ช้างเอราวัณสามเศียร สร้างจากความคิดและจินตนาการของ คุณเล็ก วิริยะพันธุ์ เริ่มจากคุณเล็กต้องการจะรักษาของโบราณที่ท่านสะสมไว้ให้เป็นมรดกของแผ่นดินไทย เพราะมีหลายสิ่งหลายอย่างที่ไม่เพียงแต่มีคุณค่าทางศิลปกรรมเท่านั้น หากยังเป็นรูปเคารพที่ ศักดิ์สิทธิ์ของคนโบราณด้วย ของเหล่านี้มีค่าควรเมือง เพราะเป็นสิ่งที่ทำให้เกิดสิริมงคล และความอุดมสมบูรณ์แก่บ้านเมืองและแผ่นดิน
จนกระทั่งวันหนึ่งมีแขกฝรั่งคนหนึ่งมาคุยด้วย และได้พูดถึง ความคิดที่จะสร้างอาคารจำลองเมืองเป็นรูปผลแอปเปิ้ล ตามความเชื่อ ทางวัฒนธรรมของคนตะวันตก คุณเล็กจึงคิดได้แต่จะสร้างเป็นรูปช้างเอราวัณของคนตะวันออกแทน ช้างเอราวัณเป็นช้างบนสวรรค์ มีสามเศียร แต่คุณเล็กไม่นึกให้เป็นเพียงพาหนะของพระอินทร์ ผู้เป็นเทพเจ้า หากจินตนาการให้เป็น ช้างจักรวาลที่มีอิสระในลักษณะที่สร้างให้เป็นอาคารศักดิ์สิทธิ์ ที่บรรจุรูปเคารพและสิ่งของที่เป็นสวัสดิมงคลของบ้านเมือง คุณเล็กออกแบบและมอบหมายให้ คุณพากเพียร วิริยะพันธุ์ บุตรชายคนโต หาช่างมาดำเนินการสร้าง
เมื่ออาคารช้างสามเศียรเป็นรูปร่างขึ้นมา ก็เกิดมีผู้คนมากราบไหว้บูชา จนกลายเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ไป คุณเล็กและคุณพากเพียร วิริยะพันธุ์ ได้สิ้นไปก่อนที่อาคารช้างจักรวาลจะเสร็จ ปัจจุบันลูกหลานก็ดำเนินการแทน เพื่อจัดตั้งให้เป็นทั้งสถานที่จัดงานประเพณีทางวัฒนธรรมที่ดีงาม
สิ่งที่น่าสนใจศึกษาและเรียนรู้
พิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณมีเอกลักษณ์เป็นรูปช้างเอราวัณแบบชาวตะวันออก มี 3 เศียร ที่ตั้งอยู่ริมถนนสุขุมวิทที่มีขนาดใหญ่มีน้ำหนัก 100 ตัน นับจากฐานที่เป็นอาคารรองรับจากพื้นดินถึงยอดมีความสูง 50 เมตร หรือประมาณตึกสูงถึง 17 ชั้น ซึ่งจะมองเห็นเด่นชัดสำหรับผู้สัญจรผ่านไปมา ตามถนนสายสุขุมวิท และยังถือเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่คนมักจะแวะมากราบไหว้บูชาและบนบาน จะเห็นได้จากบริเวณริมถนนหน้าพิพิธภัณฑ์ จะมีเหล่าพ่อค้าและแม่ค้านำของมาขายเช่น พวงมาลัย ดอกไม้ ธูปเทียน ของแก้บนซึ่งเป็นอาหารที่โปรดปรานของช้าง เช่น อ้อย มะพร้าว กล้วย
