วิธีการเลือกซื้อคอมพิวเตอร์ & คอมประกอบ สําหรับผู้เริ่มต้น

 หากใครที่กำลังมองหาคอมพิวเตอร์เพื่อเล่นเกมสักเครื่องหรือมองหาคอมประกอบ หลายท่านคงสับสนว่าจะเลือกคอมพิวเตอร์หรือคอมประกอบยังไง ควรพิจารณาอะไรบ้าง บทความนี้ทางร้านอุบลคอมพิวเตอร์ มีวิธีการเลือกซื้อเพื่อช่วยให้ผู้ใช้งานตัดสินใจเลือกซื้อคอมพิวเตอร์และคอมประกอบเพื่อการเล่นการเกมและมั่นใจในประสิทธิภาพมากขึ้น โดยจะพิจารณาทั้งหมด 9 ข้อ ด้วยกัน ดังนี้

1. ซีพียู (CPU)

2. การ์ดจอ (GPU)

3. แรม (RAM)

4. เมนบอร์ด (Motherboard)

5. ที่เก็บข้อมูล (Storage)

6. แหล่งจ่ายไฟ (PSU)

7. การระบายความร้อน

8. เคส (Case)

9. หน้าจอแสดงผล (Monitor)

1. ซีพียู CPU

                เริ่มต้นด้วยการเลือกซื้อ CPU การพิจารณาเลือกซื้อซีพียูเป็นสิ่งสำคัญ สำหรับการเล่นเกมที่มีกราฟิกระดับสูง และการทำงานที่ราบรื่น อีกทั้งเพื่อรองรับการสตรีมเกม ควรเลือก CPU มากกว่า 4 core / 8 thread  เช่น Intel Core i5, i7 หรือ i9 สำหรับ AMD ก็แนะนำ AMD Ryzen 5, 7 หรือ Ryzen 9 หากผู้ใช้งานพอจะมีงบควรเลือกซีพียูแรงๆ ไว้ เพื่อรองรับการสตรีมเกมในอนาคต แต่สำหรับใครที่งบน้อย และเป็นผู้เล่นเกมส์ระดับเริ่มต้นก็สามารถเลือกเป็น Core i3 หรือ Ryzen 3 ได้เช่นกัน 

• 2. การ์ดจอ GPU

                ต่อมาคือการเลือกซื้อการ์ดจอ ควรเลือกการ์ดจอแรงๆ ที่มีประสิทธิภาพสูง ตัวอย่างเช่น Nvidia Geforce GTX หรือ RTX ขึ้นไป หากเป็น AMD Radeon ก็ควรเป็น RX 6000 Series ขึ้นไป หรืออาจจะเป็น การ์ดจอ  Intel ควรเป็น Intel Arc 3 ขึ้นไป เพราะว่าการ์ดจอเป็นสิ่งสำคัญมากในการเล่นเกมส์ เพื่อให้ได้อัตราเฟรมเรตที่สูง และกราฟิกในเกมที่ราบรื่น สวยงาม 

• 3. แรม RAM

               แรมมีทั้ง DDR4 และ DDR5 ราคาก็จะแตกต่างกันอย่างชัดเจน รวมทั้งเมนบอร์ดจะเป็นตัวกำหนดว่าจะใช้แรมแบบแบบใด ซึ่งทั่วไปแล้วพีซีสำหรับเล่นเกมส์ในปัจจุบันควรจะต้องมี RAM ขั้นต่ำอย่างน้อย 16GB ขึ้นไป เพื่อการเล่นเกมส์ที่ราบรื่น และเผื่อไว้สำหรับโปรแกรมอื่นๆ ที่ทำงานอยู่เบื้องหลัง ปัจจุบันแรมก็ราคาถูกลงมากแล้ว สามารถอัพเกรดได้ง่ายขึ้นมาก

• 4. เมนบอร์ด (Motherboard)

                การเลือกมาเธอร์บอร์ด ควรเลือกที่รองรับ CPU, GPU และ RAM และควรมี Slot M.2 PCIe เพื่อรองรับ SSD รุ่นใหม่ที่มีความเร็วสูง และหากมีงบเยอะควรเลือกมาเธอร์บอร์ดที่มี Slot ใส่ Ram 4 ช่อง เพื่อการอัพเกรดแรมเพิ่มเติมในอนาคต

