การบริการอาหาร หมายถึง การจัดโต๊ะอาหาร และอุปกรณ์รับประทานอาหารให้พร้อมสำหรับการรับประทานอาหาร การเสิร์ฟอาหารที่ปรุงสำเร็จและจัดตกแต่งแล้วให้แก่ผู้รับประทานอาหาร ทั้งการรับประทานอาหารร่วมกันในครอบครัวและการจัดเลี้ยงในรูปแบบต่างๆ
การบริการ หรือ SERVICE ที่ดี ต้องประกอบด้วยคุณลักษณะ 7 ประการ คือ
S = Smiling & Sympathy ยิ้มแย้มและเอาใจเขามาใส่ใจเรา เห็นอกเห็นใจต่อความสำบากยุ่งยากของลูกค้า
E = Early Response ตอบสนองต่อความประสงค์จากลูกค้าอย่างรวดเร็วทันใจ โดยที่ลูกค้ายังมิทันได้เอ่ยปากเรียกหา
R = Respectful แสดงออกถึงความนับถือ ให้เกียรติลูกค้า
V = Voluntariness manner ลักษณะการให้บริการ เป็นแบบสมัครใจและเต็มใจทำ
I = Image Enhancing แสดงออกซึ่งการรักษาภาพลักษณ์ของผู้ให้บริการ และเสริมภาพลักษณ์ขององค์กรด้วย
C = Courtesy กิริยาอาการอ่อนโยน สุภาพและมีมารยาทดี อ่อนน้อมถ่อมตน
E = Enthusiasm มีความกระฉับกระเฉง และกระตือรือร้นขณะบริการ จงให้บริการมากกว่าที่คาดหวังเสมอ
การบริการอาหารในครอบครัว
1. ผู้บริการอาหารต้องแต่งกายให้สะอาดเรียบร้อย ตัดเล็บมือให้สั้น ล้างมือให้สะอาด ขณะบริการอาหารต้องยิ้มแย้มแจ่มใส
2. จัดวางอุปกรณ์รับประทานอาหารบนโต๊ะอย่างเป็นระเบียบ โดยวางไว้หน้าผู้รับประทานอาหาร วางช้อนไว้ด้านขวาของจาน วางส้อมไว้ด้านซ้ายของจาน วางแก้วน้ำไว้ด้านขวามือเยื้องไปทางด้านบนของจาน
3. รินน้ำลงในแก้วของผู้รับประทานอาหารประมาณ3ส่วน4ของแก้วให้ครบทุกแก้ว
4.จัดวางอาหารบนโต๊ะ โดยคำนึงถึงความสะดวกในการตักอาหารของผู้รับประทานเป็นสำคัญ
5. การบริการอาหารประเภทต้มหรือแกงควรอุ่นให้ร้อนก่อนเสิร์ฟ และต้องมีจานรองเสมอ
6.ขณะบริการอาหารให้ยืนเบี่ยงตัวหรือค้อมตัวเล็กน้อย ต้องไม่ให้มือหรือนิ้วสัมผัสอาหาร ไม่ไอหรือจามขณะบริการอาหาร
7. ตักข้าวลงในจานครั้งแรกแต่พอดี ไม่มากหรือน้อยเกินไป เมื่อต้องการเพิ่มจึงตักเติมภายหลัง
8. หมั่นสังเกอาหารบนโต๊ะ ถ้าพร่องไปให้ยกถ้วยหรือจานอาหารไปเติม แล้วจึงยกมาวางบนโต๊ะอีกครั้ง
9. ถ้าช้อนหรือส้อมตกพื้น ให้ผู้บริการอาหารเก็บ แล้วนำมาเปลี่ยนให้ใหม่
การบริการอาหารในการจัดเลี้ยงรูปแบบต่าง ๆ
การบริการอาหารในการจัดเลี้ยงมีอยู่ด้วยกัน 2 ประเภทใหญ่ คือ การจัดเลี้ยงแบบไทย และการจัดเลี้ยงแบบสากล