ส่วนภายในอาคารจัดเป็นพิพิธภัณฑ์เก็บรักษาศิลปวัตถุ และโบราณวัตถุ ของสะสมของ คุณเล็ก วิริยะพันธุ์ ตัวอาคารและบันไดทำจากหินฟูลคอลไรท์ ผสมด้วยวิธีการแบบโบราณด้วยปูนหนังควาย ข้าวเหนียว และน้ำตาล อีกส่วนใช้กระเบื้องที่ทุบจากถ้วยชามเบญจรงค์มาต่อเป็นลายผสมกับลวดลาย แกะสลักลายไทย แสดงให้เห็นถึงภูมิปัญญาของคนไทยได้ดี ความเด่นชัดอีกประการหนึ่งคือ ผิวช้างทำจากทองแดงบริสุทธิ์ เมื่อเวลาผ่านไปจะมีสนิมเขียว จับเกิดความสวยงาม พิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณถือได้ว่าเป็นแหล่งเรียนรู้ที่ดี ที่แสดงให้เห็นถึงศิลปวัฒนธรรมไทยในสมัยต่าง ๆ ที่สวยงามของไทย
ส่วนฐานมีเพดานของห้องโถงประดับกระจกสีออกแบบเป็นรูปแผนที่โลกฝีมือช่างชาวเยอรมัน จากบันไดเวียนจะนำมาสู่ห้องจัดแสดงสมบัติวัตถุใต้ท้องช้างโดยออกแบบเป็นจักรวาล บันไดจากขั้นบนสุดสู่ชั้นล่างมี 139 ขั้น
บริเวณโดยรอบพื้นที่กว่า10 ไร่ เป็นอุทยานขนาดใหญ่ใช้เป็นที่พักผ่อนหย่อนใจ ตกแต่งด้วยต้นไม้ และน้ำตกที่สวยงาม
สถานที่ตั้ง 99/9 หมู่ 1 ต.บางเมืองใหม่ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ
ภูมิปัญญา คุณเล็ก วิริยะพันธุ์ เป็นผู้ก่อตั้ง
พระเกศจุฬามณีเจดีย์ ที่ซึ่งประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ อันเป็นสัตตมงคลมหาสถานที่สร้างขึ้นตามความเชื่อในการบูชาพระเจดีย์จุฬามณีที่ประดิษฐานอยู่บนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ หากพุทธศาสนิกชนได้มาบูชาพระเจดีย์จุฬามณีและสักการะพระบรมสารีริกธาตุ ณ สถานที่แห่งนี้ จึงเปรียบเสมือนการเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้า ทั้งยังเป็นสิ่งที่ควรเคารพบูชาของพุทธศาสนิกชนทุกคน
การตกแต่งเป็นการผสมผสานศิลปะหลากหลายรูปแบบ เช่น การใช้กระจกสีแบบศิลปะตะวันตก,เครื่องเบญจรงค์สลับลวดลายสอดสี , การดุนโลหะบนแผ่นดีบุกของช่างเมืองนครศรีธรรมราช และรูปปั้นโบราณชนิดต่างๆ อาทิ คนธรรพ์บรรเลงดนตรี รูปพญานาค ของช่างเมืองเพชร
พิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ (Erawan Museum) ตั้งอยู่บนถนนสุขุมวิท ขาเข้าจังหวัดสมุทรปราการ เปิดทำการตั้งแต่เวลา 08.00 – 17.00 น. ค่าบัตรเข้าชมพิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ โดยไม่เข้าชมภายในตัวพิพิธภัณฑ์ (ชมภายในและภายนอกพิพิธภัณฑ์) ผู้ใหญ่ 150 บาท, เด็ก (อายุ 6-15 ปี) 50 บาท และถ้าจะสักการะภายในพิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ ต้องเสียค่าบัตรบำรุง 50 บาท (พร้อมดอกไม้ ธูป เทียน) สามารถเดินชมบริเวณสวนได้โดยรอบ เปิดสักการะตั้งแต่เวลา 08.00 – 18.00 น. สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 0 2371 3135-6 โทรสาร. 0 2380 0304 หรือ www.erawan-museum.com