ในอดีต ชาวบ้านแม่ทาประกอบอาชีพเกษตรกรรมแบบดั้งเดิม โดยปลูกข้าว พืชผัก และเลี้ยงสัตว์เพื่อยังชีพ ต่อมาจึงเริ่มมีการปลูกพืชเศรษฐกิจ เช่น มันเทศ ขิง ข่า พริก และพืชสมุนไพร เนื่องจากพื้นที่มีดินดี อากาศเย็นตลอดปี และไม่มีสารเคมีตกค้าง
จากการรวมกลุ่มของชาวบ้านและการสนับสนุนของภาครัฐ ทำให้ชุมชนแม่ทาเริ่มพัฒนาแนวทางการเกษตรแบบอินทรีย์และยั่งยืน ชุมชนได้จัดตั้งกลุ่มเกษตรอินทรีย์ วิสาหกิจชุมชน และศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ภายในชุมชน และสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลผลิตของตนเอง เช่น การแปรรูปมันเทศเป็นผงหรือขนม เพื่อเพิ่มรายได้และสร้างอาชีพ
ในปัจจุบัน ตำบลแม่ทาเป็นชุมชนต้นแบบด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืนและเกษตรอินทรีย์ โดยมีชื่อเสียงในระดับจังหวัดและระดับประเทศ เป็นแหล่งศึกษาดูงานของหน่วยงานต่าง ๆ และยังคงพัฒนาศักยภาพของชุมชนอย่างต่อเนื่อง ควบคู่ไปกับการรักษาทรัพยากรธรรมชาติและวัฒนธรรมท้องถิ่น
มีการทำเกษตรกรรม โดยเกษตรกรในตำบลแม่ทาเปลี่ยนจากเกษตรเชิงเคมีมาเป็นระบบอินทรีย์อย่างสมบูรณ์ ซึ่งช่วยพัฒนาทุกขั้นตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ รวมถึงการตลาดและการขนส่งแบบควบคุมอุณหภูมิด้วยรถห้องเย็น ผลจากความร่วมมือนี้ ทำให้พื้นที่ปลูกขยายจาก 100 ไร่ เป็นกว่า 400 ไร่ และมีสมาชิกเกษตรกรประมาณ 120 ครอบครัว ปลูก มันหวานญี่ปุ่น 4 สายพันธุ์หลัก: เนื้อม่วง-ส้ม (Okinawa), เบนิฮารุกะ, และคุริโคกาเนะ
💡 เคล็ดลับการบริโภคเพื่อสุขภาพ
Purple Okinawa: เหมาะกับผู้ต้องการต้านอนุมูลอิสระและดูแลสุขภาพข้อกระดูก
Orange Okinawa: เหมาะกับการเพิ่มวิตามิน A และภูมิคุ้มกัน
Beni Haruka‑Kurikogane: รสหวานนุ่ม รับประทานง่าย เหมาะกับเด็กและผู้สูงอายุ
🌱 ระบบการปลูกออร์แกนิกในแม่ทา
เกษตรกรในตำบลแม่ทาเปลี่ยนจากเกษตรเชิงเดี่ยวมาเป็นระบบอินทรีย์อย่างสมบูรณ์ โดยมีหน่วยงานสนับสนุนอย่างโครงการ เซ็นทรัล ทำ และ ศูนย์เรียนรู้เกษตรอินทรีย์กรีนเนท ซึ่งช่วยพัฒนาทุกขั้นตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ รวมถึงการตลาดและการขนส่งแบบควบคุมอุณหภูมิด้วยรถห้องเย็น ผลจากความร่วมมือนี้ ทำให้พื้นที่ปลูกขยายจาก 100 ไร่ เป็นกว่า 400 ไร่ และมีสมาชิกเกษตรกรประมาณ 120 ครอบครัว ปลูก มันหวานญี่ปุ่น 4 สายพันธุ์หลัก: เนื้อม่วง-ส้ม (Okinawa), เบนิฮารุกะ, และคุริโคกาเนะ
🛠️ เทคนิคการปลูกมันหวานญี่ปุ่นบนพื้นที่สูง
สำหับสายพันธุ์เนื้อสีม่วงและสีส้มในแม่ทา ใช้เทคนิคตามแนวทางของ สวพส. ดังนี้:
เตรียมแปลงปลูก
ใช้ดินทรายหรือดินร่วนปนทราย และมีอินทรียวัตุมากกว่า 3.5% พรวนดิน 3 ครั้งห่างกัน 15 วัน จากนั้นขึ้นแปลงปลูกขนาด 60 ซม. × สูง 50 ซม.
