พระประกอบบุญ สิริญาโณ1, ทัศนีย์ บุญมาภิ2 , สุรศักดิ์ สุทธสิริ3
บทคัดย่อ
โครงการวิจัยการจัดการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมโดยชุมชน 5 ชุมชนเทศบาลเมืองลำพูน อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาทุนทางวัฒนธรรมชุมชน เพื่อสร้างระบบการบริหารจัดการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมโดยชุมชน เพื่อสร้างเส้นทางการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม และเพื่อสร้างเครือข่ายการจัดการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมโดยชุมชน ของเครือข่ายการท่องเที่ยวโดยชุมชน 5 ชุมชนเทศบาลเมืองลำพูน อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ ด้วยการสัมภาษณ์เชิงลึก การสนทนากลุ่ม การสังเกต โดยเก็บรวบรวมข้อมูลจากเอกสาร ข้อมูลภาคสนาม กลุ่มเป้าหมายได้แก่ บุคลากรจากเทศบาลเมืองลำพูน จากองค์การบริหารส่วนจังหวัดลำพูน จากสำนักวัฒนธรรมจังหวัดลำพูน จากสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดลำพูนหัวหน้าพิพิธภัณฑ์จังหวัดลำพูน จากสำนักพระพุทธศาสนาจังหวัดลำพูน ตัวแทนจากคณะสงฆ์ บุคลากรจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และตัวแทนจากชุมชนมหาวัน ชุมชนจามเทวี ชุมชนพระคงฤาษี ชุมชนไก่แก้ว และชุมชนประตูลี้ อำเภอเมือง จังหวัดลำพูนผลการวิจัยพบว่า
1. ทุนทางวัฒนธรรมชุมชน ของเครือข่ายการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมโดยชุมชน 5 ชุมชนเทศบาลเมืองลำพูน อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน ประเด็นทุนทางวัฒนธรรมชุมชน 4 ด้าน ได้แก่ทุนทางด้านประวัติศาสตร์ชุมชนวิถีชีวิตชุมชน ภูมิปัญญาท้องถิ่น ประเพณี วัฒนธรรม จารีตวิถีปฏิบัติ และโบราณสถาน โบราณวัตถุ ทุกชุมชน มีที่มาทางประวัติศาสตร์ในยุคสมัยหริภุญชัย พระนางจามเทวี แต่ละชุมชนมีต้นทุนทางวัฒนธรรมที่โดดเด่นไม่เหมือนกัน
2. ระบบการบริหารจัดการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมโดยชุมชนของเครือข่ายการท่องเที่ยวโดยชุมชน 5 ชุมชนเทศบาลเมืองลำพูน อำเภอเมือง จังหวัดลำพูนในการบริหารจัดการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมของแต่ละชุมชน ขึ้นอยู่กับความพร้อมและบริบทของแต่ละชุมชน ทำให้ระบบการบริหารจัดการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมโดยชุมชนของเครือข่ายการท่องเที่ยวโดยชุมชน 5ชุมชนแต่ละพื้นที่มีการจัดการคล้ายกันและต่างกันออกไปบ้าง
3. เส้นทางการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม 5 ชุมชนเทศบาลเมืองลำพูนการออกแบบเส้นทางการท่องเที่ยวมีการร่วมกันจัดทำเส้นทาง แผนที่ชุมชน (ทำมือ) ของแต่ละชุมชน ดึงทุนวัฒนธรรมที่มี เพื่อนำเสนอ และมีการจัดเป็นเส้นทางการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมทั้ง5 ชุมชน
4. เครือข่ายการจัดการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมโดยชุมชน ของเครือข่ายการท่องเที่ยวโดยชุมชน 5 ชุมชนเทศบาลเมืองลำพูน อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน ได้มีการเรียนรู้ร่วมกันจัดกิจกรรมการท่องเที่ยวทั้ง 5 ชุมชน พระสงฆ์และผู้นำชุมชนมีส่วนสำคัญในการนำคนในชุมชนเข้าร่วมกิจกรรมเรียนรู้เรื่องทุนวัฒนธรรมจากคนในชุมชน
คำสำคัญ : การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม เทศบาลเมืองลำพูน
1,2,3,-นักวิชาการอิสระ
งานวิจัยนี้ได้รับทุนสนับสนุนจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย(สกว.)
1.ความสำคัญและที่มาของปัญหาการวิจัย
แผนพัฒนาจังหวัดลำพูน (พ.ศ. 2560 – 2564 ) ได้ดำเนินการวางยุทธศาสตร์ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม เพราะถือว่าจังหวัดลำพูนเป็นจังหวัดหนึ่งที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานถึง 1,343 ปี เป็นที่น่าสนใจยิ่งสำหรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ รวมถึงโอกาสทางด้านการสร้างมูลค่าเพิ่มทางวัฒนธรรม แหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม ได้จัดเส้นทางการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมในเขตเมืองเก่าเมืองอนุรักษ์ โดยการใช้รถรางนำเที่ยวไปยังแหล่งโบราณสถานที่สำคัญต่าง ๆ ในเขตเทศบาลเมืองลำพูน (กลุ่มงานยุทธศาสตร์และข้อมูลเพื่อการพัฒนาจังหวัด สำนักงานจังหวัดลำพูน,2560:63) ซึ่งสอดคล้องกับฉัตรแก้ว สิมารักษ์และคณะ(2549) ที่ได้ศึกษาแนวทางการพัฒนาการท่องเที่ยวจังหวัดลำพูน สรุปสำหรับเป็นข้อเสนอแนะในการพัฒนาการท่องเที่ยวในจังหวัดลำพูนคือ ให้จังหวัดลำพูนเป็นเมืองท่องเที่ยว เชิงประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม โบราณสถาน โบราณวัตถุ และศาสนา พัฒนาบุคลากรในภาคต่าง ๆ ให้เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาการท่องเที่ยว รวมทั้งการจัดงบประมาณ ในการอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรม เพื่อให้เกิดความรัก ความหวงแหนในศิลปวัฒนธรรมของท้องถิ่น ที่เป็นจุดขายของการท่องเที่ยว
สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย(สกว.) ได้สนับสนุนให้เกิดการวิจัยและพัฒนาเพื่อสร้างทางเลือกให้กับระบบการท่องเที่ยวแนวใหม่ที่แตกต่างจากเดิม โดยเน้นการวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วมในรูปแบบของ"การท่องเที่ยวโดยชุมชน" โดยมุ่งพัฒนาให้ "คนในชุมชน" เป็นหัวใจสำคัญของการจัดการท่องเที่ยวและไม่เพียงแต่ตอบสนองความต้องการของนักท่องเที่ยวเท่านั้น แต่ได้เน้นถึงการสร้างศักยภาพของคนในท้องถิ่น ผู้ประกอบการ ผู้ให้บริการ โดยใช้งานวิจัยเป็นเครื่องมือสร้างกระบวนการเรียนรู้ ให้คนในท้องถิ่นเข้ามามีส่วนร่วมในการจัดการท่องเที่ยวของชุมชน เพื่อนำไปสู่การดูแลรักษาและฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติโดยให้มีความสมดุลกับภูมิปัญญาท้องถิ่นและอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรมรวมทั้งการเกื้อกูลต่อเศรษฐกิจของชุมชนในอนาคต(การจัดการท่องเที่ยวโดยชุมชนดร.สินธุ์สโรบลประชาคมวิจัยฉบับที่ 57)
