สีเป็นองค์ประกอบที่สำคัญในการทำงานศิลปะ เพราะนอกจากจะสามารถให้งานศิลปะมีความโดเด่นแล้วสียังสามารถสื่ออารมณ์ความรู้สึกต่างๆได้อีกด้วย เนื่องจากสีมีผลต่อประสาทสัมผัสการรับรู้ของคนเรา และเป็นสื่อนำไปสู่ความคิดจินตนาการ เช่น เมื่อมองท้องฟ้าเวลาเช้าซึ่งฟ้าเป็นสสีฟ้าอมแดง จะทำให้เกิดความรู้สึกสดชื่น หรือเมื่อมองท้องฟ้าเวลาหัวค่ำซึ่งฟ้าเป็นสีเทาเข้ม จะทำให้เกิดความรู้สึกหดหู่ ว้าเหว่ การใช้พื้นที่สีดำในภาพทำให้เกิดความรู้สึกโศกเศร้า โดดเดี่ยว หรือมืดมน เป็นต้น
การทำงานศิลปะต้องเรียนรู้เกี่ยวกับวงสีธรรมชาติ ซึ่งเป็นการจัดระบบสีในแสงสีรุ้งที่เรียงกันอยู่ในธรรมชาติ มาเรียงเป็นวงกลมจะได้สี 12 สี เรียกว่า "วงสีธรรมชาติ" ทั้งนี้เพื่อให้เกิดความสะดวกต่อการนำไปใช้ทำงานทัศนศิลปื เช่น การวาดภาพ การตกแต่ง การออกแบบเป็นต้น
วงสีธรรมชาติทั้ง 12 สี เราสามารถแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม ดังนี้
สีขั้นที่ 1
เป็นสีที่มีเนื้อสีแท้อยู่ในตัว มี 3 สี ได้แก่ สีแดง สีเหลือง และสีน้ำเงิน ซึ่งไม่สามารถนำสีอื่นๆ มาผสมเพื่อให้เกิดสีทั้ง 3 ขึ้นได้ เราเรียกสีขั้นที่ 1 นี้ว่า "แม่สี"
สีขั้นที่ 2
คือสีที่เกิดจากการนำสีขั้นที่ 1 อย่างละ 1 สี มาผสมกันเป็นคู่ๆ ในอัตราส่วนที่เท่ากันทำให้เกิดสีใหม่ 3 สี ได้แก่ สีเขียว สีส้ม และสีม่วง
สีขั้นที่ 3
คือ สีที่เกิดจากการผสมกันของแม่สีและสีขั้นที่ 2 อย่างละ 1 สี มาผสมกันเป็นคู่ๆ ทำให้เกิดสีใหม่ขึ้นมาอีก 6 สี ได้แก่ สีส้มเหลือง สีส้มแดง สีม่วงแดง สีม่วงน้ำเงิน สีเขียวน้ำเงิน และสีเขียวเหลือง
หมายเหตุ : เลข ๑ ใช้แทน สีขั้นที่ ๑
เลข ๒ ใช้แทนสีขั้นที่ ๒
เลข ๒ ใช้แทนสีขั้นที่ ๓
สีที่เพื่อนๆเห็นเหล่านี้สามารถทำให้เราเกิดความรู้สึกต่างๆได้ เช่นสีแดงเมื่อนำไประบายสีภาพจะทำให้มองดูแล้วเกิดความรู้สึกร้อนแรง ตื่นเต้น เป็นต้น
ดังนั้นเมื่อนำสีทั้ง ๑๒ สี มาจัดวางเป็นวงกลม สามารถเขียนเป็นวงสีได้ ดังนี้
สีคู่ตรงข้าม เป็นสีที่อยู่ตรงข้ามในวงจรสีธรรมชาติ มีดทนสีตัดกัน ให้ความรู้สึกที่ขัดแย้งกัน เช่น
เราสามารถนำความรู้เรื่องสีคู่ตรงข้ามมาใช้ในการสร้างสรรคืงานศิลปะได้หลายวิธี ดังนี้
การใช้สีแบบลดความเข้มของสีคู้ตรงข้ามลง เป็นการเน้นสีใดสีหน่ึเป็นหลัก และลดโทนสีคูุ่ตรงข้ามลง ไม่ให้มีความเข้มหรือสีสดมากเกินไปจนทำให้สีที่ต้องการเน้น ดูไม่โดดเด่น
ภาพวาดข้างบนได้ลดความเข้มหรือความสดใสของสีพื้นหลังลงไปเพื่อเพิ่มความโดเด่นของเค้กให้มีความสวยงามมากยิ่งขึ้น
2. การใช้สีแบบลดพื้นที่สีลง เป็นการลดพื้นที่สีคู่ตรงข้ามไม่ให้เท่ากัน โดยเน้นสีใดสีหนึ่งเป็นหลัก หรือไม่ให้มีสีอื่น ใช้แต่สีที่ต้องการ ส่วนมากเน้นการออกแบบลวดลายต่างๆให้ดูแปลกตา
3. การใช้สีแบบทำให้สีหม่นทั้งสองสี เป้นการทำให้สีคู่ตรงข้ามหม่นลงไปทั้ง 2 สี วิธีนี้เหมาะสมกับภาพที่ต้องการเน้นให้ดูกว้างใหญ่
4. การใช้สีแบบนำสีเข้มมาตัดเส้น เป็นการเน้นขอบรูปให้เข้มขึ้น ส่วนมากใช้กับภาพที่ต้องการเน้นให้เด่นชัด การใช้สีตัดเส้นจะทำให้ภาพมีความโดดเด่นขึ้น
ภาพวาดทั้งสองมีการใช้เส้นสีดำตัดเส้นทำให้ภาพมีความคมชัดและโดดเด่นขึ้นมา
5. การใช้สีแบบทำให้เป็นจุดหรือสวดลาย เป็นการสร้างสรรค์การใช้สีคู่ตรงข้ามวิธีหนึ่งแทนการระบายสีแบบปกติ ภาพที่ได้จึงดูแปลกตา
ภาพวาดทั้งสองเลือกใช้พื้นภาพเป็นลวดลายหรือจุดทำให้ภาพดูแปลกตาและสวยวงาม
การใช้สีคู่ตรงข้ามในงานศิลปะ จะช่วยทำให้ภาพที่ดูแปลกตา และยังช่วยสื่ออารมณ์ความรู้สึกต่างๆ ตามสีที่ใช้ในงานศิลปะชิ้นนั้น ซึ่งในปัจจุบันเราจะพบว่า มีการใช้หลักการสีคู่ตรงข้ามในชีวิตประจำวันด้านต่างๆ เช่น การออกแบบของเล่นของใช้ เป็นต้น