สัมผัสประวัติศาสตร์ ดื่มด่ำธรรมชาติ ตามหาแผ่นดินที่หายไปใน “บ้านสาขลา”

วัดสวย ที่มีชื่อว่า “วัดสาขลา” วัดเก่าเคล้าประวัติศาสตร์บ้านสาขลา

ประวัติความเป็นมา

“วัดสาขลา” ตั้งอยู่ที่ ตำบลนาเกลือ อำเภอพระสมุทรเจดีย์ จังหวัดสมุทรปราการ มีพื้นที่ 27 ไร่ 2 งาน ประวัติความเป็นมาของวัดแห่งนี้ ไม่ปรากฏนามผู้สร้าง สันนิษฐานว่าสร้างในช่วงต้นสมัยรัตนโกสินทร์ หรือในปี พ.ศ.2325 ชาวบ้านช่วยกันสร้างเมื่อคราวรบชนะพม่า แต่เดิมชุมชนบ้านสาขลา เป็นชุมชนเก่าแก่ตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาตอนต้น เมื่อเกิดสงคราม 9 ทัพ รัชกาลที่ 1 ให้ผู้ชายไปเป็นทหาร เหลือแต่ผู้หญิงและคนชรา เมื่อทหารพม่าเดินทัพผ่านมา ชาวบ้านที่เหลือร่วมมือกันสู้พม่าอย่างกล้าหาญจนชนะได้ หมู่บ้านแห่งนี้จึงมีชื่อเรียกว่า “หมู่บ้านสาวกล้า” ก่อนจะเพี้ยนมาเป็น “หมู่บ้านสาขลา” ตามที่เรียกกันในปัจจุบัน และวัดสาขลาได้รับพระราชทาน วิสุงคามสีมา เมื่อประมาณ พ.ศ. 2375

วัดสาขลาที่เปี่ยมไปด้วยเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ ซึ่งปัจจุบันได้ถูกพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของ สมุทรปราการ เมื่อเข้ามาในวัดแล้วจะพระสังกัจจายน์ มหาลาภ ลักษณะรูปยืนองค์ใหญ่ ตั้งอยู่บริเวณด้านหน้าของวัด ใกล้ๆ กันจะเห็นพระปรางค์เก่าแก่ มีลักษณะเอียงซึ่งมีความโดดเด่นเป็นอย่างมาก ก็คือ “พระปรางค์เอียง” ซึ่งเมื่อประมาณ 100 ปีก่อนเกิดการทรุดตัวของแผ่นดินจากน้ำท่วมขัง ทำให้พระปรางค์เอียงแต่ก็มิได้โค่นล้มแต่อย่างใด

ความโดดเด่นของวัดสาขลาที่เห็นได้จัด คือ ภายในวัดแห่งนี้เป็นที่ประดิษฐานของ หลวงพ่อโต พระพุทธรูปศิลปะสมัยอู่ทอง ปางมารวิชัย ซึ่งมีความงดงามและเป็นที่เคารพเลื่อมใสของชาวบ้านสาขลาเป็นอย่างมาก เมื่อสักการะหลวงพ่อโตแล้ว สิ่งสำคัญที่พลาดไม่ได้คือ การลอดโบสถ์ เป็นซุ้มพระราหูแสดงถึงการปัดเป่าและป้องกันสิ่งชั่วร้าย โดยเชื่อว่าจะช่วยเสริมสิริมงคล 9 ประการ คือ

