได้จุดเพื่อทำพิธีสวดมนต์ในโบสถ์วิหารตลอดสามเดือน หลังจากออกพรรษาชาวบ้านจะนำเทียนพรรษาเหล่านั้นมาหล่อตีนกา ซึ่งถือว่าเป็นของสิริมงคล ทั้งนี้การจุดไฟที่ด้ายซึ่งฟั่นเป็นรูปตีนกานั้นถือเป็นความเชื่อของชาวบ้านที่ว่า แสงไฟจะสร้างความสว่างไสวให้กับชีวิตของตนและในการลอยกระทงสายจะเริ่มต้นด้วยการลอย "กระทงนำ" หรือแพผ้าป่าน้ำ ซึ่งเป็นกระทงขนาดใหญ่ ประดับตกแต่งอย่างสวยงาม ด้วยดอกไม้ รูปเทียน ธงกระดาษแก้วหลากหลายสีที่ตัดเป็นลวดลายสวยงาม ใส่ผ้าสบง เครื่องกระยาบวช หมาก พลู ขนม ผลไม้ และเศษสตางค์ ซึ่งกระทงนำนี้ก่อนลอยต้องทำพิธีขอขมา เพื่อเป็นการบูชาพระแม่คงคา และพระพุทธเจ้า แล้วค่อยตามมาด้วย "กระทงตาม" ซึ่งทำด้วยกะลามะพร้าว โดยใช้เทียนขี้ผึ้งและฟั่นด้ายเป็นไส้เพื่อจุดให้แสงไฟ ลอยตามมาอีก 1,000 ใบ แล้วปิดท้ายด้วย "กระทงปิดท้าย" ซึ่งมีลักษณะเหมือนกระทงนำ แต่มีขนาดเล็กกว่า เพื่อเป็นการบอกว่าการลอยกระทงสายนี้ได้สิ้นสุดลงแล้ว
สำหรับผู้สนใจชม"ประเพณีลอยกระทงสายไหลประทีป 1000 ดวง" แห่ง จ.ตากนั้น สามารถชมได้ในช่วงลอยกระทงของทุกๆปี ณ บริเวณริมลานกระทงสาย เชิงสะพานสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์
สะพานแขวน(สะพานสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์)
สะพานสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ 200 ปี หรือที่เรียกว่า "สะพานแขวน" สร้างเมื่อ พุทธศักราช 2525 โดยองค์การบริหารส่วนจังหวัดตาก เพื่อสมโภชน์กรุงรัตนโกสินทร์ 200 ปี ขนาดกว้าง 2.50 ม. ยาว 700 ม. ฐานรากและเสาเป็นคอนกรีต จำนวน 5 จุด พื้นทำด้วยไม้โยงยึดด้วยลวดสลิงขนาดใหญ่ซึ่งในอดีตสามารถใช้รถจักรยานและรถจักรยานยนต์สัญจรไปมาได้แต่ปัจจุบันเป็นสะพานสำหรับเดินชมทิวทัศน์แม่น้ำปิงและ มีการประดับไฟสวยงามในยามค่ำคืน สะพานสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ 200 ปีเป็นสะพานแขวนที่สวยงาม เหมาะสำหรับชมความงามของ ลำน้ำปิง บริเวณโดยรอบมีสวนเฉลิมพระเกียรติฯ ซึ่งเป็นสวนสาธารณะที่สวยงาม มีสวนสุขภาพ และสนามกีฬาหลายประเภทยาวตามลำน้ำปิงมีอาคารกิตติคุณสำหรับใช้จัดกิจกรรมงานต่าง ๆ ในปัจจุบันบริเวณสะพานแขวนและสวนเฉลิมพระเกียรติฯ เป็นบริเวณที่จังหวัดตากใช้จัดงานประเพณีลอยกระทงสายไหลประทีปพันดวงซึ่งเป็นงานประเพณีประจำท้องถิ่น