• 5. ที่เก็บข้อมูล (Storage)

               ในปัจจุบันสามารถเลือกที่เก็บข้อมูลได้หลากหลายมีตั้งแต่ HDD ในแบบ Sata หรือจะเป็น SSD แบบ Sata แอดมินขอแนะนำเป็น SSD โดยจะมีทั้งแบบ SSD Sata 2.5″ อย่างไรก็ตามก็ขึ้นอยู่กับการใช้งานด้วยเช่นกัน หรือจะใช้ร่วมกันก็ได้ สำหรับผู้เริ่มต้นควรเลือกซื้อเป็น M.2 NVMe รุ่นใหม่ ที่เร็วและแรงกว่าเดิม เป็นที่นิยมสำหรับเกมเมอร์เพื่อลดเวลาในการโหลดตัวเกม ทำให้เข้าเกมส์ได้รวดเร็ว ราบรื่น การทำงานที่ไม่สะดุด ส่วน Storage แบบ Harddisk เป็นตัวช่วยในการจัดเก็บข้อมูลเพราะมีความจุที่มากราคาค่อนข้างประหยัด

• 6. แหล่งจ่ายไฟ PSU

               พาวเวอร์ซัพพลาย ควรเลือกพาวเวอร์ซัพพลายที่สามารถจ่ายไฟได้เพียงพอ สำหรับส่วนประกอบทั้งหมดในคอมพิวเตอร์ โดยเลือกจำนวนวัตน์สูงๆ โดยเพาเวอร์เริ่มต้นแนะนำที่ 550W-600W ขึ้นไป เผื่อไว้สำหรับการอัพเกรดอุปกรณ์เพิ่มเติมในอนาคต เพราะถ้าในอนาคตเราอัพเกรดอุปกรณ์ที่แรงมากขึ้น แล้วไฟจ่ายไม่พอ อาจจะต้องซื้อ PSU ใหม่และควรเลือกรุ่นที่ได้มาตรฐาน 80 PLUS เพื่อประสิทธิภาพและความปลอดภัยของคอมพิวเตอร์

• 7. การระบายความร้อน

                ตัวระบายความร้อนซีพียู, พัดลมเคส หรือระบบระบายความร้อนด้วยของเหลว Liquid Cooling เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการรักษาอุณหภูมิให้คงที่ป้องกันความร้อนไม่ให้สูงเกินไป เพื่อยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์ให้ยาวนาน

• 8. เคส Case

               มาต่อกันที่เคสผู้ใช้งานควรเลือกขนาดเคสที่สามารถรองรับกับส่วนประกอบทั้งหมด ไม่ควรเล็กจนเกินไป จะทำให้ดูแออัดและจัดสายได้ยาก นอกจากเลือกขนาดที่เหมาะสมควรคำนึงถึงการจัดการให้ภายในเคสมีการถ่ายเทของอากาศ ทิศทางลมที่ดี เพื่อให้อุปกรณ์ภายในไม่ร้อนจนเกินไป

• 9. หน้าจอแสดงผล Monitor

               และสุดท้ายการเลือกจอมอนิเตอร์สำหรับเล่นเกมส์ในปัจจุบันนั้น ควรมีขนาดหน้าจออย่างน้อย 23 นิ้ว ขึ้นไป ถ้าเป็นเกมเมอร์ส่วนใหญ่จะใช้ 27 นิ้ว ขึ้นไป เพื่อการมองภาพที่ชัดเต็มตา ความละเอียดของหน้าจอขั้นต่ำ 1080P (Full HD) ขึ้นไป เพื่อให้รายละเอียดที่คมชัดและเลือกจอที่มีค่ารีเฟรชเรท (Refresh Rate) ขั้นต่ำอย่างน้อย 75Hz และ 144Hz ขึ้นไป สำหรับเกมเมอร์ รวมถึงการรองรับเทคโนโลยี FreeSync เพื่อลดอาการฉีกขาดของภาพในขณะเล่นเกมส์