พิธีอภิเษก A.D. 1126


เดือนกุมภาพันธ์ ศักราช A.D. 1126



ล่วงเข้าสู่ช่วงสุดท้ายของฤดูหนาวในดินแดนแม่น้ำร้อยสาย

ในที่สุดหลังการเดินทางยาวนานนับสัปดาห์ กองเรือเดินสมุทรใต้ร่มธงสีน้ำเงินครามก็ล่องเข้าสู่อาณาเขตของทะเลสาบดาวเหนือ




18 กุมภาพันธ์


พิธีเฉลิมฉลองและเทศกาลรื่นเริงเริ่มขึ้นทั่วทุกสารทิศบนแผ่นดินไนล์ตั้งแต่หนึ่งสัปดาห์ก่อน


ตามขนบของชาวไนล์ การแต่งงานนั้นไม่ได้เป็นพิธีที่ชาวไนล์ให้ความสำคัญเท่ากับธรรมเนียมเกี่ยวกับการเกิดและการตาย

ทว่าคราวนี้เป็นพิธีมงคลแรกหลังจากที่ไนล์ต้องตกในความโศกเศร้าหลังจากเสียประมุขพระองค์ก่อนไปอย่างกระทันหัน กระทั่งการขึ้นครองบัลลังก์ของกษัตริย์พระองค์ปัจจุบันก็ไม่ได้มีการเฉลิมฉลองอะไรมากมาย

พิธีอภิเษกสมรสของกษัตริย์เซธในครั้งนี้จึงนับเป็นงานเฉลิมฉลองระดับชาติครั้งใหญ่ที่สุดที่เคยมีมาในไนล์ในรอบหลายปี



การมาถึงของ ‘ขบวนเจ้าสาว’ ในครั้งนี้ ประชาชนชาวไนล์จึงประดับดอกไม้และผ้าแพรพรรณหลากสี ทั้งบ้านเรือนร้านรวง เรือ รถ และเฝ้ารอด้วยความตื่นตาตื่นใจ



เมื่อล่วงถึงน่านน้ำของ ‘ทะเลเขียวคราม’ สิ่งที่รอต้อนรับอยู่คือกองเรือหลวงแห่งไนล์ที่ลอยลำแปรขบวนเป็นแถวยาวต้อนรับ

และที่โปรยปรายกลีบดอกไม้เหนือขึ้นไปเบื้องบน นั่นคือกองบินสฟิงซ์ในเครื่องแบบสีเกสรดอกหญ้าที่ทำหน้าที่คุ้มกันขบวนเรือ



กองเรือหลวงทั้งสองแปรขบวนรวมเป็นหนึ่ง ธงสีน้ำเงินครามและสีส้มอิฐโบกสะบัดละลานตาตัดกับสีฟ้าจัดของฟ้าโปร่งยามฤดูหนาว ก่อนจะเทียบท่าที่ราห์โคทิส เมืองท่าสำคัญที่เป็นประตูสู่ปากแม่น้ำธีบส์


ผู้ที่มาชมความงดงามตระการตาที่ชายฝั่งและตามเรือที่ลอยลำอยู่รอบนอกเขตท่าเรือ อาจได้ยินเสียงคำรามของสฟิงซ์จากบนฟ้า





19 กุมภาพันธ์


ขบวนเจ้าสาวจากสกอร์ปิโอพักที่เมืองท่าราห์โคทิสเป็นเวลาหนึ่งวัน เพื่อเปลี่ยนขบวนเรือจากเรือเดินสมุทรขนาดใหญ่ เป็นเรือโดยสารสำหรับล่องแม่น้ำ






20 - 21 กุมภาพันธ์


การเดินทางจากเมืองท่ามายังนครหลวงไนล์ เป็นการล่องลงใต้ย้อนขึ้นต้นน้ำมาตามแม่น้ำธีบส์ มหามนตราที่ชาวชนเผ่าแห่งดินแดนแม่น้ำร้อยสายได้ร่วมกันตราไว้ในผืนดินตั้งแต่นับร้อยพันปีก่อนทำให้ในฤดูหนาวเช่นนี้แม่น้ำสายต่างๆในไนล์ไม่จับตัวเป็นน้ำแข็งเช่นในที่อื่นๆ



จากจำนวนเรือในขบวน รวมถึงต้องการให้ประชาชนสองฝั่งน้ำได้ชื่นชมความงดงามของขบวนเรือที่ประดับประดาด้วยดอกไม้และธงธวัชของชาติพันธมิตรทั้งสอง เบ็ดเสร็จจึงใช้เวลาเดินทางสองวันก่อนขบวนเรือจะเทียบท่า

ทั่วทั้งนครหลวงเวลานี้ประดับประดาไปด้วยบุปผชาติแดนเหนือที่ได้รับการดูแลในเรือนเพาะชำจากภูมิภาคทั้งห้า ที่มารอรับคือขบวนเกียรติยศที่นำโดยกษัตริย์เซธ ราห์โฮเทป ที่สอง ก่อนทั้งหมดจะเคลื่อนขบวนเข้าสู่พระราชวัง






