ชื่อเรื่อง แหล่งท่องเที่ยว สวนอินทผลัมลุงเบี้ยว วังน้ำเขียว
ชื่อเรื่อง แหล่งท่องเที่ยว สวนอินทผลัมลุงเบี้ยว วังน้ำเขียว
สวนอินทผลัมลุงเบี้ยว วังน้ำเขียว เป็นสวนผสมผสานที่ปลูกพืช ผัก ร่วมกับต้นอินทผลัม ตั้งอยู่ในหมู่ 12 ตำบลวังน้ำเขียว อำเภอกำแพงแสน จังหวัดนครปฐม มีพื้นที่ จำนวน 12 ไร่ ปลูกแบบไร้สารเคมี เริ่มแรกปลูกดอกมะลิ ต่อมาหันมาปลูกต้นอินทผลัมร่วมด้วย เมื่อ พ.ศ. 2560 ปลูกอินทผลัมสายพันธุ์บาฮี จนถึงปัจจุบันได้มีอินทผลัมสายพันธุ์คาลาส สายพันธุ์เมดจูน ทั้งหมดจำนวน 3 สาพันธ์ อินทผลัมมีทั้งหมด 300 ต้น สวนอินทผลัมยังมีไม้ดอกนานาชนิดให้ชื่นชมมากมาย สวนอินทผลัมลุงเบี้ยววังน้ำเขียว ยังเปิดให้เข้าชมสวน ถ่ายรูปสวยๆ ชิมฟรี พร้อมให้ความรู้ อีกสิ่งหนึ่งที่มีความน่าสนใจอย่างมาก คือลุงเบี้ยว สอนผสมเกศรอินทผลัมยังไงให้ติดลูก ปรับเปลี่ยนไม้ดอกไม้ประดับให้มีมุมถ่ายรูปสวยๆตลอดเวลา
กว่าจะปลูกอินทผลัมให้ออกผลได้ เขาใช้ความพยายามและความเพียรในการหาความรู้ ลองผิดลองถูกอยู่นานปัญหาการปลูกช่วงปีแรก พบแมลงคาม และด้วงมะพร้าวทีเป็นศัตรู เข้ามาฝังตัวแล้วกัดกินทำลายยอด ระยะแรกจึงต้องหมั่นดูแลรักษา เดินสำรวจแปลงทั้งเช้าเย็น เมื่อพบเห็นจึงทำลาย และใช้สารเคมีเฉพาะจุดที่พบเห็น จะไม่ฉีดยาฆ่าแมลงทั้งแปลง เพื่อป้องกันแมลงรบกวน การใส่ปุ๋ย ให้น้ำไม่ต่างจากการปลูกพืชทั่วไป นอกจากเรื่องการปลูก การดูแลรักษาแล้ว ในช่วงแรกพืชอย่างอินทผลัม ถือเป็นพืชชนิดใหม่ ที่เกษตรกรไม่รู้จัก การทำความเข้าใจด้านการลงทุนกับสมาชิกในครอบครัวจึงเป็นปัญหาหลัก เพราะกังวลว่าเมื่อปลูกแล้วจะไม่ได้รับผลผลิตตามที่ตั้งใจไว้ และจะทำให้เกิดความท้อแท้กับการทำเกษตร การให้น้ำเป็นเรื่องสำคัญสำหรับการปลูก จากเดิมใช้วิธีการรดน้ำ 7-10 วันต่อครั้ง แต่จากสภาพภูมิอาการที่แห้งแล้ง มีความเปลี่ยนแปลงผันผวน จึงส่งผลต่อการออกดอก สมภพจึงวางระบบน้ำใหม่ โดยหันมาใช้ระบบน้ำหยด เพื่อให้อินทผลัมได้น้ำสม่ำเสมอ ศัตรูสำคัญของอินทผลัม คือ ด้วงเจาะยอด ต้องใช้การสังเกต เฝ้าดูอาการ หากพบร่องรอยการเข้ากัดยอดจะต้องใช้สารเคมีฉีดพ่นและอุดรูของด้วงด้วยดินน้ำมัน
“เมื่ออินทผลัมให้ผลผลิตก็ยังพบปัญหาว่า มีทั้งนกเอี้ยง ตัวต่อและแมลงวันทองมาเจาะกินผล เกษตรกรต้องอดทน หากต้องการสร้างความแตกต่าง อยากทดลองปลูกพืชชนิดอื่นๆ นอกจากความสนใจ ศึกษาเรียนรู้แล้ว ยังต้องมีใจรักด้วย กว่าจะได้เก็บเกี่ยวผลผลิตต้องลองผิด ลองถูกในพื้นที่ถือว่าที่สวนรวมใจเป็นรายแรกในทุ่งกุลาร้องไห้ที่ปลูกแล้วได้เก็บผลผลิตขาย เราจึงมีแปลงตัวอย่างให้ไปศึกษาเรียนรู้ ทุกอย่างต้องเก็บเกี่ยวประสบการณ์เอง”เมื่อเข้าสู่ปีที่ 2 อินทผลัมที่สวนเริ่มออกดอก แต่ในปีแรกพบว่าอินทผลัมออกดอกตัวผู้ ในปีที่ 3 จึงเริ่มออกดอกตัวเมียให้ผลผลิต จากการศึกษาประโยชน์ พบว่า ทุกส่วนของอินทผลัมมีสรรพคุณทางยา แม้จะออกดอกตัวผู้ นำมาแปรรูปเป็นชาดอกอินทผลัม สร้างรายได้ให้อีกทาง “ดอกตัวผู้ไม่ทิ้งให้ร่วง เก็บไว้แปรรูปเป็นชาดอกอินทผลัม ตอนนี้มีลูกค้าสนใจติดต่อขอซื้อในราคากิโลกรัมละ 2,000 บาท ส่วนผลสดที่ไม่ได้ขนาดนำมาปั่น แปรรูปเป็นน้ำอินทผลัมสด ขายราคาขวดละ 35 บาท 3 ขวด 100 บาท ได้รับความนิยมจากกลุ่มผู้บริโภค เพราะมีรสชาติ กลิ่น และความหวานที่เฉพาะตัว นอกจากนี้ยังเพาะพันธุ์จากเมล็ดขายในราคาต้นละ 800 บาทด้วย”
น.ส.จิรวรรณ แสงจันทร์