เตรียมยอดพันธุ์ (slips)
ปลูกต้นแม่ในแปลงประมาณ 2 เดือน ก่อนตัดยอดที่แข็งแรงยาว 30 ซม. แล้วพักไว้ 2–3 วัน เพื่อให้ไม่เปราะขณะปลูก T
ระยะปลูก
ปลูกเป็นแนวแถวเดียว โดยระยะแต่ละหลุมประมาณ 30 ซม. กัน HRDI
รดน้ำและใส่ปุ๋ย
รดน้ำทุกวันในเดือนแรก หลังจากนั้นรดสัปดาห์ละครั้ง
งดน้ำก่อนเก็บเกี่ยว 1 สัปดาห์
ใส่ปุ๋ยหมักก่อนปลูก 1,500 กก./ไร่
ใส่ปุ๋ยสูตร 15‑15‑15 ครั้งแรกหลังปลูก 1 เดือน และสูตรผสมกับ 13‑13‑21 อีกครั้งที่ 2 เดือนหลังปลูก (5 กรัมต่อต้น) HRDI
การจัดการศัตรูพืช
ใช้เชื้อราเมทาไรเซียมฉีดพ่นทุก 7 วัน และติดกับดักฟีโรโมนเพื่อควบคุมด้วงงวงมันเทศ www.thairath.co.th+9HRDI+9Facebook+9
การตลบและตัดเถา
ตลบเถาเมื่ออายุ 2 เดือน และอีกครั้งหลัง 20 วัน เพื่อกระตุ้นการสร้างหัว
ตัดเถาห่างจากโคน 5 ซม. ก่อนเก็บเกี่ยว 3–5 วัน เพื่อเพิ่มความหวานของหัวมัน HRDI
การเก็บเกี่ยว
สายพันธุ์เนื้อเหลือง: ใช้อายุ 120 วัน
สายพันธุ์เนื้อม่วง: ใช้อายุ 150 วัน นับจากวันปลูก
เคล็ดลับจากแม่ทา
การดูแลระหว่างเจริญเติบโต: มีการตรวจแปลงบ่อย ๆ และบูรณาการชีวภัณฑ์ควบคุมแมลงแบบปลอดสารเคมี
ระบบเกษตรสร้างชุมชน: เกษตรกรในแม่ทาร่วมเรียนรู้และแบ่งปันความรู้ในกลุ่ม สร้างความเข้มแข็งระยะยาว
นอกจากมันหวานอินทรีย์ ตำบลแม่ทายังขึ้นชื่อในการปลูกผัดออแกนิกที่ครบวงจงอีกหลายชนิด ผักใบเขียว เช่น ผักบุ้ง คะน้า ผักกาดเขียว ผักกาดหอม ผักพื้นบ้าน เช่น ผักติ้ว ผักแว่น ผักหวานบ้าน ผักตระกูลกะหล่ำ เช่น บร็อกโคลี กะหล่ำปลี ข้าวอินทรีย์ ข้าวเหนียว และข้าวกล้อง ปลูกในพื้นที่นาขั้นบันไดตามฤดูกาล ใช้ปุ๋ยหมักจากธรรมชาติ ไม่มีสารเคมี สมุนไพรและ พืชเครื่องเทศ ขิง ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด พริก ปลูกเพื่อใช้ในครัวเรือนและแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์สุขภาพ ผลไม้พื้นเมือง กล้วยน้ำว้า กล้วยหอมอินทรีย์ มะละกอ มะม่วง ลำไยอินทรีย์ พืชตระกูลถั่ว ถั่วฝักยาว ถั่วลันเตา ถั่วเขียวใช้ปรับปรุงดิน และเป็นแหล่งโปรตีนจากพืช