วัดบรมราชากาญจนาภิเษกอนุสรณ์
วัดเล่งเนยยี่ 2 หรือ วัดบรมราชากาญจนาภิเษกอนุสรณ์ ตั้งอยู่ที่อำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี และเป็นวัดจีนสาขา 2 ที่ใหญ่กว่า วัดเล่งเน่ยยี่ 1 วัดดังที่ย่านเยาวราช กรุงเทพฯ ซึ่งงดงามตระการตา จนหลายคนเปรียบเปรยว่าเหมือนได้เดินอยู่ในพระราชวังจีน
วัดเล่งเน่ยยี่ 2 เป็นวัดจีนที่อยู่ในความอุปถัมภ์ของคณะสงฆ์จีนนิกายแห่งประเทศไทย มีพื้นที่ราวๆ 12 ไร่เศษ จัดสร้างขึ้นเพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสที่ทรงครองสิริราชสมบัติครบ 50 ปี (ในปี พ.ศ.2539) เดิมสถานที่ตรงนี้ เป็นเพียงแค่โรงเจขนาดเล็กซึ่งมีพื้นที่แค่ 2 ไร่ อันเป็นสถานที่ซึ่งชาวบางบัวทองให้ความเคารพนับถือมาก แต่ด้วยแนวคิดของ วัดเล่งเน่ยยี่ หรือวัดมังกรกมลาวาส จากมติของคณะสงฆ์นิกายจีนแห่งประเทศไทยที่ดำริจะสร้างวัดจีนขึ้น จึงได้มอบหมายหน้าที่นี้ให้กับ “เจ้าคุณเย็นเซี้ยว” (พระคณาจารย์จีนธรรมปัญญาจริยาภรณ์) ได้ทำหน้าที่เป็นประธานที่ปรึกษาการจัดสร้างฝ่ายสงฆ์
วัดแห่งนี้ใช้เวลาในการก่อสร้างนานถึง 12 ปี ตั้งแต่พ.ศ. 2539-2551 ก่อนที่ความยิ่งใหญ่อลังการและศิลปะความงดงามทางจิตวิญาณแห่งนี้จะปรากฏแก่สายตาชาวโลกดังที่เราได้เห็นกันอยู่ในปัจจุบัน บริเวณโดยรอบของวัดมีการจัดเคลียพื้นที่จอดรถอย่างกว้างขวางทั้งสองด้าน แต่ถึงกระนั้นเราก็คิดว่าคงยังไม่พอ เพราะเหลือบไปเห็นป้ายบอกทางไปที่จอดรถของวัดจุดที่ 3 ซึ่งอยู่ค่อนข้างไกลออกไป นั่นยืนยันถึงจำนวนผู้คนจำนวนมากที่เดินทางมาถึงวัดแห่งนี้ในโอกาสสำคัญได้เป็นอย่างดี วัดเล่งเน่ยยี่ 2 หันหน้าไปทางทิศใต้ ตั้งอยู่ในทิศขวางตะวัน ดังนั้นเราจึงสามารถถ่ายภาพได้ทั้งพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตกโดยมีมหาวิหารเป็นฉากหน้า หลังซุ้มประตูนั้นเรียงรายด้วยหุ่นศิลา “จับโป่ยหล่อหั่ง” หรือ 18 อรหันต์ รูปสลักลอยตัวแบบที่แกะจากหินทั้งก้อนอันแสดงถึงฝีมือในการสลักหินอย่างชัดเจน วิหารขนาดย่อมลงมาที่ตั้งอยู่ทั้งสองด้านก็คือ “หอกลอง” และ “หอระฆัง” ขนาดใหญ่ยักษ์ ซึ่งมีการใช้งานจริงในฐานะที่เป็นเครื่องมือส่งสัญญาณในวาระต่างๆ ของวัดแต่ละช่วงเวลาในหนึ่งวัน ถัดจากนั้นเพียงบันไดหินอีกไม่กี่ขั้น ก็คือมหาวิหารใหญ่ซึ่งเป็นพระอุโบสถของวัดภายในมีพระประธานสีทองขนาดใหญ่อยู่สามองค์คือ พระศรีศากยมุนีพุทธเจ้า (พระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน) พระอมิตาภพุทธเจ้า และ พระไภษชยคุรุไวฑูรยพุทธเจ้า ซึ่งมีความสูงจากวัชรบัลลังก์ถึงยอดพระเกศา 4.02 เมตร กว้างถึง 3.08 เมตร และด้านบนเพดานของมหาวิหารนี้ก็ยังตกแต่งลวดลายและสีสันอย่างงดงามอร่ามตาตามแบบฉบับของอารยะธรรมจีน อาคารขนาดใหญ่อีกแห่งที่อยู่ด้านหลังก็มีความสำคัญไม่แพ้กันนั่นคือ “วิหารพระอวโลกิเตศวรมหาโพธิสัตว์” เป็นที่ประดิษฐานของพระโพธิสัตว์กวนอิม ปางพันตาพันมือ ซึ่งแกะสลักจากไม้เนื้อหอมส่งตรงจากประเทศจีน มีความงดงามและน่าศรัทธาเป็นอย่างมาก