ฝรั่งกิมจู สร้างรายได้อาชีพเสริมอีกหนึ่งผลไม้มีวิตามินซีสูง
ฝรั่งกิมจู สร้างรายได้อาชีพเสริมอีกหนึ่งผลไม้มีวิตามินซีสูง
สวนฝรั่งกิมจู ตั้งอยู่หมู่บ้านวังน้ำเขียว อำเภอกำแพงแสน จังหวัดนครปฐม มีพื้นที่จำนวน 4 ไร่ ชายหนุ่มลูกจ้างประจำของมหาวิทยาลัยเกษตร ใช้เวลาว่างช่วงเช้าก่อนไปทำงาน และใช้เวลาหลังเลิกงาน สวมบทเป็นเกษตรกรปลูกฝรั่งกิมจูสร้างรายได้ ด้วยความมุ่งมั่นอยากหารายได้เสริมในระหว่างทำงานประจำที่เหมาะกับตนเองไปเรื่อยๆ ซึ่งก็มีหลายอย่างที่น่าสนใจ จนกระทั่งมานึกคิดได้ว่าที่บริเวณหลังบ้านของตน มีสวนมะม่วงที่แม่ปลูกทิ้งไว้อยู่ประมาณ 4 ไร่ แล้วผลผลิตไม่เป็นที่น่าพอใจเท่าไร จึงคิดที่จะเปลี่ยนแปลงที่ดินตรงนี้เพื่อสร้างประโยชน์ให้มากกว่าเดิม ด้วยการปรับเปลี่ยนพืชที่ปลูก หันมาปลูกฝรั่งแทน
เนื่องจากมองว่าในช่วงนั้นกระแสของคนรักสุขภาพกำลังมาแรง ซึ่งฝรั่งก็ถือว่าเป็นผลไม้ที่เหมาะมากสำหรับคนที่รักสุขภาพ เพราะเป็นพืชที่มีวิตามินสูง ซื้อง่าย ขายคล่อง ตลาดมีความต้องการตลอดทั้งปี จึงเป็นที่มาของการปลูกฝรั่งและยังเป็นจุดเริ่มต้นของการสวมบทบาทเป็นเกษตรกรวันว่าง เจ้าของบอกว่า เริ่มต้นลงมือปลูกฝรั่งครั้งแรก จำนวน 350 ต้น ซึ่งในช่วงการเริ่มต้นปลูกผลผลิตในรอบแรกผลที่ออกมาก็ยังไม่ดีเท่าที่ควร เนื่องจากยังขาดประสบการณ์ในการทำเกษตร หรือเรียกง่ายๆ ว่ามีความรู้เท่ากับศูนย์ก็ว่าได้ และที่แย่ไปกว่านั้นคือ ปลูกออกมาแล้วไม่รู้จะเอาผลผลิตไปขายที่ไหน เพราะยังเป็นมือใหม่ ไม่ได้ศึกษาการตลาดมาก่อน ก็ต้องเอาไปทิ้งให้ปลากินทั้งหมด แต่อุปสรรคตรงนี้ก็ไม่ได้ทำให้ตนลดความพยายามลง แต่กลับยิ่งเป็นแรงขับเคลื่อนให้ยิ่งต้องสู้ จนทุกวันนี้สามารถผลิตฝรั่งที่มีคุณภาพออกมาได้เป็นที่ถูกใจของผู้บริโภคทั่วไป
ด้วยจุดเด่นที่รสชาติมีความหวาน กรอบ เนื้อฟู ส่งผลไปถึงเรื่องของการตลาดที่โตไวอย่างก้าวกระโดด จากที่เคยขายไม่ได้ กลายเป็นว่าผลผลิตออกมาแทบไม่พอขายจนทำให้ทุกวันนี้ผมสามารถขยายพื้นที่ปลูกจากเดิม 350 ต้น เพิ่มมาเป็น 500 ต้น และสามารถผลิตฝรั่งได้มาก 2-2.5 ตัน ต่อไร่ ถือว่าเป็นผลผลิตที่ผมภูมิใจมากๆ สำหรับการทุ่มเทเวลาล้มลุกคลุกคลานมาเกือบ 