เขตเทศบาลเมืองลำพูน เป็นเขตเมืองประวัติศาสตร์ โบราณเก่าแก่แห่งหนึ่งในภาคเหนือ และในปัจจุบันยังคงรักษาความเป็นเมืองโบราณไว้ มีเขตการปกครอง ประกอบด้วย 1 ตำบล คือ ตำบลในเมือง ภายในเทศบาลเมืองลำพูนแบ่งเป็น 17 ชุมชน ได้แก่ ชุมชนไก่แก้วชุมชนช่างฆ้องชุมชนสันป่ายางหลวงชุมชนหนองเส้งชุมชนบ้านท่า-ท่านางชุมชนท่าขาม-บ้านฮ่อมชุมชนประตูลี้ชุมชนสันดอนรอมชุมชนพระคงฤๅษีชุมชนสวนดอกชุมชนสันป่ายางหน่อมชุมชนหน้าสถานีรถไฟ ชุมชนศรีบุญเรือง ชุมชนบ้านหลวยชุมชนชัยมงคล ชุมชนมหาวัน และชุมชนจามเทวี ชุมชนที่มีความประสงค์เข้าร่วมเป็นเครือข่าย ในการให้ชุมชนมีส่วนร่วมในการจัดการการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมครั้งนี้ เป็นชุมชนที่มีเส้นทางประวัติศาสตร์ ที่มีความเป็นมาตั้งแต่สมัยพระนางจามเทวีเชื่อมต่อกันรวม 5 ชุมชน คือชุมชนมหาวัน ชุมชนพระคงฤาษี ชุมชนจามเทวี ชุมชนไก่แก้ว(มูลนิธิกู่ช้าง) และชุมชนประตูลี้ กล่าวคือ หลังจากที่พระนางจามเทวี ได้สถาปนาราชาภิเษกขึ้นครองราชย์เป็นปฐมกษัตริย์แห่งนครหริภุญชัย พระนางโปรดให้สร้างวัด 4 มุมเมืองคือ ทิศตะวันตกสร้างวัดมหาวนารามหรือวัดมหาวันเป็นวัดแรก (ชุมชนมหาวัน) แล้วสร้างตามประทักษิณ เวียนขวา สร้างวัดอาพัธาราม หรือวัดพระคงฤาษี(ชุมชนพระคงฤาษี) ทางทิศเหนือสร้างวัดอรัญญิกรัมมาราม หรือวัดดอนแก้ว ทางทิศตะวันตกเป็นวัดร้างไปแล้ว สร้างวัดสังฆารามหรือวัดประตูลี้ทางทิศใต้(ชุมชนประตูลี้) (กำธร ธิฉลาด,2560)หลังจากที่มีการถวายพระเพลิงพระนางจามเทวีแล้ว ราชบุตรทั้งสองได้นำอัฐิธาตุมาก่อเป็นกู่ไว้ที่เรียกว่า สุวรรณจังโกฎิ หมายถึงเจดีย์ที่บรรจุอัฐิชองพระนางจามเทวี(ชุมชนจามเทวี)(กำธร ธิฉลาด,2560) ส่วนชุมชนไก่แก้วนั้น เป็นที่ตั้งเจ้าพ่อกู่ช้าง” ซึ่งกู่ช้าง เป็นโบราณสถานที่มีความเชื่อกันว่าเป็นสุสานช้างศึกและม้าศึกของ พระนางจามเทวี (กำธร ธิฉลาด,2560) จากการที่ชุมชนดังกล่าวเป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ของจังหวัดลำพูน เทศบาลเมืองลำพูนจึงได้จัดให้มีเส้นทางรถรางนำเที่ยว 4 ชุมชนคือชุมชนมหาวัน ชุมชนพระคงฤาษี ชุมชนจามเทวี และชุมชนไก่แก้ว ส่วนชุมชนประตูลี้นั้น สนใจเข้ามาร่วมทำวิจัยด้วย เพื่อต้องการพัฒนาชุมชนให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวใหม่ในจังหวัดลำพูน
จากต้นทุนเดิมทางวัฒนธรรมของชุมชนแต่ละชุมชน ไม่ว่าจะเป็นความเป็นมาทางประวัติศาสตร์ วิถีชุมชน หัตถกรรมพื้นบ้าน การจัดการทรัพยากรร่วมกัน ประเพณี พิธีกรรมความเชื่อ ศิลปะพื้นบ้าน โบราณสถาน โบราณวัตถุและจารีตประเพณีวิถีปฏิบัติ ล้วนแล้วแต่มีความโดดเด่นมาแต่ดั้งเดิม การมาเยี่ยมเยือนของนักท่องเที่ยวจึงเป็นการจัดการการท่องเที่ยวของแต่ละชุมชนมีรูปแบบวิธีการในแต่ละแห่ง โดยมีเทศบาลเมืองลำพูนเป็นผู้ให้บริการรถนำเที่ยวให้กับนักท่องเที่ยวในแต่ละวันจุดเริ่มต้นที่วัดพระธาตุหริภุญชัยซึ่งเป็นวัดอารามหลวง เป็นวัดประจำจังหวัดลำพูน และมีพระธาตุหริภุญชัยเป็นพระธาตุประจำปีเกิดสำหรับคนเกิดปีระกา(ไก่) ในอดีตคนในชุมชนในเขตเทศบาลเมืองลำพูนผู้คนที่อาศัยอยู่จะมีการทำบุญและช่วยเหลือและดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ ร่วมกัน เช่น หากชุมชนหนึ่งมีกิจกรรมทางวัฒนธรรมชุมชนชุมชนอื่น ๆ ก็จะมาช่วยงานเป็นวัฒนธรรมที่ช่วยเหลือจุนเจือซึ่งกันและกัน อดีตคนในชุมชนนั้นจะมีความรักหวงแหนวิถีวัฒนธรรมมี ความรู้เข้าใจในประวัติศาสตร์ของชุมชนตนเอง ปัจจุบันชุมชนมีการเปลี่ยนแปลงตามช่วงระยะเวลาที่เปลี่ยนไปคนดั้งเดิมเริ่มลดน้อยหายไปมีคนจากต่างถิ่นมาอยู่อาศัยเพิ่มมากขึ้น ความรู้สึกรักหวงแหนวัฒนธรรมดั้งเดิมของคนในชุมชนลดน้อยลงจนน่าใจหาย ส่วนใหญ่เพิกเฉยมองข้ามไม่เห็นความสำคัญของต้นทุนทางวัฒนธรรมของตนเอง การเชื่อมโยงช่วยเหลือระหว่างชุมชนด้วยกันก็หายไป รวมทั้งคนที่อยู่อาศัยและบางคนมีบทบาทในการดูแลโบราณสถานโบราณวัตถุยังไม่มีความรู้ไม่เข้าใจต่อเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ที่มาที่ไปของสิ่งต่าง ๆ เหล่านั้น การส่งเสริมให้คนในชุมชนเข้ามามีบทบาทในการจัดการการท่องเที่ยวของชุมชนเป็นเรื่องที่สำคัญเพื่อให้เกิดการอนุรักษ์ทุนทางวัฒนธรรมชุมชนฟื้นฟูเครือข่ายระหว่างชุมชนด้วยกัน เพื่อให้เกิดการสืบทอดทุนทางวัฒนธรรมชุมชนโดยอาศัยการท่องเที่ยวเป็นเครื่องมือเพื่อการจัดการทุนทางวัฒนธรรมของชุมชนได้อย่างยั่งยืนต่อไปส่งผลต่อการเสริมสร้างเศรษฐกิจให้กับชุมชน จากสถิติการเข้าเยี่ยมชมแหล่งท่องเที่ยวในจังหวัดลำพูน มีนักท่องเที่ยวและผู้มาเยือนในสถานที่สำคัญประมาณ 1 ล้านคน ในปี 2560 เป็นนักท่องเที่ยวและผู้มาเยือนที่เป็นชาวไทยจำนวน ร้อยละ 95 และเป็นชาวต่างชาติร้อยละ 5 (ที่มา : สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดลำพูน)
