หุ่นกระบอก คณะสังวาลย์ศิลป์
หุ่นกระบอก คณะสังวาลย์ศิลป์
จังหวัดตากมีศิลปะการแสดงพื้นบ้าน “หุ่นกระบอก” คณะสังวาลย์ศิลป์ ซึ่งคุณพ่อและคุณแม่ของคุณสังวาลย์ อิ่มเอิบ เป็นผู้ประดิษฐ์หุ่นโบราณขึ้น โดยใช้ไม้ทองหลางมาทำเป็นตุ๊กตาเพื่อให้ลูกหลานเล่น ภายหลังจึงนำไปแสดงให้ผู้คนได้รับชม ต่อมาเมื่อคุณพ่อและคุณแม่ได้เสียชีวิตลง คุณสังวาลย์และคุณชัยพฤกษ์ อิ่มเอิบ (สามี) จึงได้สืบทอดหุ่นกระบอก และนำไปแสดงในงานเทศกาลต่าง ๆ เช่น งานลอยกระทง งานรัฐธรรมนูญ งานตากสินราชานุสรณ์และงานกาชาดจังหวัดตาก โดยส่วนใหญ่จะแสดงเป็นเรื่องราวจากวรรณคดี เช่น พระอภัยมณี ไชยเชษฐ์ โม่งป่า สังข์ทอง ฯลฯ
ลักษณะของตัวหุ่นกระบอกสังวาลศิลป์ มีส่วนประกอบ สำคัญ 4 ส่วน คือ ศีรษะของหุ่น ลำตัวของหุ่น เสื้อผ้าเครื่องประดับ แขนและมือหุ่น มีลักษณะเฉพาะเลียนแบบมาจากรูปร่างลักษณะของคน โดยลักษณะของมือ มีความอ่อนช้อย เหมือนแสดงการร่ายรำ
ศีรษะ ของหุ่นกระบอกสังวาลย์ศิลป์สร้างขึ้นจากไม้ทองหลาง เพราะเป็นไม้ที่มีเนื้ออ่อนแกะสลักตามลักษณะของตัวละคร คือ มีศีรษะลักษณะกลมเป็นรูปศีรษะมนุษย์ ด้านบนของศีรษะมีลักษณะป้าน แบนราบ มีใบหน้า คิ้ว ใบหู ดวงตา จมูก ปาก คาง ตลอดไปถึงลำคอ
ลำตัวของหุ่นกระบอก เป็นไม้เนื้อละเอียด (ไม่ระบุว่าไม้ชนิดใด) สวมทับด้านบนที่ต่อมาจากลำคอด้วยลำตัวทำจากปล้องไม้ไผ่ มีความยาวประมาณ 6 นิ้ว ส่วนหน้าอกทำจากกาบมะพร้าวเกลาเป็นรูปสี่เหลี่ยมติดไว้ที่กระบอกไม้ไผ่บริเวณอกของตัวหุ่น
มือและแขนของหุ่นกระบอก สำหรับมือจับเชิดต้องใช้ไม้เนื้อละเอียด โดยไม้เชิดแขนจะทำจากปล้องไม้ไผ่ขนาดเล็กหรือไม้เนื้อละเอียด นิ้วมือของหุ่นจะมี 9 นิ้ว โดยมือซ้ายทำท่านาฏยศัพท์ ตั้งวง มือขวาลักษณะกำมือมีรูตรงกลาง เพื่อเสียบอุปกรณ์การแสดงของตัวละครนั้น ๆ เช่น ขลุ่ย ดาบ ปี่ ขวาน พัด พวงมาลัย หรือกระบอง เป็นต้น
เสื้อผ้าและเครื่องประดับ ตัวเสื้อของหุ่นมีลักษณะเป็นถุงคลุมรูปสี่เหลี่ยม เย็บกว้างและยาว 1 ฟุต โดยประมาณ ปลายถุงทั้งสองข้างมีมือโผล่ออกมาทั้งซ้ายขวา เจาะรูตรงบริเวณคอของตัวหุ่น เพื่อให้ประกอบศีรษะเข้ากับลำตัวหุ่น จากบริเวณลำคอมาถึงบ่าหุ่นจะมีกรอง คือ ตัวถ้าตัวพระจะสวมอินทรธนูมีลักษณะโค้งงอน แต่ถ้าเป็นตัวนางและตัวตลกอื่น ๆ จะเป็นนวมคอ
เครื่องประดับมี 2 กลุ่ม คือ เครื่องประดับลำตัวและเครื่องประดับศีรษะ เครื่องประดับลำตัว ประกอบด้วย อินทรธนู กรองคอ สร้อยคอแบบห้อยระย้า และสร้อยประคำ ส่วนเครื่องประดับศีรษะ ประกอบไปด้วย มงกุฎ ชฎา ศีรษะยักษ์ หัวม้า ไว้ผลัดเปลี่ยนเวลาเปลี่ยนบทบาทตัวแสดง