2 ปี”ระยะปลูกระหว่างต้น… 2.5 เมตร ระหว่างแถว 3 เมตร เป็นระยะที่พอเหมาะ พยายามอย่าให้กิ่งชนกัน จะได้บริหารจัดการง่าย ระบบน้ำ… ที่สวนจะใช้ระบบน้ำหยด ข้อดีคือ ใช้เงินลงทุนน้อย และประหยัดน้ำ และฝรั่งเป็นพืชที่ไม่ต้องการน้ำมากในช่วงเริ่มต้น อย่างที่สวนจะให้น้ำแบบวันเว้นวัน เปิดรดวันละครึ่งชั่วโมง ถึง 1 ชั่วโมง แต่เมื่อเข้าสู่หน้าฝนอาจจะเว้นการให้ ลงมาเหลือสัปดาห์ละครั้ง ให้ดูสภาพอากาศประกอบกันไปด้วย และค่อยเริ่มเร่งน้ำอีกครั้ง
หลังจากที่เริ่มห่อผล เปลี่ยนเป็นให้ทุกวัน วันละ 1 ชั่วโมง ช่วงไว้ผลให้เร่งน้ำ ไม่ให้ขาด เพราะถ้าฝรั่งขาดน้ำจะทำให้เสียรสชาติ และผลจะเหี่ยวไม่ฟู ปุ๋ย…ใส่เดือนละครั้ง โดยวิธีการใส่จะใส่ทั้งปุ๋ยอินทรีย์และเคมีลงไปพร้อมกัน ใส่ในปริมาณ ขี้วัว 1 ถังสีเล็ก และปุ๋ยเคมี ปริมาณ 1 ช้อน แล้วพอครบ 1 เดือน ให้ใส่ปุ๋ย สูตร 15-15-15 หรือ 16-16-16 ใช้สูตรนี้ไปเรื่อยๆวิธีการห่อผล… หลังจากปลูกได้ 7 เดือน ฝรั่งจะเริ่มไว้ลูกได้ โดยจะเริ่มห่อผลฝรั่งเมื่อมีขนาดเท่าเหรียญ 5-10 หรือหลังดอกบานแล้ว 1 เดือน ถ้าช้ากว่านี้จะไม่ทันแมลงวันทอง โดยผลผลิตรุ่นแรกที่สวนจะไว้ผลผลิตต้นละไม่เกิน 20 ลูก การห่อผลในช่วงที่เริ่มต้นปลูกยังไม่มีประสบการณ์จะใช้วิธีการห่อ 2 ชั้น คือห่อด้วยถุงพลาสติกก่อน แล้วห่อทับด้วยกระดาษอีกชั้นหนึ่ง ซึ่งเป็นวิธีที่ค่อนข้างใช้ เวลานานกว่าจะห่อได้แต่ละลูก ใช้เวลาไปหลายนาที หลังจากนั้นมาจึงได้ทดลองห่อผลด้วยถุงพลาสติกกัน ยูวี เพียงชั้นเดียว แล้วผลลัพธ์ที่ได้ออกมาดี ช่วยประหยัดเวลาและคุณภาพของผลก็ไม่แตกต่างกันมากนัก จึงเลือกที่จะใช้วิธีการห่อผลด้วยถุงพลาสติกกัน ยูวี เพียงชั้นเดียวการตลาดก็เริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ คนในครอบครัวช่วยกันกระจายสินค้า คือ 1.ภรรยาจะนำฝรั่งไปขายที่ตลาดนัด 2.เป็นวิธีการบอกกันปากต่อปาก จนได้พ่อค้าประจำมารับซื้อถึงสวน 3.ลูกสาวเป็นครูเอาไปขายที่โรงเรียน ราคาขายหน้าสวน กิโลกรัมละ 20-25 บาท ขายปลีก กิโลกรัมละ 30-35 บาท ถือเป็นผลไม้ที่ขายได้ราคาดีมาก ผลผลิตที่ออกมาก็สามารถสร้างรายได้เสริมได้ดี
ข้อมูล เขียนโดย น.ส.จิรวรรณ แสงจันทร์