เครือข่ายชุมชนทั้ง 5 ชุมชนนี้มีความสนใจ และต้องการพัฒนาชุมชนของตนเองให้เป็นแหล่งบริการนักท่องเที่ยว และเปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวใหม่ ได้เปิดโอกาสให้คนในชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมในการจัดการให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวของชุมชนเทศบาลเมืองลำพูนการรวมตัวกันเป็นเครือข่ายการท่องเที่ยวโดยชุมชนในแต่ละชุมชนมีจุดเด่นของตนเอง เช่น ชุมชนมหาวันวัดมหาวันหรือวัดมหาวนารามเป็นวัดที่สำคัญที่พระนางจามเทวีได้สร้างขึ้น 1 ใน 4 มุมเมือง โบราณวัตถุที่มีอยู่คู่กับวัดมหาวันมาแต่เดิมคือ พระพุทธสิขีปฏิมากร หรือ พระหินศิลาดำ หรือที่เรียกว่าพระรอดหลวง หรือแม่พระรอดและพระรอด เป็นพระพิมพ์ที่มีชื่อเสียง ซึ่งวงการพระเครื่องจัดให้อยู่ในชั้นสูงสุดของพระสกุลลำพูนชุมชนจามเทวีมีวัดจามเทวี เป็นวัดที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ และโบราณคดี กล่าวกันว่าพระราชโอรสของพระนางจามเทวีคือพระเจ้ามหันตยศ และพระเจ้าอนันตยศ โปรดสร้างวัดนี้ขึ้น เพื่อถวายพระเพลิง แล้วโปรดให้สร้างเจดีย์เหลี่ยมมียอดหุ้มด้วยทอง เรียกว่า สุวรรณจังโกฎิโบราณสถานที่สำคัญในวัดจามเทวีมีพระเจดีย์กู่กุดหรือเจดีย์มหาพลเจดีย์แปดเหลี่ยมและมีโกฏิ(ที่บรรจุอัฐิ) ของครูบาเจ้าศรีวิชัย ชุมชนพระคงฤาษีวัดพระคงฤาษี เป็นวัดที่เก่าแก่ ตั้งแต่สมัยพระนางจามเทวี ที่โปรดให้สร้างวัดมุมเมืองเป็นบริวาร ซึ่งวัดพระคงฤาษี เป็น 1 ใน 4 วัดที่ถูกสร้างในสมัยนั้นโบราณวัตถุพระคง หรือลำพูนดำ เชื่อกันว่า พระคง เป็นพระที่พระฤาษีเป็นผู้สร้างไว้ชุมชนไก่แก้ว มีวัดไก่แก้ว เป็นศูนย์กลางรวมน้ำใจของชุมชนวัดไก่แก้วโบราณสถานที่สำคัญ ได้แก่ ช้าง เป็นเจดีย์ที่สร้างขึ้นเพื่อบรรจุซากของพระยาช้างคู่พระบารมีของพระเจ้ามหันตยศ พระโอรสของพระนางจามเทวี ซึ่งพระยาช้างเชือกนี้มีชื่อว่า ปู่ก่ำงาเขียวเจดีย์กู่ม้า เป็นเจดีย์ก่ออิฐ และมีการฉาบปูนด้านนอกเหมือนเจดีย์กู่ช้างกู่ไก่ ตามตำนานมูลศาสนาพงศาวดารโยนก และจามเทวีวงศ์และชุมชนประตูลี้ มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 เคยเป็นที่ลี้ภัย เลยตั้งชื่อว่า บ้านประตูลี้โบราณสถาน มีวัดสังฆาราม หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า วัดประตูลี้ เป็นวัดเก่าแก่ ที่มีประวัติการสร้างเก่าแก่ ไปถึงสมัยพระนางจามเทวี กล่าวกันว่า เป็นวัดหนึ่งในจำนวนวัดที่สร้างขึ้น สี่มุมเมือง ในสมัยพระนางจามเทวี
งานวิจัยนี้จึงเกิดขึ้นเพื่อใช้เป็นเครื่องมือสู่การจัดการท่องเที่ยวให้คนในชุมชนได้เข้าใจสถานการณ์ รากเหง้าของชุมชนตนเอง เป็นการทบทวน รวบรวมข้อมูล มีการจัดการให้มีการเรียนรู้ นำมาตกผลึกเพื่อรวบรวมเป็นเรื่องราวของชุมชนแต่ละชุมชน สู่การอนุรักษ์ทุนทางวัฒนธรรมชุมชนเพื่อสามารถนำมาจัดการท่องเที่ยวได้ โดยชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมในกระบวนการสืบค้น สร้างกระบวนการเรียนรู้ร่วมกันมีการบริหารจัดการตามหลักธรรมภิบาล เกิดการมีการมีส่วนร่วมในการจัดการการท่องเที่ยวของชุมชนอย่างแท้จริง การหาแนวทางสร้างแผนการท่องเที่ยวที่เป็นของชุมชนตนเอง(แผนที่ชุมชน)และเป็นภาพรวมของเครือข่ายชุมชนร่วมกัน(mapping of city) เกิดการจัดทำแผนการพัฒนาการท่องเที่ยวโดยชุมชนร่วมกัน(public mapping) มีแนวทางเพื่อการจัดการท่องเที่ยวของชุมชน ใน 4 ด้าน คือ ด้านการจัดการท่องเที่ยว ด้านการเรียนรู้ ด้านการจัดการทรัพยากรและวัฒนธรรม และด้านองค์กร โดยจะมีการรวบรวมทุนทางวัฒนธรรมชุมชนทั้ง 7 ด้านดังกล่าวมาเบื้องต้น เพื่อนำไปสู่การหาแนวทางการจัดการท่องเที่ยวของชุมชนโดยบูรณาการการทำงานร่วมกับหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนได้อย่างเหมาะสม เชื่อมโยงเป็นเครือข่ายชุมชนการท่องเที่ยวเทศบาลเมืองลำพูนเพื่อให้เป็นแนวทางในการพัฒนาการท่องเที่ยวโดยชุมชนให้ยั่งยืนสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชนให้เกิดสำนึกเป็นเจ้าของชุมชน(Sense of belonging) ที่จะต้องร่วมกันรักษาและสืบทอดอย่างยั่งยืนต่อไป
2.วัตถุประสงค์
1. เพื่อศึกษาทุนทางวัฒนธรรมชุมชน ของเครือข่ายการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมโดยชุมชน 5 ชุมชนเทศบาลเมืองลำพูน อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน
2. เพื่อสร้างระบบการบริหารจัดการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมโดยชุมชนของเครือข่ายการท่องเที่ยวโดยชุมชน 5 ชุมชนเทศบาลเมืองลำพูน อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน
3. เพื่อสร้างเส้นทางการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม 5 ชุมชนเทศบาลเมืองลำพูน
4. เพื่อสร้างเครือข่ายการจัดการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมโดยชุมชน ของเครือข่ายการท่องเที่ยวโดยชุมชน 5 ชุมชนเทศบาลเมืองลำพูน อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน
3.กรอบแนวคิดการวิจัย
การวิจัยครั้งนี้ ศึกษาการจัดการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมโดยชุมชนใน 4 องค์ประกอบคือ
1. ทุนทางวัฒนธรรมชุมชน ด้านการพัฒนาฟื้นฟูทุนทางวัฒนธรรม 4 ด้าน
2. การจัดการท่องเที่ยวโดยชุมชน ด้านการยกระดับความรู้การจัดการท่องเที่ยวของชุมชน (การจัดการการท่องเที่ยว) และการเรียนรู้ ทรัพยากรและวัฒนธรรมและองค์กรชุมชน
3 ระบบการจัดการการท่องเที่ยวโดยชุมชน ด้านการยกระดับความรู้การจัดการท่องเที่ยวของชุมชน (การจัดการการท่องเที่ยว) การเรียนรู้ ทรัพยากรและวัฒนธรรมและองค์กรชุมชน ทรัพยากรและวัฒนธรรมการเรียนรู้ การจัดการการท่องเที่ยว และองค์กรชุมชน
4 การสร้างเครือข่ายการท่องเที่ยวโดยชุมชนเทศบาลเมืองลำพูน ด้าน การเรียนรู้ ทรัพยากรและวัฒนธรรม องค์กรชุมชน และการสร้างความเป็นเจ้าของร่วม
4.ประโยชน์ที่ได้รับจากการวิจัย
ด้านผลผลิต
1. องค์ความรู้เรื่อง ทุนทางวัฒนธรรมชุมชนของเครือข่ายการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมโดยชุมชน 5 ชุมชนเทศบาลเมืองลำพูน อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน
2. องค์ความรู้เรื่อง ระบบการบริหารจัดการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมโดยชุมชนของเครือข่ายการท่องเที่ยวโดยชุมชน 5 ชุมชนเทศบาลเมืองลำพูน อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน
3. องค์ความรู้เรื่อง เครือข่ายการจัดการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมโดยชุมชน ของเครือข่ายการท่องเที่ยวโดยชุมชน 5 ชุมชนเทศบาลเมืองลำพูน อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน
ด้านผลลัพท์
1. ได้เส้นทางการท่องเที่ยวโดยชุมชน 5 ชุมชนเทศบาลเมืองลำพูน อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน
2. มีแผนการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมที่เกิดจากการมีส่วนร่วมของชุมชน 5 ชุมชน หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และชุมชนอื่น ๆ ในเขตเทศบาลเมืองลำพูน
3. สร้างรายได้ให้กับคนในชุมชน
4. เกิดความร่วมมือและการสนับสนุนของหน่วยงานองค์กรต่าง ๆ
5.วิธีดำเนินการวิจัย
ประชากรที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย กลุ่มเป้าหมายได้แก่ นายกเทศบาลเมืองลำพูน และเจ้าหน้าที่จากเทศบาลเมืองลำพูน นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดลำพูนและเจ้าหน้าที่จากองค์การบริหารส่วนจังหวัดลำพูน เจ้าหน้าที่จากสำนักวัฒนธรรมจังหวัดลำพูน เจ้าหน้าที่จากสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดลำพูนหัวหน้าพิพิธภัณฑ์จังหวัดลำพูนเจ้าหน้าที่จากสำนักพระพุทธศาสนาจังหวัดลำพูนตัวแทนจากคณะสงฆ์ เจ้าหน้าที่จากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานลำปาง พื้นที่รับผิดชอบลำปาง ลำพูน ประธานชุมชน ตัวแทนจากมูลนิธิเจ้าพ่อกู่ช้างลำพูน ตัวแทนจากกลุ่มผู้สูงอายุ ตัวแทนจากคณะไวยาวัจกร ตัวแทนจากกลุ่มแม่บ้าน ตัวแทนจากกลุ่มเด็กและเยาวชน และตัวแทนจากคณะศรัทธาวัดที่เป็นที่ตั้งของชุมชน ในพื้นที่ดำเนินการวิจัย คือชุมชนมหาวัน ชุมชนจามเทวี ชุมชนพระคงฤาษี ชุมชนไก่แก้ว และชุมชนประตูลี้
การเก็บรวบรวมข้อมูล
1. ข้อมูลที่ใช้ประกอบในการศึกษาวิจัย จำแนกออกเป็น 2 ประเภท คือ
1) ข้อมูลปฐมภูมิ (primary data) เป็นข้อมูลที่ได้จากการเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ เช่น การจัดเวทีชาวบ้าน การสนทนากลุ่ม การสำรวจ การสังเกตการจัดทำแผนที่ชุมชน การจัดทำแผนที่การท่องเที่ยวโดยชุมชนภาพรวมของเครือข่าย 5 ชุมชนเทศบาลเมืองลำพูน (Mapping space) การสัมภาษณ์บุคคลและกลุ่มบุคคลที่เกี่ยวข้องเป็นต้น
2) ข้อมูลทุติยภูมิ (secondary data)เป็นข้อมูลที่ได้เก็บรวบรวมไว้แล้วโดยบุบคล กลุ่มบุคคล และสถาบันต่าง ๆ เช่น เอกสาร รายงานวิจัย บทความ วารสารสิ่งพิมพ์ต่างๆ หนังสือ รวมถึงข้อมูลที่เกี่ยวข้อง
2. วิธีการเก็บข้อมูล/เครื่องมือการวิจัย
1) การศึกษาจากเอกสารที่เกี่ยวข้อง เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมด้านความรู้และความสามารถในการศึกษาวิจัย และเป็นการศึกษาข้อมูลเพื่อนำไปเปรียบเทียบหลังจากการรวบรวมข้อมูล
2) รวบรวมข้อมูลพื้นฐานที่เป็นข้อมูลพื้นฐานของชุมชนเช่น ข้อมูลพื้นฐานชุมชนข้อมูลสภาพพื้นที่ แผนการพัฒนาชุมชนของชุมชน และข้อมูลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
3) การเข้าร่วมและสังเกตการณ์กิจกรรมต่างๆ ที่ทางชุมชนได้ทำ
4) การสัมภาษณ์ โดยแบ่งบทบาทประเด็นการลงไปสัมภาษณ์ผู้รู้ในชุมชน
5) สำรวจข้อมูล โดยทีมวิจัย และเก็บข้อมูลร่วมกับหน่วยงานที่เข้ามาศึกษาเรียนรู้ในพื้นที่ มีการสัมภาษณ์จากผู้รู้ แกนนำชุมชน ระดับบุคคลและระดับกลุ่ม
5) การจัดเวทีแลกเปลี่ยนความคิดให้เห็นการอนุรักษ์ทุนทางวัฒนธรรมเพื่อนำไปสู่แนวทางการจัดการท่องเที่ยวโดยชุมชน
6) การจัดเวทีสรุปบทเรียนการดำเนินงานโครงการ เป็นการนำเสนอข้อมูล และเติมเต็มข้อมูลร่วมกัน
6.ผลการวิจัย
6.1 ทุนทางวัฒนธรรมชุมชน ของเครือข่ายการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมโดยชุมชน 5 ชุมชนเทศบาลเมืองลำพูน อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน
ประเด็นทุนทางวัฒนธรรมชุมชน 4 ด้าน ได้แก่ ทุนทางด้านประวัติศาสตร์ชุมชนและวิถีชีวิตชุมชน ภูมิปัญญาท้องถิ่น ประเพณี วัฒนธรรม จารีตวิถีปฏิบัติ และโบราณสถาน โบราณวัตถุ ทุกชุมชน มีที่มาทางประวัติศาสตร์ในยุคสมัยหริภุญชัย พระนางจามเทวี แต่ละชุมชนมีต้นทุนทางวัฒนธรรมที่โดดเด่นไม่เหมือนกันด้านประวัติศาสตร์ พบว่า ข้อมูลที่ได้มาจากหลายแห่ง ทั้งจากเอกสารตำราที่ต่างกัน จากเรื่องเล่าสืบกันมาไม่เหมือนกัน ทำให้ผู้วิจัยสับสน ไม่แน่ใจว่าเรื่องของใครเป็นเรื่องที่ควรถ่ายทอด เช่น ประวัติที่มาของพระนางจามเทวีที่วาดบนฝาผนังที่วัดจามเทวี และวัดมหาวัน กับประวัติศาสตร์ในตำรา พระนางจามเทวีมีที่มาต่างกัน ข้อมูลไม่ตรงกัน จึงใช้การถ่ายทอดว่า เป็นมุกขปาถะที่เล่าสืบกันมา เนื่องจากไม่มีใครเกิดในสมัยนั้น ด้านภูมิปัญญาท้องถิ่น เทศบาลเมืองลำพูนได้มีการส่งเสริม สนับสนุนในการสืบทอดภูมิปัญญาท้องถิ่น ให้คนในชุมชนทำโคม ทำตุง ได้มีกลุ่มผู้สูงอายุชุมชนจามเทวี ชุมชนไก่แก้ว ชุมชนมหาวันที่มีความถนัดรวมกลุ่มกันจัดทำ นอกจากนี้ทางชุมชนเอง ได้มีการรวมกลุ่มในการส่งเสริม สนับสนุนในการสืบทอดภูมิปัญญาท้องถิ่นเช่นการปั้นพระรอดในชุมชนมหาวัน การปั้นพระคงในชุมชนพระคงฤาษี การจัดทำเครื่องสักการะล้านนาในชุมชนประตูลี้ และชุมชนมหาวัน การฟ้อนรำพื้นบ้าน การทำกลองในชุมชนไก่แก้ว เป็นต้น เพื่อสามารถถ่ายทอดเรื่องราวให้กับนักท่องเที่ยวได้ ในภาพรวมของการถ่ายทอดทุนวัฒนธรรมยังต้องอาศัยหน่วยงานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และองค์กรในภาครัฐ ได้สนับสนุนส่งเสริม และดูแลข้อมูลที่ถูกต้อง ชัดเจนให้คนในชุมชนได้เรียนรู้ เพื่อสามารถถ่ายทอด แลกเปลี่ยนเรียนรู้กับนักท่องเที่ยวและผู้ที่สนใจได้อย่างถูกต้อง และมั่นใจ
6.2 ระบบการบริหารจัดการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมโดยชุมชนของเครือข่ายการท่องเที่ยวโดยชุมชน 5 ชุมชนเทศบาลเมืองลำพูน อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน
ในการบริหารจัดการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมของแต่ละชุมชน ขึ้นอยู่กับความพร้อมและบริบทของแต่ละชุมชนที่แตกต่างกันจึงได้จัดระบบการบริหารจัดการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมโดยชุมชน ของเครือข่ายการท่องเที่ยวโดยชุมชน 5 ชุมชนเทศบาลเมืองลำพูน ที่แตกต่างกัน กล่าวคือ ชุมชนมหาวัน มีกลุ่มคนหลายกลุ่มที่รวมตัวกันทำงานโดยชุมชน เป็นแหล่งเรียนรู้ศึกษาดูงาน เนื่องจากเป็นพื้นที่เป้าหมายของสถาบันอุดมศึกษาทำกิจกรรมโตยฮอยเมืองเก่าหละปูน จึงทำให้เกิดการเรียนรู้ และได้รับประสบการณ์ตรง ทำกิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย ผู้ประกอบการ และชาวต่างประเทศ มีความเข้าใจในวิธีบริหารจัดการโดยชุมชนมากขึ้นได้มีการวางโครงสร้างคณะทำงานในการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมชุมชนมหาวัน โดยมีการคัดเลือกประธานงานท่องเที่ยงเชิงวัฒนธรรมชุมชนมหาวัน พร้อมรองประธาน และแบ่งฝ่าย 2 ฝ่าย คือ 1)งานบริหารงานทั่วไป ได้แก่ งานประชาสัมพันธ์แผนกการจองสถานที่ท่องเที่ยวผู้นำเที่ยวสร้างเครือข่ายพัฒนาศักยภาพบุคลากรยานพาหนะ2)งานการเงิน ได้แก่ การขาย การตลาด ที่พักอาหาร/เครื่องดื่มและส่งเสริมอาชีพมีที่ปรึกษาจากพระสงฆ์ ปราชญ์ผู้รู้ในชุมชน ผู้ทรงคุณวุฒิ ตัวแทนจากสถาบันอุดมศึกษาอปท. ภาครัฐ และเอกชน ซึ่งทางพื้นที่จะมีการพูดคุยแบ่งบทบาท ความชัดเจนร่วมกันเป็นระยะชุมชนจามเทวีเป็นชุมชนที่มีคนจากหลายเขตเข้ามาอาศัยอยู่ ผู้นำทีมวิจัยเป็นคนนอกชุมชน แต่มีความสนใจในเรื่องการท่องเที่ยวโดยชุมชน เพราะมีประสบการณ์การทำงานด้านประวัติศาสตร์มาก่อน การประสานงานค่อนข้างลำบาก ประกอบกับท่านเจ้าอาวาสวัดป่วย ไม่สามารถร่วมกิจกรรมได้เท่าที่ควร แต่ชุมชนจามเทวีเป็นชุมชนในพื้นที่เป้าหมายตามโครงการนวัตกรรมการพัฒนาการท่องเที่ยวเมืองอารยธรรมโบราณ นครหริภุญชัย ของเทศบาลเมืองลำพูน ดังนั้นทางด้านการส่งเสริมการท่องเที่ยวจึงเป็นงานที่ทางเทศบาลเมืองลำพูนประสานกับทางวัดเอง แต่ทางเทศบาลเมืองได้ส่งเสริมชุมชนจามเทวีซึ่งทางชุมชนความโดดเด่นเรื่องกลุ่มต่าง ๆ ในชุมชน จึงได้นำแกนนำกลุ่มมารวมเป็นคณะทำงานร่วมในในการวางแผนการขับเคลื่อนงานร่วมกัน โดยมีประธานชุมชนเป็นประธานกลุ่มอาชีพเพื่อรองรับและส่งเสริมการท่องเที่ยว เป็นหลัก กรรมการที่ปรึกษา คณะทำงานที่มาจากแกนนำกลุ่มแม่บ้าน กลุ่มคนพิการ กลุ่มคนดูแลผู้ป่วยติดเตียงและกลุ่มผู้สูงอายุ ชุมชนพระคงฤาษีมีกลุ่มผู้สูงอายุที่เข้มแข็ง มีองค์ความรู้ มีความสามารถ รวมทั้งมีการเชื่อมโยงกับกลุ่มเยาวชนเข้ามาหนุนเสริมในการขับเคลื่อนงาน มีวัดเป็นศูนย์รวมจิตใจ การช่วยเหลือกัน จึงได้มีการวางโครงสร้างคณะทำงานในการขับเคลื่อนงานการท่องเที่ยวชุมชนไก่แก้วมีวัดเป็นศูนย์รวมจิตใจ ในชุมชนมีกลุ่มต่าง ๆ ที่มาจากภูมิปัญญาท้องถิ่น รวมทั้งมีสถานที่สำคัญ คือ เจ้าพ่อกู่ช้าง การหารือพูดคุยร่วมกันในการขับเคลื่อนงานท่องเที่ยวโดยชุมชน จึงได้มีการรวมแกนนำแต่ละกลุ่มเพื่อเป็นคณะทำงานหลักในการวางแผนและขับเคลื่อนงานร่วมกัน โดยแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ ระดับชุมชน และมูลนิธิ เนื่องจากชุมชนมีมูลนิธิเจ้าพ่อกู้ช้างที่มีโครงสร้างคณะทำงานอยู่แล้ว แต่การทำงานมีการเชื่อมโยงกันทั้ง 2 ส่วน ชุมชนไก่แก้วจึงมีโครงสร้างคณะทำงาน เป็น 2 ชุดคือชุดของชุมชนไก่แก้ว และชุดคณะทำงานมูลนิธิเจ้าพ่อกู่ช้างลำพูน ชุมชนประตูลี้ผู้นำทีมวิจัยซึ่งเป็นประธานชุมชน มีความต้องการเปิดชุมชนเป็นแหล่งท่องเที่ยว แต่เนื่องจากผู้นำชุมชน และเจ้าอาวาสวัด เป็นผู้นำชุมชนใหม่ ยังไม่เกิดการรวมตัวของกลุ่มคนที่เข้มแข็ง แต่ผู้นำชุมชนได้มีการประสานงานกับหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภาครัฐ และเอกชนมาเข้าร่วมกิจกรรมที่ทางชุมชนจัดขึ้นและจากการไปศึกษาดูงาน แลกเปลี่ยนเรียนรู้การบริหารจัดการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมต่างจังหวัด ทำให้นักวิจัยชุมชนประตูลี้เกิดความคิดในการรวมกลุ่มครอบครัวเข้มแข็ง เพื่อถ่ายทอดภูมิปัญญาจากคนในครอบครัวที่มีอยู่ให้เกิดเป็นรูปธรรมชัดเจน จึงเกิดกลุ่มครอบครัวลูกหลานแม่อุ๊ยหน้อย มีการแบ่งบทบาทคณะทำงาน โดยใช้ในนามข่วงแม่อุ้ยทา ในข่วงแม่อุ้ยทามีผู้จัดการข่วง มีฝ่ายประสานงาน ฝ่ายภูมิปัญญาพื้นบ้าน เป็นคณะทำงานในการทำงานร่วมกัน โดยมีที่ปรึกษาจากหน่วยงานองค์กรต่าง ๆ เข้ามาร่วม
ระบบการบริหารจัดการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมโดยชุมชนของเครือข่ายการท่องเที่ยวโดยชุมชน 5ชุมชนแต่ละพื้นที่มีการจัดการคล้ายกันและต่างกันออกไปบ้างมีการสร้างความเข้าใจ และการรับรู้ในวิถีชีวิตและวัฒนธรรม วางระบบการจัดการให้เกิดการเรียนรู้ร่วมกัน ระหว่างชุมชนและนักท่องเที่ยว เตรียมศูนย์บริการข้อมูล เปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวเข้ามาศึกษาดูงาน และประสานกับหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องจัดทำสื่อเอกสาร แผ่นพับ ข้อมูลความรู้ชุมชน แจกให้แก่นักท่องเที่ยวมีการวางแผนการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมร่วมกันกับหน่วยงาน องค์กรต่าง ๆที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันจัดทำปฏิทินวัฒนธรรม ประเพณี ประจำปี5 ชุมชน และร่วมกันจัดทำแผนที่เส้นทางการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมโดยชุมชน เครือข่ายชุมชน 5 ชุมชน
6.3 เส้นทางการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม 5 ชุมชนเทศบาลเมืองลำพูน
