มหัศจรรย์แพทย์แผนไทย

“บ่งต้อด้วยหนามหวาย” รักษาดวงตา

ความลึกล้ำมหัศจรรย์ของ “แพทย์แผนไทย” เป็นศาสตร์และภูมิปัญญาของบรรพบุรุษคนไทยทางด้านการแพทย์ ถ่ายทอดสืบต่อกันมา แม้ปัจจุบันเริ่มสูญหาย เหลือน้อยลง แต่ที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ไผ่รอบเหนือ อ.โพธิ์ประทับช้าง จ.พิจิตร มี นายสมทบ สอนราช ผู้อำนวยการ รพ.สต.ไผ่รอบเหนือ ได้เปิดทำการรักษาดวงตาด้วยศาสตร์การแพทย์แผนไทย โดยวิธี “บ่งต้อด้วยหนามหวาย” มีผู้ป่วยโรค ต้อหิน ต้อลม เจ็บตา คันตา แสบตา มาขอทำการรักษาจากทั่วประเทศ

นายสมทบ กล่าวว่า การรักษาดวงตาด้วยศาสตร์การแพทย์แผนไทย เท่าที่สืบค้นประวัติย้อนไป 3-4ช่วงอายุคน ต้องรำลึกถึงครูอรุณ นนทวารี , ครูสงคราม อินบัว และครูชะเอม ขุมเพชร ซึ่งเป็นผู้ถ่ายทอดวิชาให้ตน “บ่งต้อด้วยหนามหวาย” ซึ่งการรักษาเริ่มต้นจากการตรวจสุขภาพคัดกรองเบื้องต้นที่ผู้ป่วยที่มีอาการเกิดโรคภัยไข้เจ็บจากดวงตาไปจนถึงผู้ที่ป่วยแล้วมีอาการตาบอด (ไม่ใช่ผู้ที่ตาบอดมาแต่กำเนิด) มาขอทำการรักษา ซึ่งตนจะเปิดรับการรักษาเดือนหนึ่งเพียงแค่ 2-3 ครั้ง ครั้งหนึ่งจะใช้เวลารักษาติดต่อกัน 3 วัน หรือ 3 ครั้ง การรักษาแต่ละครั้งแต่ละคนใช้เวลา 10-15 นาที ทุกวันนี้มีคิวรอรับการรักษายาวไปถึงเดือนพฤษภาคม 2561 แล้ว เพราะในแต่ละครั้งที่เปิดรับการรักษาก็จะรักษาได้เต็มที่เพียง 150 คนต่อรุ่น ซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายตามธรรมเนียมแพทย์แผนไทยที่ต้องมีเครื่องไหว้ครูบาอาจารย์เป็นกล้วยน้ำว้าห่ามๆ 1 หวี เทียนน้ำมนต์หนักบาท 1 เล่ม เงิน 12 บาท ค่าวัสดุของ รพ.สต.ไผ่รอบเหนือ 100 บาท ( เป็นตามระเบียบราชการ ) ค่าใช้จ่ายเพียงเท่านี้ในการรักษา 3 ครั้ง

“บ่งต้อด้วยหนามหวาย เป็นศาสตร์แพทย์แผนไทยที่รักษาโดยธาตุอากาศของมนุษย์ ประกอบด้วย ธาตุ ดิน น้ำ ลม ไฟ สัมพันธ์เชื่อมโยงกันในร่างกายมนุษย์ มีเส้นลม เส้นประสาทที่เป็นเส้นประธาน 10 เส้น เส้นบริวาร 7,200 เส้น โดยเฉพาะเส้นที่ไปสู่ดวงตามจุดกำเนิดจากหน้าท้องวนไปด้านหน้า วนไปที่ขา อ้อมไปที่เข่าด้านหลัง กลับมาที่แผ่นหลัง อ้อมไปที่ศีรษะแล้วมาจรดที่ดวงตาทั้ง 2 ข้าง ถ้าเทียบกับศาสตร์แพทย์แผนปัจจุบัน คือ ทางเดินของเส้นประสาททั้งหลายนั่นเอง” ผู้อำนวยการ รพ.สต. กล่าว

