ข้าวแกงประจำถิ่น

ขนมโบราณ:ขนมเขาควาย

มัสยิดฮิดายาตุดดีนียะฮ์ บ้านเกาะใหญ่

วัดดุลยาราม

ชุมชนหลากวัฒนธรรม ....ทุ่งนุ้ย อ.ควนกาหลง จ.สตูล

"ทุ่งนุ้ย " เป็นหมู่บ้านเก่าแก่ของเมืองสตูล ได้มีการตั้งถิ่นฐานมาประมาณ 6 ชั่วอายุคน เดิมเรียกว่า " บ้านช่องด่าน " เพราะเป็นทางผ่านคนเดินเท้าจากสงขลามาสตูลหรือจากสตูลไปสงขลา ชาวบ้านดั้งเดิมมีประมาณ 15 ครัวเรือน ตั้งบ้านเรือนที่บ้านน้ำหรา เนื่องจากบ้านเป็นที่ผ่านสัญจรไปมามีโจรผู้ร้ายชุกชุมมาก ชาวบ้าน จึงย้ายมาตั้งถิ่นฐานใหม่ที่บ้าน " ช่องด่าน" มาเริ่มต้นบุกเบิกทำมาหากินในพื้นที่บริเวณนี้ ซึ่งยังเป็นป่าพื้นที่ราบที่ยังไม่สมบูรณ์ มีการเล่าสืบต่อกันมาว่าชาวบ้านที่ย้ายมาอยู่ในพื้นที่นี้ได้เข้าป่าล่าสัตว์หลงป่า ไปเจอทุ่งเล็ก ๆ กลางป่ามีสัตว์มากมายไปกินน้ำในทุ่งดังกล่าว ชาวบ้านจึงตั้งชื่อบริเวณนี้ว่า " ทุ่งนุ้ย " (นุ้ย หมายถึง เล็ก)

ชาวทุ่งนุ้ยส่วนใหญ่จะเป็นพี่น้องมุสลิม แล้วก็คนพุทธ ถึงแม้จะมีวัฒนธรรมและวิถีชีวิตที่แตกต่างและหลากหลายแต่ก็ไม่เคยมีเรื่องให้ขุ่นข้องหมองใจกันแต่อย่างไร ดังนั้นการมาเที่ยวควนการหลงก็จะสัมผัสได้ถึงความกลมกลืนของชุมชนมุสลิมและชุมชนพุทธ และธรรมชาติที่สวยงามไม่ว่าจะเป็นบ่อน้ำร้อน และน้ำตก

น้ำพุร้อนทุ่งนุ้ย ..ออนเซ็นกลางแจ้ง

มาทุ่งนุ้ยต้องไปออนเซ็นแบบไทยๆ ที่บ่อน้ำพุร้อนทุ่งนุ้ย มาตอนนี้คงได้แต่ชมนะเพราะกำลังซ่อมแซมปรับปรุงเพื่อให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับเออีซี ถึงจะเสียเที่ยวไม่ได้นอนแช่ให้หายเหนื่อยแต่ก็เกินคุ้มกับบรรยากาศ แยกชายหญิงชัดเจน พร้อมห้องน้ำในตัว และปรับปรุงทัศนียภาพใหม่ ให้เกิดความสะดวกสบาย มีทัศนียภาพสวยงาม และปลอดภัย โดยจะดำเนินการเป็น 2 เฟส เฟสแรกจะดำเนินการจัดทำบ่อแช่ใหม่ โดยแบ่งแยกชายหญิงให้ชัดเจน มีห้องน้ำในตัว และห้องน้ำรวม มีล็อกเกอร์เก็บสัมภาระ ส่วนบ่อแม่นั้นจะปรับปรุงให้สามารถเดินชมได้ และมีทางลาดสำหรับผู้พิการจากบ่อแม่ไปยังบ่อสำหรับแช่ ส่วนเฟส 2 นั้น อยู่ในขั้นตอนของการออกแบบ ซึ่งได้กำหนดให้มีบ่อ แช่เท้า ศาลาพักผ่อนหย่อนใจ มีรั้วกั้นในบริเวณของบ่อน้ำร้อน มีป้าย และซุ้มประตูสวยงาม มีระบบประปาทั้งโครงการ

คาดว่า เมื่อปรับปรุงบ่อน้ำร้อนจนได้มาตรฐานแล้ว จะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาใช้บริการเพิ่มมากขึ้น เพราะเดิมบ่อน้ำร้อนบ้านทุ่งนุ้ยแห่งนี้ก็เป็นที่รู้จักดีอยู่แล้ว และผู้ใช้บริการจะเพิ่มจำนวนมากขึ้นอีกเมื่อก้าวสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน

“ถ้าอยากนอนแช่น้ำพุร้อนให้หายปวดเมื่อยต้องมาใหม่อีกครั้ง ในเดือนตุลาคม เพราะจะมีกำหนดเปิดบริการอีกครั้งในเดือนนี้ แต่ไม่ต้องเสียใจเพราะเรายังมีน้ำตกปาหนันที่อยู่ห่างจากนี้ไปไม่กี่กิโล ซึ่งเป็นน้ำตกที่ยังคงความธรรมชาติแท้ ๆ ของป่า ภูเขาอย่างครบถ้วน มีทั้งหมดถึง10 ชั้น” กำนันแนะนำพร้อมชักชวนให้ไปเที่ยว แต่เวลามีจำกัด กำนันจึงอยากให้ไปรู้จักชุมชุมบ้านหัวกาหมิง ซึ่งกำนันบอกว่าชุมชนนี้มีทีเด็ด

หัวกาหมิง ชุมชนผลิตขันหมากอิสลาม

บ้านกาหมิงได้ก่อตั้งเป็นวิสาหกิจชุมชน ใช้ชื่อกลุ่มว่ากลุ่มแม่บ้านเกษตรกรบ้านหัวกาหมิง เป็นการรวมกลุ่มของชาวบ้านทุกเพศทุกวัย เพื่อร่วมกันสร้างสรรค์สินค้าภายใต้แบรนด์ชุมชนของพวกเขา

ผลิตภัณฑ์ของที่นี่ก็จะเป็นขนมนมเนย ส่วนใหญ่จะเป็นขนมโบราณอย่างขนมเขาควาย ขนมปะการัง ขนมโกยหยาและอีกหลากหลายชนิดที่คนต่างถิ่นไม่รู้จัก แต่ผลิตภัณฑ์ที่เป็นตัวเด่นของที่นี้ต้องยกให้ชุดขันหมากอิสลาม ที่ผลิตจากผ้าหลากชนิดด้วยฝีมือที่ประณีตมีทั้งชุดเล็กชุดใหญ่ อย่างชุดนกยูงต้องบอกว่าช่างวิจิตรบรรจงเหลือเกิน ส่วนสนนราคาระดับพันเท่านั้น

ไหว้หลวงพ่อแก่แล้วจะสมใจปรารถนา

ถ้าเป็นชาวพุทธต้องแนะให้ไปวัดดุลยาราม เพราะว่าที่วัดนี้มีหลวงพ่อแก่ ซึ่งเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองที่แม้แต่สมจิตร จงจอหอ นักกีฬามวยสากลสมัครเล่น เจ้าของเหรียญทองโอลิมปิกเกมส์ 2008 ก็ได้มาบนจนได้เหรียญทองมาครอง

วัดดุลยาราม เป็นวัดคู่บ้านคูเมือง ภายในพระอุโบสถจะประดับไปด้วยรูปพระบรมสานุวงศ์ได้เสด็จมาวัดนี้แถบทุกพระองค์ ยืนยันว่าวัดนี้มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง เมื่อใครมาวัดนี้ต้องไปบนบานศาลกล่าวกับพ่อแก่ ซึ่งเป็นพระพุทธรูปทรงเครื่องปางห้ามญาติเป็นพระพุทธรูปแกะสลักจากไม้ ฝีมือช่างล้านนา ขนาดสูง 75 เซนติเมตร เป็นพุทธศิลป์สมัยล้านนา คล้ายพระแก่นจันทร์ ซึ่งมีพระพักตร์เหมือนผู้หญิง แบบพระสมเด็จนางพญา ซึ่งศักดิ์สิทธิ์มาก แม้แต่นักชกเหรียญทองโอลิมปิกยังต้องมาบน

“การพัฒนาในทุกเรื่อง เราก็จะให้ชุมชนมีสวนร่วม เราจะมีการทำประชาคมก่อน ชุมชนเราจะมีทั้งชุมชนพุทธ และชุมชนมุสลิม แต่เราก็อยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข ไม่มีปัญหาขัดแย้งกันเลย” i

ร้านสตูลอรวิว นอกจากจะมีอาหารพื้นบ้านรสจี๊ดจ๊าดจัดจ้านถึงใจแบบชาวใต้แล้ว บรรยากาศนั้นก็เริ่ดใช้ได้ สามารถมานั่งจิบกาแฟ ให้รื่นรมย์ชมภูเขาได้อย่างชิลๆ