สฟิงซ์ :
สัตว์วิเศษประจำชาติ


อ้างอิงจาก Sphinx ,สฟิงซ์ แห่งกีซ่า


" สฟิงซ์ " ในที่นี้ เป็นการตีความและสร้างนิยามขึ้นมาใหม่ตามจินตนาการของผู้ดูแลประเทศไนล์ของคอมมูนิตี้ ToBss2
โดย
สร้างขึ้นให้มีความเหมาะสมกับเซ็ตติ้งของคอมมู ToBss2 เท่านั้น ไม่สามารถนำไปใช้อ้างอิงที่อื่นได้

และไม่สามารถนำไปอ้างอิงนอกเหนือจากการพูดถึงในเนื้อหาคอมคอมมูนิตี้ ToBss2 โดยไม่ได้รับอนุญาต





สฟิงซ์เป็นสัตว์วิเศษล้ำค่าของไนล์ ถิ่นอาศัยของพวกมันอยู่บนเทือกเขาสูงทางใต้ที่ติดต่อกับทริสทอร์ พวกมันมีลักษณะเด่นคือมีร่างกายใหญ่ กล้ามเนื้อหนา แต่เคลื่อนไหวปราดเปรียว อุ้งเท้าใหญ่มีกรงเล็บ หางยาวมีพวงขนตรงปลาย รูปลักษณะของร่างกายเหมือนสิงโต มีปีกคู่ใหญ่บนหลัง

สฟิงซ์ของไนล์มีสามสายพันธุ์ ได้แก่


  • อันโดร (Andro) เป็นสฟิงซ์ที่มีใบหน้าคล้ายสิงโต มีขนาดใหญ่ที่สุด ถิ่นอาศัยอยู่ในป่าตามเขตเชิงเขา


  • ครีโอ (Crio) เป็นสฟิงซ์ที่มีใบหน้าคล้ายแกะ ขนาดกลางๆ มีถิ่นฐานตามภูเขาและหน้าผาชัน


  • เฮียราโก้ (Hieraco) เป็นสฟิงซ์ที่มีใบหน้าคล้ายเหยี่ยว มีขนาดเล็กที่สุด อาศัยตามยอดเขา มักถูกเข้าใจผิดว่าเป็นกริฟฟอนซึ่งเป็นสัตว์วิเศษในตำนานปรัมปราของชนเผ่าแม่น้ำร้อยสาย
    ซึ่งความแตกต่างของสฟิงซ์พันธุ์เฮียราโก้กับกริฟฟอนคือขาหน้าทั้งสองและหาง กริฟฟอนจะมีขาหน้าทั้งสองเหมือนเหยี่ยว มีหางเหมือนงู แต่สฟิงซ์พันธุ์เฮียราโก้จะมีขาทั้งสี่และหางเป็นลักษณะคล้ายสิงโตเหมือนเช่นสฟิงซ์พันธุ์อื่นๆ



จำนวนของสฟิงซ์ที่สามารถพบตัวได้ในธรรมชาติมีน้อย แต่ไม่ใช่เพราะพวกมันมีน้อย ตรงกันข้ามเลยทีเดียว สฟิงซ์นั้นเป็นสัตว์วิเศษที่ชาญฉลาด หลายๆคนได้เลี้ยงพวกมันไว้ตามบ้านเรือน ให้ที่พัก อาหาร เสื้อผ้า ของเล่น พวกมันได้กินอยู่อย่างราชา มีคนปรนนิบัติเอาใจ


เพาะเหตุว่าสฟิงซ์นั้นชาญฉลาด มันจึงแฝงตัวอยู่ในมวลหมู่แมวมาตั้งแต่อดีตกาลแล้ว

ประวัติศาสตร์ของสฟิงซ์กับวิถีชีวิตของชาวไนล์นั้นต้องเท้าความไปถึงแมวป่าแห่งไนล์ที่มีวิถีชีวิตเกี่ยวพันกับชาวไนล์ตั้งแต่อดีตกาล พวกมันได้รับความรักความเอาใจใส่ ได้รับการเลี้ยงดูเป็นอย่างดี การได้รับความรักเช่นนี้ทำให้เป็นโอกาสสำหรับสฟิงซ์ที่ในคราหนึ่งพวกมันเกือบสูญพันธุ์เพราะความอดอยากได้มีชีวิตใหม่อีกครั้ง

ความที่ลูกสฟิงซ์นั้นยามแรกเกิดก็หาได้ผิดแผกจากลูกแมวธรรมดา มันตัวเล็ก นุ่มนิ่ม หอมกลิ่นนม มีสารพัดสีและลวดลาย อุ้งเท้าสีชมพู น้ำตาล ไปจนถึงดำตามสีขนนุ่มนิ่มน่าถนอม รวมถึงไม่มีปีก พ่อแม่ของพวกมันจะส่งลูกๆของตัวสู่ครอบครัวแมวที่เพิ่งคลอดลูกใหม่ในยามค่ำคืน ลูกสฟิงซ์เหล่านี้จะเติบโตอยู่กับฝูงแมวหรือในบ้านของมนุษย์จนอายุครบ 2 ขวบปี อันเป็นเวลาที่แมวเข้าสู่ช่วงโตเต็มวัย ถึงตอนนั้นสัญชาตญาณของสฟิงซ์ในตัวพวกมันจะเรียกร้องให้พวกมันเดินทางกลับเข้าสู่ป่า ไปหาพ่อแม่ที่แท้จริง พวกมันจะผลัดขนเป็นสีทอง กลายร่างเป็นสฟิงซ์โตเต็มวัย อันโดรจะมีใบหน้าคล้ายกับมนุษย์ผสมกับสิงโต แผงคอยาวคล้ายกับเส้นผม ในพันธ์ุที่ตัวเล็กกว่า ใบหน้าจะมีลักษณะคล้ายมนุษย์ผสมกับแกะ(ครีโอ)และมนุษย์ผสมกับนกเหยี่ยว(เฮียราโก้) ปีกเองก็จะปรากฏขึ้นในช่วงอายุนี้