1. การจัดเลี้ยงแบบไทย ได้แก่ การจัดเลี้ยงพระสงฆ์ การจัดเลี้ยงอาหารค่ำแบบขันโตก การจัดเลียงวันเกิด วันแต่งงาน และต้อนรับแขกบ้านแขกเมือง การจัดเลี้ยงในงานศพ เป็นต้น
การจัดเลี้ยงแบบไทยที่พบเห็นมีด้วยกัน 3 รูปแบบ
การจัดเลี้ยงอาหารแบบนั่งพื้นมีสำหรับเฉพาะตัว เป็นการจัดเลี้ยงที่ใช้กับพระสงฆ์เท่านั้น
การจัดเลี้ยงอาหารแบบนั่งรวมกันเป็นวง มักจะมีผู้รับประทานอาหารประมาณ 5-6 คน ก่อนวางอาหารต้องปูเสื่อหรือพรมที่พื้น แล้วปูผ้าพลาสติกตรงกลาง
การจัดเลี้ยงอาหารแบบขันโตก เป็นการจัดเลี้ยงอาหารค่ำเพื่อรับรองแขกผู้มีเกียร่คิหรือ ในงานฉลองสมโภช ซึ่งเป็นประเพณีของภาคเหนือ
2. การจัดเลี้ยงอาหารแบบสากล ได้แก่ งานเลี้ยงสังสรรค์ งานเลี้ยงฉลองสมรส และงานเลี้ยง ฉลองในโอกาสสำเร็จการศึกษา อาหารที่ใช้มีทั้งอาหารไทย อาหารจีน อาหารตะวันตก การจัดเลี้ยง แบบสากลแบ่งเป็น 2 ประเภท ได้แก่ การจัดเลี้ยงแบบช่วยตนเอง และการจัดเลี้ยงแบบมีผู้บริการ
การจัดเลี้ยงแบบช่วยตนเอง ได้แก่
1. การจัดเลี้ยงแบบบุฟเฟต์ เป็นการจัดเลี้ยงคนจำนวนมากโดยวางอาหารไว้บนโต๊ะกลาง และมีอุปกรณ์รับประทานอาหารวางไว้ผู้รับประทานแต่ละคนหยิบเอง ควรตักแต่พออิ่มไม่ควรตักอาหารล้น จานหรือตักอาหารเผื่อคนอื่น
2. การจัดเลี้ยงแบบค็อกเทล เป็นการจัดเลี้ยงอาหารว่างที่มีขนาดพอคำ ใช้มือหยิบจับ อาหารได้โดยไม่ต้องใช้ช้อนส้อม อาหารและเครื่องดื่มจะจัดวางไว้บนโต๊ะกลาง ให้แขกผู้มาร่วมงานเดินหยิบ รับประทาน
3. การจัดเลี้ยงแบบออกร้าน เป็นการจัดเลี้ยงอาหารหลากหลาย ซึ่งแต่ละซุ้มหรือแต่ละ โต๊ะจะมีอาหารไว้คอยบริการไม่ซ้ำกันแขกผู้ร่วมงานสามารถเลือกรับประทานได้ตามใจ
4. การจัดเลี้ยงแบบปิกนิก เป็นการจัดเลี้ยงเมื่อมีการไปทัศนศึกษายังสถานที่ต่าง ๆ โดยจัดเตรียมอาหารใส่ปิ่นโตหรือกล่อง ขณะรับประทานอาหารต้องปูเสื่อบนพื้นแล้วนั่งรับประทานร่วมกัน
การจัดเลี้ยงแบบมีผู้บริการ ส่วนใหญ่เป็นการจัดเลี้ยงในห้องอาหารหรือโรงแรม ซึ่งจะมีบริกรยกอาหารและเครื่องดื่ม มาเสิร์ฟให้ถึงโต๊ะ การเลี้ยงจัดแบบมีผู้บริการจะพบในการจัดเลี้ยงอาหารเช้า อาหารกลางวัน อาหารค่ำ แบบเป็นชุด เช่น การจัดเลี้ยงบนเครื่องบินและการจัดเลี้ยงแบบโต๊ะจีน