5 ธันวาคม
5 ธันวาคม วันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และวันพ่อแห่งชาติ
พระราชประวัติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศ รามาธิบดี จักรีนฤบดินทร์ สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร ทรงพระราชสมภพ เมื่อวันทึ่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2470 ณ โรงพยาบาลเมาน์ออเบิร์น นครบอสตัน สหรัฐอเมริกา เสด็จขึ้นเฉลิงถวัลยราชสมบัติ เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2489 สืบแทนสมเด็จพระบรมเชษฐาธิราช พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาาราชอานันทมหิดล ซึ่งเสด็จสวรรคตโดยกะทันหัน
เดืมทีพระองค์ทรงตั้งพระหฤทัยไว้ว่า จะครองพระราชสมบัติเพียงชั่วระยะเวลาจัดงานพระบรมศพพระบรมเชษฐา ให้สมพระเกียรติเท่านั้น เพราะขณะนั้นพระเจ้าอยู่หัวมีพระชนมพรรษา 18 พรรษาเศษ ไม่เคยเตรียมพระองค์เพื่อดำรง ตำแหน่งพระมหากษัตริย์มาก่อนเลย แต่ด้วยความจงรักภักดีของเหล่าอาณาประชาราษฏร์ที่มีต่อพระองค์อย่างแน่นแฟ้น ยังผลให้ตัดสินพระราชหฤทัยรับราชสมบัติ
เหตุการณ์หนึ่งที่เกิดขึ้นในวันเสด็จพระราชดำเนินกลับประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เพื่อทรงศึกษาวิชาการเพิ่มเติม เมื่อกลางเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2498ระหว่างประทับรถพระที่นั่งไปสู่สนามบินดอนเมือง พระองค์ทรงได้ยินเสียงราษฏร์คนหนึ่ง ตะโกนลั่นว่า
"ในหลวง อย่าทิ้งประชาชน "
พระองค์ทรงนึกตอบบุคคลผู้นั้นในพระราชหฤทัยว่า
"ถ้าประชาชนไม่ทิ้งข้าพเจ้าแล้ว ข้าพเจ้าจะทิ้งทุกคนได้อย่างไร"
หลังจากเหตุการณ์นั้นผ่นไปประมาณ 20 ปี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงพบชายผู้ตะโกนทูลพระองค์ ในครั้งนั้น เมื่อคราวเสด็จเยี่ยมราษฏร์ในต่างจังหวัด ชายผู้นั้นกราบบังคมทูลว่า ที่เขาร้องเช่นนั้น เพราะรู้สึกว้าเหว่ และใจหายที่พระเจ้าแผ่นดินจะเสด็จไปจากเมืองไทย เขาเห็นพระพักตร์เศร้ามาก จึงร้องไปเหมือนคนบ้า
พระเจ้าอยู่หัวทรงตอบว่า
"นั่นแหละ ทำให้เรานึกถึงหน้าที่ จึงต้องกลับมา"
หลังจากที่พระองค์ทรงตัดสินพระราชหฤทัยที่จะทรงดำรงอยู่ในฐานะประมุขของประเทศแล้ว พระเจ้าอยู่หัวก็ทรง ปฏิบัติพระราชภารกิจอุทิศพระชนม์มาชีพเพื่อความเจริญรุ่งเรืองของแระเทศชาติ และอาณาประชาราษฎร์ของพระองค์ อย่างไม่ทรงเห็นแก่ความอยากลำบาก
ในวันประกอบพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ซึ่งตรงกับวันที่ 5 พฤษาคม พ.ศ. 2493 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้มีพระบรมราชโองการตอบ พระราชอารักขาแด่ประชาชนชาวไทย ว่า
"เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม "
