แม่ครูทัศนีย์  บุญมาภิ 

แรงบันดาลใจในการเข้าร่วมกิจกรรม

       “ยิ่งให้ ยิ่งได้” เป็นพลังที่ยิ่งใหญ่ที่ผุดอยู่ในใจอยู่เสมอ จึงทำให้ไม่รู้สึกเหนื่อย ไม่รู้สึกหน่าย แต่มีความสุขทางใจ ที่ได้เห็นรอยยิ้ม ปริ่มไปด้วยความสุขของผู้เข้าร่วมกิจกรรมทุกคน

แรงบันดาลใจในการเข้าร่วมกิจกรรมกับทางวัดมหาวัน และชุมชนมหาวัน ทั้งในการดำเนินงานจัดกิจกรรม และการเข้าร่วมกิจกรรมแต่ละครั้งนั้นเกิดจากการที่คนเราต้องมีการเรียนรู้ตลอดชีวิต ไม่มีใครแก่เกินเรียน             หลังชีวิตเกษียณจึงได้ริเริ่มรวมกลุ่มผู้ที่สนใจและมีวัตถุประสงค์เดียวกัน บูรณาการการทำงานร่วมกับหน่วยงาน                 ต่าง ๆ ในการจัดทำงานวิจัยท้องถิ่นเรื่อง การจัดการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม 5 ชุมชนในเขตเทศบาลเมืองลำพูน   ทำให้เราได้เรียนรู้ทุนวัฒนธรรมชุมชนมหาวันได้มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะชุมชนมหาวัน ที่เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธสิขีปฏิมากร หรือพระรอดหลวง ได้มีโอกาสศึกษาการปั้นพระรอดซึ่งเป็นพระ 1 ในเบญจภาคีที่คนรู้จักทั่วประเทศ รวมทั้งภูมิปัญญาท้องถิ่นในชุมชน ที่สมควรได้รับการอนุรักษ์ และสืบสานวัฒนธรรมต่าง ๆ ไว้ จากรุ่นสู่รุ่นให้ผู้สูงอายุได้ถ่ายทอดให้กับเด็ก เยาวชนและผู้ที่สนใจ เช่นการปั้นพระรอด การตัดตุง การทำขนมพื้นบ้าน อาหารพื้นเมือง และวิถีชีวิตของคนในสมัยก่อน เป็นต้น และในขณะเดียวกันเด็ก และเยาวชนที่มีความรู้ในเรื่องการฟ้อนเจิงได้นำฟ้อนเจิงมือเปล่าและฟ้อนเจิงพลองมาประยุกต์ใช้ให้ผู้สูงอายุได้ออกกำลังกายเพื่อสุขภาพไปด้วยนับว่าเป็นประโยชน์ที่ได้รับทั้งมีการถ่ายทอดภูมิปัญญา และเป็นประโยชน์ในการออกกำลังกายเพื่อรักษาสุขภาพด้วยเป็นการได้รับประโยชน์ในการเป็นทั้งผู้ให้และผู้รับโดยเป็นผู้สูงอายุที่มีคุณภาพอยู่ภายใต้การดูแลช่วยเหลือตัวเองไม่เป็นภาระใคร เป็นผู้สูงอายุที่มีคุณภาพทั้งด้านร่างกาย ด้านจิตใจ ด้านสังคม ด้านจิตปัญญา และด้านเศรษฐกิจ โดยมี วัดมหาวันเป็นพื้นที่เรียนรู้และถ่ายทอดประสบการณ์ ภูมิปัญญาและวัฒนธรรมท้องถิ่น ให้ดำรงสืบทอด             เป็นเอกลักษณ์ของชุมชน และเป็น “เวที” ที่เปิดโอกาสให้ผู้สูงอายุมีส่วนร่วมในการทำประโยชน์ต่อชุมชนและสังคมรวมทั้งอาจเป็นแรงผลักดันให้เข้าร่วมเป็นอาสาสมัครในชุมชนในโอกาสต่อไป และในขณะเดียวกัน เด็ก และเยาวชนที่ได้รับการถ่ายทอดภูมิปัญญาท้องถิ่น ก็จะได้รู้จักรากเหง้า ที่มาของตัวเอง มีความรัก หวงแหน                 แหล่งเรียนรู้ ภูมิปัญญาท้องถิ่นของตนเองมากยิ่งขึ้น

ในการดำเนินการจัดกิจกรรม และการเข้าร่วมกิจกรรมทุกครั้ง เรามักได้ทั้งคำติ และคำชม คำติเพื่อก่อเราน้อมรับเพื่อพัฒนากิจกรรมต่าง ๆ ให้ดีขึ้น เป็นการยกระดับคุณภาพจิตของเราให้มีสมาธิ มั่นคงไม่หวั่นไหว คำชมเป็นยาบำรุงกำลังให้มีแรงใจในขับเคลื่อนการทำงานโดยไม่มีที่สิ้นสุด ทุกเรื่อง ทุกอย่าง เป็นการให้โดยไม่หวังผลตอบแทน ท่องคาถาไว้ในใจเสมอ ขยันหายใจเข้าไว้เพื่อจะได้มีโอกาสทำความดีเพื่อความดีที่เป็นประโยชน์ ต่อชุมชนและสังคมต่อไป

                                                                                                                       ทัศนีย์  บุญมาภิ

                                                                                                             กรรมการและเลขานุการชุมชนมหาวัน

                                                                                                             1 กันยายน 2564