มงคลที่ 1 ลอดประตูพระราหู

มงคลที่ 2 ปิดทองลูกนิมิตโบราณ

มงคลที่ 3 บูชาพระบัวเข็ม กราบรูปเหมือนพระเกจิอาจารย์ชื่อดังจำนวนมาก

มงคลที่ 4 โยนเหรียญทำบุญพระสังกัจจายน์

มงคลที่ 5 บูชาพระพุทธรูปที่ขุดพบ

มงคลที่ 6 พระพุทธรูปปางบำเพ็ญทุกขกิริยา

มงคลที่ 7 ปิดทองพระพุทธรูปศิลา

มงคลที่ 8 ปิดทองใต้ฐานองค์หลวงพ่อโต

และมงคลที่ 9 ลอดท้องช้าง พรายมหาลาภ

เมื่อเดินไปตามทางเดินจะพบกับ พระบัวเข็ม ซึ่งประดิษฐานอยู่ท่ามกลางเหล่าดอกบัวมากมาย ซึ่งสาธุชนสามารถมาลอยบัวขอพรพระบัวเข็มได้อีกด้วย ส่วนด้านข้างของพระบัวเข็มนั้นมีพระเกจิอาจารย์ชื่อดังให้ได้สักการะมากมายไม่ว่าจะเป็น หลวงพ่อโต หลวงปู่มั่น หลวงพ่อสด หลวงพ่อเงิน เป็นต้น ถัดมาจะพบกับ “พระสองพี่น้อง” มีลักษณะครึ่งองค์หันหลังชนกัน เป็นปางห้ามญาติ และปางห้ามสมุทร ซึ่งเป็นพระพุทธรูปเก่าแก่สมัยอยุธยาให้ได้ทำบุญตามศรัทธากันด้วย นอกจากนี้ก่อนที่จะออกประตูไปจะพบกับ “ฐานหลวงพ่อโตศักดิ์สิทธิ์ให้ได้ขอพรกันอีกด้วย จากนั้นให้ลอดท้องช้างออกจากใต้โบสถ์เพื่อความเป็นมงคล

ตามทางเดินนั้นมีสิ่งศักดิ์ให้ได้สักการะ เช่น แม่นางไม้ เทวดาประจำวันเกิด บรมครูปู่ชีวกโกมารภัจ และนอกจากนี้ยังมี สถานที่ ๆ น่าสนใจอีกมากมายไม่ว่าจะเป็น พิพิธภัณฑ์เทพศรีสาขลา เป็นที่รวบรวมเอามหาเทพจากศาสนาฮินดูมาไว้ที่นี่ เพราะเมื่อครั้งที่พระพุทธเจ้าเคยศึกษาเล่าเรียนได้ศึกษาเรื่องของศาสนาฮินดูมาก่อน ภายในมีจิตรกรรมฝาผนังบอกเล่าเรื่องราวทางศาสนาที่สวยงามและยังมีองค์มหาเทพมากมายไม่ว่าจะเป็น พระพิฆเนศปางต่างๆ พระตรีมูรติ พระแม่ธรณีมวยผม พญาครุฑ และอื่นๆ อีกมามาย

ห้องถัดมาคือห้องพระเกจิอาจารย์ทั่วประเทศไทย ที่รวบรวมเอาพระเกจิอาจารย์ชื่อดังทั่วทุกมุมของประเทศไทยมาไว้ที่นี่ที่เดียว ไม่ว่าจะเป็น หลวงพ่อคูณ หลวงปู่มั่น หลวงปู่ศุข หลวงปู่แหวน หลวงปู่ทวด หลวงพ่อเงิน หลวงพ่อแช่ม เป็นต้น ซึ่งพระเกจิอาจารย์เหล่านี้เป็นพระที่ชาวบ้านร่วมกันจัดสร้างถวายวัดด้วยจิตศรัทธาทั้งสิ้น

เมื่อเดินไปเรื่อย ๆ จะพบกับเรือนไม้หลังใหญ่สองชั้น ด้านล่างประดับด้วยรูปวิถีชีวิตเก่า ๆของชาวบ้านในแถบนั้นนับสิบๆ รูป ดูแล้วทำให้นึกถึงวันเก่าๆ ขึ้นมาทันที เมื่อเดินขึ้นบันไดไม้ไปบนชั้นที่สองจะพบกับ พิพิธภัณฑ์บ้านสาขลา ซึ่งด้านในเป็นที่เก็บรวบรวมของเก่าหายาก ได้แก่ ถ้วย จาน ชาม โบราณ พระพุทธรูป และรวบรวมเอาอุปกรณ์เครื่องมือเครื่องใช้การหาเลี้ยงชีพของชาวบ้านในสมัยก่อน ไม่ว่าจะเป็น ตะคร้อง สลักแทงปู ตะเกียงแก๊ส ไห เป็นต้น

ตำแหน่งที่ตั้ง : วัดสาขลา ถนนสุขสวัสดิ์-วัดสาขลา ตำบลนาเกลือ อำเภอพระสมุทรเจดีย์

จังหวัดสมุทรปราการ พิกัด : https://goo.gl/maps/aPPf63SGmSaV39xaA

เปิดให้เข้าชม : 07.00-18.00 น. โทร : 0-2819-5091

ข้อมูลเนื้อหา เรื่องราว โดย นางสาวศรีสมร จงเจิดสิน

ภาพถ่าย/ภาพประกอบ โดย นางสาวศรีสมร จงเจิดสิน


จุดเด่นของวัดสาขลา