และพระองค์ได้พิสูจน์ให้เป็นที่ประจักษ์แก่หัวใจของชาวไทยทุกดวงแล้วว่า พระองคืได้ทรงอุทิศทั้งกาบกำลัง กำลังทรัพย์ และกำลังความคิด ในการประกอบพระราชกรณียกิจด้านต่างๆ เพื่อความผาสุขของพสกนิกรของพระองค์ ไม่ว่าจะเป็นด้านการส่งเสริมอาชีพ การเกษตร การอุตสาหกรรม การศึกษา การสาธารณสุข และการต่างประเทศ ฯลฯ
นอกจากนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ยังได้เสด็จออกไปเยี่ยมเยียนราษฎร์ในถิ่นทุรกันดาร เพื่อรับทราบความ เดือดร้อน และปัญหาอุปสรรคต่างๆ ด้วยพระองค์เอง และคราวที่เกิดสาธารณภัยต่างๆ ขึ้น ไม่ว่าจะเป็นไฟไหม้ นํ้าท่วม ลมพายุพัดบ้านเรือนราษฎร์ให้ได้รับความเสียหาย ฯลฯ พระองค์จะทรงห่วงใย และอาทรในความเดือดร้อนของพวกเขา เหล่านั้น ทรงรับสั่งให้มีการช่วยเหลือ และพระราชทานทรัพย์ส่วนพระองค์เพื่อเป็นการช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน
ด้วยพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ ทำให้พสกนิกรชาวไทยทุกหมู่เหล่า มอบความจงรักภักดีต่อพระองค์ ด้วยการทูลไว้เหนือเกล้า เมื่อถึงวันคล้ายวันพระราชสมภพของพระองค์ ทางราชการและภาคเอกชนได้ร่วมกันจัดงานเฉลิม ฉลอง และประกอบสาธารณกุศลต่างๆ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล อีกทั้งยังถือเอาวันที่ 5 ธันวาคม ของทุกปี เป็นวันพ่อแห่งชาติอีกด้วย
ในวันนี้ จะมีการประดับไฟตามสถานที่ราชการ และอาคารบ้านเรือนราษฎร์ทั่วไป ในกรุงเทพ ฯ ประชาชนจะพร้อมใจกันมาชุมนุมที่ท้องสนามหลวง ส่วนในต่างจังหวัด ก็จัดให้มีการชุมนุมในสถานที่ต่างๆ เพื่อร่วมจุดเทียนชัย และร้องเพลงสดุดีมหาราชากระหึ่มพร้อมกันทั่วประเทศ โดยมีการถ่ายทอดทางโทรทัศน์ทุกช่อง
5 ธันวาคม วันพ่อแห่งชาติ
พ่อคือผู้มีพระคุณและผู้ให้กำเนิด มีบทบาทสำคัญต่อสถาบันครอบครัวและสังคม และด้วยพระมหากรุณาธิคุณ ขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ซึ่งมีต่อพสกนิกรของพระองค์ เสมือนความห่วงใยที่พ่อมีต่อลูก ดังพระราชดำรัส " เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม " และการที่พระองค์ทรงให้การ อบรมสั่งสอน และเลี้ยงดูพระราชโอรสพระราชธิดา ทุกพระองค์ ให้เจริญรอยตามพระยุคลบาท จนเป็นที่รักของปวงชนชาวไทย เหล่าพสกนิกรจึงพร้อมใจกัน ถือเอาวันที่ 5 ธันวาคม อันเป็นวันพระราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเป็นวัน พ่อแห่งชาติ
ประวัติความเป็นมา
วันพ่อแห่งชาติ ได้มีการจัดขึ้นครั้งแรก เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2523 โดยคุณหญิงเนื้อทิพย์ เสมรสุต นายกสมาคมผู้อาสาสมัคร และช่วยการศึกษาเป็นผู้ริเริ่ม คณะกรรมการจัดงานวันพ่อแห่งชาติ ได้กำหนดให้ดอกพุทธรักษา ดอกไม้ที่มีนามเป็นมงคลนี้ เป็นสัญลักษณ์ของวันพ่อแห่งชาติ
<< กลับ