หุ่นกระบอกคณะสังวาลย์ศิลป์ จังหวัดตาก มีทั้งหมด 11 ตัว แบ่งตัวหุ่นเป็น 3 ประเภท ดังนี้
1. หุ่นตัวพระ เป็นหุ่นที่แสดงตัวละครพระ เช่น พระอภัยมณี จากเรื่องพระอภัยมณี พระปิ่นทอง จากเรื่องแก้วหน้าม้า โม่งป่า จากเรื่องโม่งป่า พระไชยเชษฐ์ จากเรื่องไชยเชษฐ์ พระลักษณวงศ์ จากเรื่องลักษณวงศ์ พระสังข์ทอง จากเรื่องสังข์ทอง นอกจากนี้ยังมีหุ่นที่แสดงเป็นตัวเด็ก เช่น สุดสาคร หุ่นจากเรื่องพระอภัยมณี ตัวหุ่นมีลักษณะมีมวยผมจุกอยู่กลางกระหม่อม หุ่นที่แสดงเป็นพราหมณ์ สวมชุดสีขาว กรองคอสีเหลืองใช้แสดงเป็นพราหมณ์ ในเรื่องพระอภัยมณี
2. หุ่นตัวนาง เป็นหุ่นที่แสดงเป็นตัวละครนาง เช่น นางยักษ์ นางเงือก นางละเวง จากเรื่องพระอภัยมณี นางแก้ว จากเรื่องแก้วหน้าม้า โม่งป่า จากเรื่องโม่งป่า นางสุวิญชา จากเรื่องไชยเชษฐ์ นางทิพย์เกสร จากเรื่องลักษณวงศ์ นางรจนา จากเรื่องสังข์ทอง
3. หุ่นตัวตลก เป็นหุ่นที่แสดงตลก มีลักษณะสวมเสื้อเป็นลายดอกไม้สีสันลวดลายต่างกัน มีชื่อเรียกต่างกัน คือ เจ้าโหนก เจ้าล่อน โดยเรียกตามลักษณะพิเศษของหุ่น เคยปรากฏว่านำมาเล่นเบิกโรงประกอบกัน ลักษณะพิเศษของเจ้าโหนก คือ จะมีศีรษะด้านหน้าผากนูนใหญ่ขึ้นมาในลักษณะโหนกนูนออกมา จึงเรียกว่าเจ้าโหนก ส่วนเจ้าล่อน มีลักษณะ คือ หัวล้าน คิ้วหน้า และมีหนวด
การแสดงหุ่นกระบอก เป็นการแสดงเล่าเรื่องผ่านตัวหุ่นที่ประดิษฐ์ขึ้นเลียนแบบมนุษย์และ สัตว์ตามลักษณะตัวละครในท้องเรื่องนั้น เคลื่อนไหวโดยการเชิดบังคับศีรษะและมือทั้งสองของตัวหุ่น ผู้เชิดจะจับลำไม้กระบอกด้วยมือซ้าย มือขวาจับไม้ตะเกียบเคลื่อนไหวพร้อมกันตามท่วงทำนองของดนตรี อารมณ์ หรือบทบาทการแสดงของเรื่องนั้น ๆ สำหรับการเก็บหุ่นกระบอกจะมีรางไม้ซึ่งทำด้วยไม้ไผ่ยาวประมาณ 3 เมตร เจาะรูกลมสำหรับใช้เป็นที่เสียบหุ่นในลักษณะยืน และในส่วนของโรงหุ่นกระบอกและฉากที่แสดงกลางแจ้งจะมีลักษณะเป็นรูปสี่เหลี่ยมโดยยกสูงจากพื้นพอประมาณ เพื่อให้ผู้ชมได้มองเห็นอย่างทั่วถึง หลังโรงเชิดหุ่นกระบอกจะประกอบด้วย คนเชิด คนพากย์ คนบอกบท นักดนตรี และเครื่องดนตรีปี่พาทย์ ในสมัยก่อนไม่มีเครื่องขยายเสียง ผู้ร้องจึงต้องมีสุขภาพดี เพราะต้องใช้พลังเสียงในการขับร้องให้ดังมาก จึงจะทำให้ผู้คนได้ยินและได้ฟังกันอย่างทั่วถึง จะเห็นได้ว่าศิลปะการแสดงพื้นบ้าน “หุ่นกระบอก”สังวาลย์ศิลป์ มีเอกลักษณ์การแสดงที่เป็นลักษณะเฉพาะของท้องถิ่น จึงถือเป็นมรดกภูมิปัญญาด้านศิลปะการแสดงพื้นบ้านของจังหวัดตากที่มีคุณค่ายิ่ง
เอกสารอ้างอิง แบบจัดทำรายการเบื้องต้นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม แบบมภ.2