การออกแบบเส้นทางการท่องเที่ยวการทำ SWOT เพื่อหาจุดอ่อน จุดแข็งของแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม และร่วมกันจัดทำเส้นทาง แผนที่ชุมชน (ทำมือ) ของแต่ละชุมชน ดึงทุนวัฒนธรรมที่มี เพื่อนำเสนอ และมีการจัดเป็นเส้นทางการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมทั้ง5 ชุมชน ซึ่งเป็นการวางเส้นทางจากข้อมูลที่ได้รวบรวมมา ได้มีการทดลองให้นักท่องเที่ยวได้ลองมาเที่ยว ให้ข้อคิดเห็น เพื่อปรับปรุงให้มีความเหมาะสมและสอดคล้องกับความต้องการของนักท่องเที่ยง และเป้าหมายที่ชุมชนอยากนำเสนอให้มากที่สุด แต่ละชุมชนได้ปรับปรุง และพัฒนาแผนที่เส้นทางจากแผนที่ชุมชน (ทำมือ) เป็นแผนที่ Land Mark เพื่อปรับแผนที่เส้นทางที่มีความเหมาะสมและเป็นไปได้ และสามารถนำไปปรับใช้ในการจัดทำสื่อประชาสัมพันธ์ได้ในโอกาสต่อไป
6.4 เครือข่ายการจัดการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมโดยชุมชน ของเครือข่ายการท่องเที่ยวโดยชุมชน 5 ชุมชนเทศบาลเมืองลำพูน อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน
การสร้างเครือข่ายการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมโดยชุมชน ของเครือข่ายการท่องเที่ยวโดยชุมชน 5ชุมชนได้มีการเรียนรู้ ร่วมกันจัดกิจกรรมการท่องเที่ยวทั้ง 5 ชุมชน ที่ตระหนักเห็นความสำคัญของทุนวัฒนธรรมชุมชนที่มีอยู่ มีความภูมิใจในทุนวัฒนธรรมของชุมชนที่มีมาครั้งประวัติศาสตร์เรียนรู้จากการประสาน และแลกเปลี่ยนความคิดกับเครือข่ายชุมชนต่าง ๆ ได้เห็นจุดเด่น จุดที่ควรพัฒนาของแต่ละชุมชน ผู้นำชุมชนมีส่วนสำคัญในการนำคนในชุมชนเข้าร่วมกิจกรรมเรียนรู้เรื่องทุนวัฒนธรรมจากคนในชุมชน พระสงฆ์ในวัด มีความกระตือรือร้นอยากเรียนรู้เรื่องทุนวัฒนธรรมจากคนในชุมชน และชุมชนอื่นสามารถสร้างความเข้าใจ และการรับรู้ในวิถีชีวิตและวัฒนธรรมที่แตกต่างกันได้ วางระบบการจัดการให้เกิดการเรียนรู้ร่วมกัน ระหว่างชุมชนและนักท่องเที่ยว เตรียมศูนย์บริการข้อมูล เปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวเข้ามาศึกษาดูงาน เปิดเป็นศูนย์เรียนรู้ ภูมิปัญญาท้องถิ่น ให้นักเรียนได้มาศึกษาเรียนรู้ และประสานกับหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องจัดทำสื่อเอกสาร แผ่นพับ ข้อมูลความรู้ชุมชน แจกให้แก่นักท่องเที่ยวทรัพยากรและวัฒนธรรมชุมชนทั้ง 5 ชุมชน เป็นชุมชนที่มีความเป็นมาทางประวัติศาสตร์สมัยพระนางจามเทวี และเกี่ยวข้องกับพระนางจามเทวี สมัยหริภุญไชย มีความโดดเด่นทางวัฒนธรรมสูง หน่วยงานต่างๆ รณรงค์ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว ส่วนในด้านการสืบทอดทางวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่นแต่ละชุมชนมีของดี เอกลักษณ์ในชุมชนที่โดดเด่นไม่เหมือนกัน จากการวางแผนร่วมกัน ร่วมกันประสานกับหน่วยงานต่าง ๆ ร่วมกันจัดระบบ ให้มีความเข้าใจตรงกัน จึงได้ปฏิทินวัฒนธรรมประเพณี 5 ชุมชน ในแต่ละเดือนและแผนที่เส้นทางการท่องเที่ยวโดยชุมชน เครือข่าย 5 ชุมชนเทศบาลเมืองลำพูน ไว้บริการนักท่องเที่ยวองค์กรชุมชน ทั้ง 5 ชุมชนมีปราชญ์ หรือผู้รู้ที่หลากหลายแต่ละชุมชนได้รวบรวมเป็นแหล่งเรียนรู้ ภูมิปัญญาท้องถิ่น เพื่อถ่ายทอดให้ผู้สนใจ นักท่องเที่ยว นักเรียน และนักศึกษาได้มาเรียนรู้วิถีชีวิต ความเป็นมา และรากเหง้าของตนเอง ซึ่งบางอย่างกำลังจะสูญหาย ชุมชนต้องการรื้อฟื้นขึ้นมาใหม่ การสร้างความเป็นเจ้าของร่วม วิธีการทำให้คนในชุมชนเป็นเจ้าของร่วม ในการจัดกิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมนี้ ได้มีการจุดประกายความคิด ปลุกจิตสำนึก ให้มีความตระหนัก เห็นความสำคัญของทุนวัฒนธรรมที่มีอยู่ในชุมชน เปิดโอกาสให้แต่ละคนได้แสดงออกตามศักยภาพของแต่ละคน มีการส่งเสริม สนับสนุนให้คนในชุมชนทั้งผู้ใหญ่ เด็กและเยาวชน ได้เข้าร่วมกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้วิธีการที่ทำให้เครือข่ายชุมชนเข้มแข็ง ได้มีการแต่งตั้งตัวแทนผู้ประสานงาน ขอความร่วมมือทุกฝ่ายให้ร่วมกันบูรณาการการทำงานร่วมกันโดยชุมชน 5 ชุมชน รวมถึงหน่วยงาน องค์กรภาครัฐ และเอกชน ทุกฝ่ายร่วมกันกำหนดในการจัดทำโครงการ กิจกรรม และจัดทำแผนพัฒนาให้ชัดเจนมีผู้นำที่เข้มแข็ง และสามารถเป็นผู้ประสานงานให้คนในชุมชน เห็นคุณค่าของวัฒนธรรม (ของดี) ของชุมชน ซึ่งสามารถนำคุณค่าของวัฒนธรรมมาแปลงเป็นรายได้ ที่สร้างเศรษฐกิจในชุมชนได้
เพื่อการสร้างความเข้มแข็งของเครือข่ายการจัดการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมโดยชุมชน 5 ชุมชน เทศบาลเมืองลำพูน ได้เสนอโครงสร้างในการสร้างเครือข่ายการจัดการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมโดยชุมชน 5 ชุมชน ประกอบด้วยหัวหน้า และรองหัวหน้าโครงการวิจัยเป็นผู้ประสานงานหลัก นิมนต์พระสงฆ์ที่เข้าร่วมโครงการเป็นที่ปรึกษา และตัวแทนแต่ละชุมชน ๆ ละ 3 คน ร่วมเป็นคณะกรรมการขับเคลื่อนในโอกาสต่อไป
การสร้างเครือข่ายการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมโดยชุมชน ของเครือข่ายการท่องเที่ยวโดยชุมชน5ชุมชนที่มีปัจจัยมาจากหลายส่วน การให้ข้อเสนอแนะทางด้านการตลาดปัจจัยที่เอื้อ และปัจจัยที่ไม่เอื้อในการจัดทำโครงการการจัดการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมโดยชุมชน 5 ชุมชนตลอดจนความคิดเห็นและข้อเสนอแนะของผู้ร่วมวิจัย พอสังเคราะห์ได้ ดังนี้1)การมีส่วนร่วมของกลุ่มองค์กรและชุมชน ต้องอาศัยการมีส่วนร่วมระหว่างองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาครัฐ ภาคเอกชน และชุมชน ในการร่วมกันวางแผน กำหนดนโยบายร่วมกัน ในการดำเนินการกลุ่ม การกำกับ ติดตาม การรับผลประโยชน์ เพื่อให้เกิดความภูมิใจร่วมกัน2) การประสานผลประโยชน์แบบบูรณาการด้านต่าง ๆ ทั้ง 3 มิติคือมิติด้านสิ่งแวดล้อม มิติด้านเศรษฐกิจ เกิดเศรษฐกิจหมุนเวียนภายในชุมชน