หลังจากการเดินทางกลับถิ่นฐาน สฟิงซ์บางตัวยังคงเปลี่ยนกลับมาอยู่ในรูปลักษณ์เดิม และกลับสู่ครอบครัวมนุษย์ที่ซึ่งมันได้รับการต้อนรับ เป็นที่อยู่อาศัยแสนสุข สฟิงซ์ในกลุ่มนี้จะเดินทางกลับสู่ป่าในฤดูผสมพันธ์

แต่ไม่ใช่ว่าจะไม่สามารถแยกลูกสฟิงซ์ออกจากแมวธรรมดาได้เสียเลย มีสิ่งประดิษฐ์หนึ่งที่สืบทอดกันมาตั้งแต่ในยุคชนเผ่าแม่น้ำร้อยสาย มันถูกเรียกว่า แอพส์ เป็นสร้อยที่มีลักษณะคล้ายงู ถูกทำขึ้นพร้อมกับการร่ายมนตราโบราณ ทำให้แผ่นโลหะสีทองบนสร้อยเมื่อเขย่าแล้วจะมีเสียงกรุ๋งกริ๋งคล้ายกระดิ่ง ฟังดูไพเราะสำหรับมนุษย์ แต่สำหรับสฟิงซ์แล้วเสียงของแอพส์ทำให้พวกมันตื่นตัว หากเขย่าแอพส์เหนือฝูงแมวที่กำลังหลับ ลูกแมวตัวที่กระดิกหูและลุกขึ้นมาอย่างซุกซนแทบจะทันทีนั้นล้วนเป็นสฟิงซ์ทั้งสิ้น



จากความเฉลียวฉลาดของพวกมัน ทำให้สฟิงซ์นั้นสามารถฝึกฝนให้ทำงานร่วมกันกับมนุษย์ได้ พวกมันมีสัญชาตญาณหวงถิ่น หวงคู่ครอง หวงฝูง โดยมากสฟิงซ์ที่ผูกพันธุ์กับมนุษย์ตั้งแต่เล็กมักมองว่ามนุษย์คือส่วนหนึ่งในฝูง ดังนั้นความสัมพันธ์ระหว่างสฟิงซ์กับมนุษย์คนใดคนหนึ่ง จะไม่ใช่ความสัมพันธุ์ระหว่างสัตว์ใต้บัญชากับเจ้าของ แต่เป็นเพื่อนคู่หู มีความเท่าเทียมซึ่งกันและกัน


การจะฝึกสฟิงซ์ให้ได้ประสิทธิภาพที่สุด คือการเริ่มฝึกตั้งแต่พวกมันยังไม่เปลี่ยนร่างเป็นสฟิงซ์ตัวเต็มวัย ควบคู่กับการใช้แอพส์ และการร่ายมนตรากำกับ แอพส์จึงถือเป็นอุปกรณ์สำหรับช่วยสื่อสารและฝึกฝนสฟิงซ์ที่สำคัญยิ่ง สฟิงซ์ที่ได้รับการฝึกเมื่อกลายร่างเป็นตัวเต็มวัยแล้วจะกลับมาหาคู่หูของมันเสมอ หากมนุษย์ดูหมิ่นสฟิงซ์คู่หูในเชิงไม่ให้เกียรติหรือมองว่าด้อยกว่า ไม่นานพันธะระหว่างทั้งสองจะหมดสิ้นต่อกัน สฟิงซ์จำเป็นจะต้องจับคู่กับมนุษย์คนใหม่และใช้เวลานานกว่าจะฝึกให้เชื่อใจกันได้ใหม่ ในขณะที่มนุษย์ที่ทำให้สฟิงซ์หมดความเชื่อใจ น่าแปลกว่าจะไม่มีสฟิงซ์ตนใดเลือกเขาเป็นคู่หูอีกเลย

สฟิงซ์จ่าฝูงที่มีอายุมากหลายตัวนั้นสามารถสื่อสารกับมนุษย์ได้ สฟิงซ์หลายตัวในกลุ่มนี้ประจำอยู่ในกองทัพของไนล์ในฐานะผู้ดูแลฝูงบิน





ปัจจุบันมีการเลี้ยงสฟิงซ์ทั่วไปในไนล์ (ไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ) แต่คนที่สามารถครอบครองแอพส์ที่ใช้ในการฝึกสอนสฟิงซ์ได้มีเพียงกองทัพและคนในราชวงศ์ชั้นสูงเท่านั้น การใช้แอพส์ฝึกสอนสฟิงซ์โดยไม่ได้รับอนุญาตจะได้รับโทษหนัก


ส่วนสฟิงซ์ที่เคยถูกมนุษย์สวมกำไลระบุตัวตนให้ขณะอยู่ในร่างแมว ดังที่ได้กล่าวไปแล้วในบทของแมวว่ากำไลสามารถขยายขนาดได้ตามขนาดตัวของแมวที่เปลี่ยนไป ดังนั้นเมื่อกลับมาอยู่ในร่างสฟิงซ์ กำไลเวทนั้นก็จะขยายขนาดให้เข้ากับร่างใหม่ได้อย่างพอดีเช่นกัน