สำหรับวิธีการรักษาจะใช้หนามหวาย ที่มีคุณสมบัติมีรสขมเป็นตัวช่วยสมานแผลมาทำการบ่งไปที่บริเวณจุดที่ผิดปกติ มีรอยของโรคโดยการดึงเอาเส้นใยหรือสิ่งแปลกปลอมที่เกาะติดอยู่บนแผ่นหลังออกมาทิ้ง ทำเพียงเท่านี้ก็สามารถบำบัดอาการเจ็บป่วยและรักษาโรคผู้ป่วยที่เกิดขึ้นที่ดวงตา โดยเฉพาะถ้าเป็นต้อลมสามารถรักษาเห็นผลได้ภายใน 1-2 วัน ส่วนโรค ต้อหิน ต้อลม ต้อกระจก อาจใช้เวลามากหรือน้อยขึ้นอยู่ที่สุขภาพและการปฏิบัติตนตามข้อห้ามหรือข้อปฏิบัติที่มีกฎเกณฑ์ไว้ด้วย

การบ่งต้อด้วยหนามหวาย ภูมิปัญญาแพทย์แผนไทยเป็นการแพทย์พื้นบ้านที่ไม่มีหลักฐานอ้างอิงว่าเริ่มต้นมาตั้งแต่เมื่อใดและมีการรักษาที่สืบเนื่องต่อกันมาสี่ชั่วอายุคนแล้วหลักการโดยใช้หนามหวายลงไปที่บริเวณที่ผิดปกติมีรอยโรคเป็นเอาเส้นใหญ่หรือสิ่งแปลกปลอมที่อยู่ในร่างกายออกมาทิ้งเพื่อบำบัดอาการเจ็บป่วย

ประโยชน์

รักษาโรคต้อหิน ต้อกระจก ต้อลม จอประสาทตาเสื่อม แสบตา เคืองตาได้ผลดีโดยเฉพาะต้อลม จะเห็นผลภายใน 1 ถึง 2 วัน

อุปกรณ์และวิธีการบ่งต้อ

1. หนามหวายขมขนาดพอเหมาะ

2. หนามหวายขมที่ผ่านกระบวนการฆ่าเชื้อเรียบร้อยแล้ว

3. ตรวจสภาพดวงตาและค้นหารอยโรค

4. บ่งบริเวณที่มีการติดขัดของทางเดินลมที่บริเวณหลัง

สิ่งที่ต้องเตรียมมาในวันแรกที่เข้ารับการรักษา

1. กล้วยน้ำว้าห่ามๆ 1 หวี

2. เทียนน้ำมนต์หนัก 1 บาท 1 เล่ม

3. เงินไหว้ครู 12 บาท


ข้อปฏิบัติ

1.ต้องทำการรักษาติดต่อกัน 3 วัน

2.งดกินกล้วยและกล้วยแปรรูปทุกชนิด 3 วัน

3.งดของแสลง เช่น ของหมักของดอง หน่อไม้ และชะอม 15 วัน

4.งดเหล้าเบียร์ 15 วัน

5.หลีกเลี่ยงแสงแดดลมและฝุ่นละออง 15 วัน

6. ห้ามเหงื่อเข้าตา 15 วัน

7. หลีกเลี่ยงการยกของหนักเกิน 20 กิโลกรัม 15 วัน


รับบริการและสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลไผ่รอบเหนือ หมู่ 8 ตำบลไผ่รอบ

อำเภอโพธิ์ประทับช้าง จังหวัดพิจิตร โทรศัพท์ : 056-030089

ผู้ให้ข้อมูล นายสมทบ สอนราช ผู้อำนวยการ รพ.สต.ไผ่รอบเหนือ

ผู้เรียบเรียง นางสาวศิรินันท์ ยอดนุ่ม ครู กศน.ตำบลไผ่รอบ

กศน.ตำบลไผ่รอบ อำเภอโพธิ์ประทับช้าง จังหวัดพิจิตร

โทร : 096-9067483

Email : sirinandp@gmail.com