มีการส่งเสริมอาชีพให้กับคนในชุมชน สร้างงาน สร้างรายได้ และสามารถก่อให้เกิดความยั่งยืนในการประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวโดยชุมชน และมิติด้านสังคม และวัฒนธรรม ได้เกิดความตระหนัก และหวงแหนทุนวัฒนธรรมชุมชน3) การประชาสัมพันธ์ และการตลาดควรได้มีการประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมด้วยรูปแบบที่หลากหลาย โดยการประสานกับองค์กร โรงเรียน หน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องและเรียนรู้เกี่ยวกับการตลาด การขยายการตลาดทุกภาคส่วน4) การพัฒนาศักยภาพผู้นำ และบุคลากรในชุมชนควรได้มีการส่งเสริมและสนับสนุนให้ผู้นำ ตลอดจนบุคลากรในชุมชน ได้มีการพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง และให้มีความพร้อมในด้านการบริการนักท่องเที่ยว 5) การสนับสนุนและส่งเสริมจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชน ตลอดจนสถาบันการศึกษา ต้องเข้ามาส่งเสริมและสนับสนุนในด้านองค์ความรู้ต่าง ๆ ในเรื่องของการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว การตลาด การประชาสัมพันธ์ ตลอดจนช่วยกันพัฒนาองค์ความรู้ให้แก่ชุมชนอย่างต่อเนื่องและ 6)การสร้างเครือข่ายการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมของเทศบาลเมืองลำพูน และตำบลใกล้เคียงที่มีบริบทใกล้เคียงกัน ควรมีการสร้างขยายเครือข่ายทั้งในเขตเทศบาลเมืองลำพูน และตำบลใกล้เคียง เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ส่งเสริม สนับสนุน และช่วยเหลือกัน โดยสามารถสร้างเส้นทางท่องเที่ยวร่วมกันได้
7.อภิปรายผลการวิจัย
จากผลการวิจัยครั้งนี้ สามารถอภิปรายผลในประเด็นสำคัญ ดังต่อไปนี้
7.1 ทุนทางวัฒนธรรมชุมชน ของเครือข่ายการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมโดยชุมชน 5 ชุมชนเทศบาลเมืองลำพูน ที่มีอยู่ทั้ง 5 ชุมชนใช้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม 4 ด้าน ได้เป็นอย่างดี สอดคล้องกับการวิจัยพบว่าบ้านบากมีต้นทุนวัฒนธรรมและทรัพยากร ส่งผลให้การวิจัยสามารถดำเนินการเพื่อเป็นแนวทางในการพัฒนาท่องเที่ยวชุมชนได้เป็นรูปธรรม (ปวีณา ทองบุญยังและคณะ:2556) และสอดคล้องกับผลงานวิจัยที่พบว่า หมู่บ้านวัฒนธรรมคลองแดน มีต้นทุนทางวัฒนธรรมค่อนข้างสูง เนื่องจากชาวชุมชนมีศักยภาพในการพัฒนาพื้นที่ โดยอาศัยการมีส่วนร่วมของภาคส่วนต่าง ๆ ทั้งวัด สถาบันการศึกษา องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ประกอบกับการเป็นชุมชนที่คงไว้ด้วยโบราณสถาน เป็นแหล่งประวัติศาสตร์ที่มีหลักฐานการผลิตเครื่องปั้นดินเผา จึงเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมที่มีความโดเด่นเป็นลักษณะเฉพาะ( อดิศร ศักดิ์สูงและ วรุตม์ นาที :2559)
7.2 ระบบการบริหารจัดการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมโดยชุมชนของเครือข่ายการท่องเที่ยวโดยชุมชน 5 ชุมชนเทศบาลเมืองลำพูน ที่ได้จัดในรูปคณะกรรมการหรือคณะทำงาน เพื่อทำงานตามบริบทขอแต่ละชุมชนสอดคล้องกับงานวิจัยที่ได้ศึกษาพบว่า การการจัดการบริหารในรูปคณะกรรมการ พัฒนาอำนวยความสะดวกทางการท่องเที่ยว และจัดการทางการตลาดความต้องการ ความพร้อมของชุมชนก็จะสามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้ในระยะยาว (พรรณทิพา มาลา : 2553)และสอดคล้องกับผลการวิจัยที่พบว่า คนในชุมชนมีส่วนร่วมในการทำงานและกำหนดทิศทาง มีความคงเอกลักษณ์ภูมิปัญญาท้องถิ่น เปิดโอกาสให้สตรี เยาวชน และผู้สูงอายุมีส่วนร่วมในการทำกิจกรรมด้วย การมีส่วนร่วมของคนส่วนใหญ่ให้ความร่วมมือดี และมีการกระจายผลประโยชน์และความเป็นธรรมให้แก่ชุมชนและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่าย (ชุติกาญจน์ กันทะอู : 2560)
7.3 เส้นทางการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม 5 ชุมชนเทศบาลเมืองลำพูนเครือข่ายการจัดการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมโดยชุมชน ของเครือข่ายการท่องเที่ยวโดยชุมชน 5 ชุมชนเทศบาลเมืองลำพูน ที่ได้จัดทำแผนที่เส้นทางสอดคล้องกับบริบทของแต่ละชุมชน และเครือข่าย 5 ชุมชน ตามความเหมาะสม และความเป็นไปได้ สอดคล้องกับ ผลงานวิจัยที่พบว่าพบว่าพฤติกรรมการเดินทางและสถานที่ชอบมีผลต่อทัศนคติทางสิ่งแวดล้อมมากกว่าคุณลักษณะประชากร(Muzafferและ Claudia : 1997)และสอดคล้องกับผลการวิจัยที่ได้ศึกษาว่า พบว่าด้านทรัพยากรธรรมชาติและวัฒนธรรม ชาวบ้านในชุมชนมีวัฒนธรรมเก่าแก่ มีการดำเนินชีวิตตามแบบวัฒนธรรมของตน โดยคำนึงถึงศีลธรรมอันดีงามเป็นที่ตั้ง ด้านองค์กรชุมชน ชุมชนมารวมตัวกันภายใต้แนวคิดและอุดมการณ์เดียวกัน โดยมีการบริหารจัดการด้วยตนเองภายในชุมชน เพื่อก่อให้เกิดการสร้างรายได้ สร้างอาชีพให้ตนเองและชุมชน ด้านการจัดการ ชุมชนมีการวางแผนอย่างมีหลักการและมีการดำเนินงานไปตามที่วางแผนไว้เพื่อให้ได้ตามเป้าหมายที่ต้องการ รวมกับการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน และด้านการเรียนรู้ ชุมชนมีการจัดการเรียนรู้ยึดหลักว่าทุกคนในชุมชนมีความสำคัญเท่าเทียมกัน แต่ในทางปฏิบัติการจัดการเรียนรู้ในชุมชนให้มีประสิทธิภาพเกิดประสิทธิผลและทรงพลัง เริ่มต้นจากการรวมตัวของคนในชุมชนขึ้นเป็นองค์กรชุมชน เพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับตนเอง ความสัมพันธ์ของตนเองกับครอบครัว ชุมชน และสังคม รวมทั้งส่งเสริมการแลกเปลี่ยนเรียนรู้และการเชื่อมต่อประสบการณ์ระหว่างบุคคลและชุมชน เป็นการเรียนรู้ร่วมกันของทุกฝ่าย( จิราภรณ์ แก้วมณี : 2557