24 กุมภาพันธ์


พิธีอภิเษกสมรสอย่างเป็นทางการเริ่มขึ้นในเวลารุ่งสางของเช้าในอีกสามวันถัดมา



ท่ามกลางสมาชิกของทั้งสองราชสกุล และแขกเหรื่อผู้ทรงเกียรติทั้งหลายจากประเทศต่างๆทั่วเอเดน


บุรุษผู้ส่งตัวเจ้าสาวเข้าสู่พิธีย่อมเป็นพระบิดา กษัตริย์อเลซัส สกอร์ปิอัส แห่งสกอร์ปิโอ ผู้จับจูงบุตรีเข้าสู่โถงพิธี สู่มือของกษัตริย์หนุ่มผู้เป็นเจ้าบ่าวในงานวันนี้




ผู้เป็นเจ้าสาว มือหนึ่งถือช่อดอกไม้ที่ประกอบไปด้วยรวงข้าวสุก ใบเมเปิ้ล คอสมอส เดซี่ แอสเตอร์และคาร์เนชั่น สวมชุดที่ตัดจากผ้าทอมนตรา ชุดกระโปรงสีเหลืองอ่อนเหมือนดอกหญ้า แซมด้วยการขลิบริมด้วยโทนสีครามกับแดงอิฐเพียงเล็กน้อย และพับจีบทิ้งตัวอย่างชุดของสตรีชั้นสูงในสกอร์ปิโอ ประดับด้วยทับทรวงทองคำ คาดศีรษะด้วยรัดเกล้าทองคล้ายต้นข้าวและรวงข้าวที่ถักทอกันอย่างงามวิจิตรแซมประดับด้วยดอกไม้สด


ชายกระโปรงยาวทอประดับด้วยเส้นไหมสีทองเป็นลวดลายหญ้าแม่น้ำเช่นเดียวกับราชนิกุลแห่งไนล์ผู้อื่นที่ร่วมอยู่ในพิธี แทนคำประกาศอันไม่จำเป็นต้องเอื้อนเอ่ย ว่านับจากวันนี้ ลูอิซา สกอร์ปิอัส ได้ละจากความเป็นเจ้าหญิงแห่งสกอร์ปิโอสู่ราชสกุลราห์โฮเทป ในฐานะของราชินีแห่งดินแดนแม่น้ำร้อยสาย เคียงข้างผู้ครองบัลลังก์แห่งไนล์



เคียงข้างแท่นพิธี ยังคงมีแท่นปะรำขนาดเล็ก

นี่คือที่นั่งของแขกผู้ทรงเกียรติสูงสุดในราชพิธีครั้งนี้


แขกผู้ทรงเกียรติแสนงดงาม มาพร้อมเครื่องทรงทับทรวงทองคำประดับด้วยลูกปัดสี เทอร์ควอยซ์ คาร์เนเลียน และเพชรพลอย ที่ล้อมกรอบเพชรตาแมวขนาดใหญ่เอาไว้ตรงกลาง

ดวงตาสีอำพันจับจ้องมองเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นพร้อมหางยาวเป็นพวงที่ปัดป่ายไปมา ในขณะที่นอนเอกเขนกทอดตัวยาวเหยียดบนเบาะผ้าหนานุ่มอบอุ่น ทุกการขยับตัวทำให้กระพรวนเล็กๆบนเครื่องประดับพร้อมใจกันส่งเสียงกรุ๊งกริ๊งใสกังวาน


แมวดำตัวใหญ่หาวหวอด


นี่คือผู้แทนของ ‘บาสเตีย’ ข้ารับใช้องค์เทพีผู้ปกปักผืนดินผืนน้ำ

พิธีสำคัญเช่นนี้ผู้แทนพระองค์ขององค์เทพีย่อมมาร่วมงาน เพื่อเป็นเกียรติและเพื่อเป็นการอวยพรแก่ลูกหลานแห่งชนเผ่าดินแดนแม่น้ำร้อยสายต่อไป






เมื่อสิ้นสุดพิธีการ เหนือศีรษะของเจ้าสาวเปลี่ยนจากรัดเกล้า เป็นมงกุฏคู่เมือง

ปีกสฟิงซ์และขนนกยูงถักทอจากทองคำ




เซธ ราห์โฮเทป ที่สอง กษัตริย์แห่งไนล์ และ ลูอิซา ราห์โฮเทป ราชินีแห่งไนล์ เสด็จ




ราชาและราชินีแห่งไนล์จะโดยสารรถพระที่นั่งเพื่อเดินทางจากพระราชวังไปยังริมแม่น้ำเพื่อมอบช่อดอกไม้ในพิธีการให้แก่ ‘ไนล์’

แทนการทักทาย แทนการรำลึก แทนคำขอบคุณ


หลังสิ้นสุดพิธีการคือช่วงเวลาแห่งการเฉลิมฉลอง มีงานเลี้ยงรับรองแขกผู้มีเกียรติในพระราชวัง พลุเวทมนตร์ฉบับที่พัฒนาขึ้นมาเฉพาะถูกจุดขึ้นให้แสงสีตระการตา




เทศกาล งานฉลอง งานเต้นรำตามสถานที่ต่างๆในไนล์จะดำเนินไปอย่างเอิกเกริกจนถึงวันที่ 1 มีนาคม.