7.4 เครือข่ายการจัดการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมโดยชุมชน ของเครือข่ายการท่องเที่ยวโดยชุมชน 5 ชุมชนเทศบาลเมืองลำพูนที่มีการสร้างเครือข่าย เพื่อให้มีการติดต่อ สนับสนุน มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารและการร่วมมือกันด้วยความสมัครใจ สนับสนุนและอำนวยความสะดวก ให้สมาชิกในเครือข่ายมีความสัมพันธ์กันฉันท์เพื่อน ที่ต่างก็มีความเป็นอิสระมากกว่าสร้างการคบค้าสมาคมแบบพึ่งพิง และมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารระหว่างกันด้วย ซึ่งสอดคล้องกับ (ขนิษฐา กาญจนรังสีนนท์, http://www.northphc.org/net.ppt) และกรอบแนวคิดมาจากการเรียนรู้ ทรัพยากรและวัฒนธรรม องค์กรชุมชน และการสร้างความเป็นเจ้าของร่วม ซึ่งมีองค์ประกอบต่าง ๆ 6 ส่วน คือการมีส่วนร่วมของกลุ่มองค์กรและชุมชน การประสานผลประโยชน์แบบบูรณาการด้านต่าง ๆ ทั้ง 3 มิติ การประชาสัมพันธ์ และการตลาด การพัฒนาศักยภาพผู้นำ และบุคลากรในชุมชน การสนับสนุนและส่งเสริม และ การสร้างเครือข่ายการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมสอดคล้องกับผลการวิจัยที่พบว่า ควรนำเอกลักษณ์ของแหล่งท่องเที่ยว มาจัดการในเชิงเศรษฐกิจ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับแหล่งท่องเที่ยว สร้างความร่วมมือทางการท่องเที่ยวชุมชน ระหว่างหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ควรสนับสนุนส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยการใช้รถม้า หรือปั่นจักรยาน สนับสนุนและสร้างองค์ความรู้ด้านการจัดการท่องเที่ยวให้กับชุมชน(กิตติศักดิ์ กลิ่นหมื่นไวย: 2554)และสอดคล้องกับงานวิจัยที่พบว่า องค์ประกอบที่สำคัญเรื่องหนึ่งคือ การพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวให้โดดเด่น หน่วยงานภาครัฐควรให้การสนับสนุนทั้งความรู้ สิ่งอำนวยความสะดวก การพัฒนาศักยภาพแหล่งท่องเที่ยว บุคลากร การประชาสัมพันธ์ และการจัดกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง(นรินทร์ สังข์รักษา : 2555)นอกจากนี้ยังมีผลการวิจัยพบว่ารูปแบบการจัดการท่องเที่ยวโดยชุมชนของตำบลนางพญา อำเภอท่าปลา จังหวัดอุตรดิตถ์ต้องอาศัยการมีส่วนร่วมระหว่างภาครัฐและชุมชน การสนับสนุนและส่งเสริมในการพัฒนาการท่องเที่ยวจากสถาบันการศึกษา การพัฒนาผู้นำและคนในชุมชนอย่างต่อเนื่อง การสร้างเครือข่ายของแหล่งท่องเที่ยวภายในจังหวัด และในจังหวัดใกล้เคียง และการประเมินผลการดำเนินงานกลุ่มโดยอาศัยการมีส่วนร่วมของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ซึ่งผู้นำชุมชนท้องถิ่นต้องนำรูปแบบนี้ไปทดลองใช้ เพื่อให้เกิดการมีส่วนร่วมในการส่งเสริมแหล่งท่องเที่ยวตนเองต่อไป (เบญจวรรณ สุจริต : 2560)
8.ข้อเสนอแนะ
1) องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เทศบาล หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ควรจัดทำระบบการท่องเที่ยวในพื้นที่ เช่น รายชื่อที่ท่องเที่ยว การเข้าถึงชุมชน การส่งเสริมการตลาด การประชาสัมพันธ์ เผยแพร่ข้อมูล การจัดนำนักท่องเที่ยวมาเที่ยว การพัฒนาพิพิธภัณฑ์ แหล่งเรียนรู้ รวมทั้งสิ่งอำนวยความสะดวก
2) ฟื้นฟู ส่งเสริมภูมิปัญญาท้องถิ่น วิถีชีวิต ให้เป็นกิจกรรมใหม่ ในการส่งเสริมการท่องเที่ยว
3) เทศบาลเมืองลำพูน องค์การบริหารส่วนจังหวัด รวมทั้งหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน ควรได้สนับสนุนงบประมาณในส่วนที่เกี่ยวข้องมาช่วยพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและเป็นที่ปรึกษา จนกว่าชุมชนจะเข้มแข็ง ดำเนินการเองได้
9.เอกสารอ้างอิง
กิตติศักดิ์ กลิ่นหมื่นไวย. (2554). แนวทางการพัฒนาการท่องเที่ยวโดยชุมชนจังหวัดลำปาง.วิทยาศาสตรมหาบัณฑิตสาขาวิทยาศาสตร์การกีฬาคณะวิทยาศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
ขนิษฐา กาญจนรังสีนนท์. การสร้างเครือข่ายเพื่อการพัฒนา. http://www.northphc.org/net.ppt)
ฉัตรแก้ว สิมารักษ์ และคณะ. (2549). แนวทางการพัฒนาการท่องเที่ยวจังหวัดลำพูน. เชียงใหม่: คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.
ชุติกาญจน์ กันทะอู. (2560). การท่องเที่ยวโดยชุมชนเป็นฐาน กรณีศึกษาบ้านร่องฟอง ตำบลร่องฟอง อำเภอเมืองแพร่ จังหวัดแพร่.ศิลปศาสตรมหาบัณฑิตสาขาวิชาพัฒนามนุษย์และสังคมจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
นรินทร์ สังข์รักษา. (2555). การศึกษาแนวทางการส่งเสริมการท่องเที่ยวเพื่อการศึกษาศิลปวัฒนธรรมในอู่อารยธรรม จังหวัดราชบุรี.กรุงเทพฯ: ภาควิชาพื้นฐานทางการศึกษา มหาวิทยาลัยศิลปากร.
เบญจวรรณ สุจริต.(2560 กรกฎาคม-ธันวาคม).รูปแบบการจัดการท่องเที่ยวโดยชุมชนของตำบลนางพญา อำเภอท่าปลา จังหวัดอุตรดิตถ์ : วารสารวิชาการมหาวิทยาลัยราชภัฎอุตรดิตถ์ ปีที่ 12 ฉบับที่ 2.
ปวีณาทองบุญยัง และคณะ. (2556). โครงการวิจัยรูปแบบการท่องเที่ยวเชิงนิเวศวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ชุมชนบ้านบากตำบลบ้านบากอำเภอดอนตาลจังหวัดมุกดาหาร.กรุงเทพฯ: สำนักงานกองทุนสนับสนุนงานวิจัย (สกว.).
พรรณทิพา มาลา. (2553).แนวทางการฟื้นฟูวัฒนธรรมชุมชนเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว กรณีศึกษาชุมชนอำเภอแพรก จังหวัดอยุธยา.อยุธยา: มหาวิทยาลัยราชภัฏอยุธยา.
สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดลำพูน. (2561). สถิติการเข้าเยี่ยมชมแหล่งท่องเที่ยวในจังหวัดลำพูน.ลำพูน: สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดลำพูน.
อดิศร ศักดิ์สูง และวรุตม์ นาที. (2559). การจัดการท่องเที่ยวโดยชุมชนในรูปแบบหมู่บ้านวัฒนธรรมเพื่อรองรับประชาคมอาเซียน บริเวณคาบสมุทรสทิงพระ จังหวัดสงขลา.สงขลา: มหาวิทยาลัยทักษิณ.
Muzaffer, Uysal and Claudia Jurowski.(1997). “Environmental Attitude by Trip and Visitor Characteristics,” Tourism of Management. 15(4) : 284–560, n.d.