ประวัติหมู่บ้าน

       บ้านห้วยไร่ (บ้านเก๊า)  หมู่บ้านเดิมอดีตตั้งอยู่ฝั่งน้ำห้วยไร่  เหนือบ้านวังปาน และบ้านแม่ลี้  ในอดีตได้เกิดโรคไข้ทรพิษ  ทำให้ประชาชนในหมู่บ้านล้มตายจำนวนมาก  เนื่องจากเกิดโรคตามความเชื่อของชาวบ้านว่าถูกผีทำร้าย  ถ้าตั้งหมู่บ้านต่อไป       จะอยู่ไม่เป็นสุข  จึงทำให้ชาวบ้านห้วยไร่ได้แยกย้ายหาที่อยู่อาศัยใหม่  โดยแยกหมู่บ้านออกมาตั้งเป็นบ้านห้วยไร่  บ้านวังปาน       บ้านแม่ลี้  บ้านแม่แสม  ในระยะแรกมีประชากร  20  หลังคาเรือน  60  กว่าคน

       การย้ายเข้ามาตั้งหมู่บ้านห้วยไร่ในอดีตนั้นตั้งอยู่บริเวณลำห้วยไร่  ซึ่งไหลผ่านหมู่บ้านจึงได้ตั้งชื่อตามลำห้วยเมื่อย้ายเข้ามาจัดตั้งหมู่บ้านที่ตั้งปัจจุบัน การตั้งหมู่บ้านใกล้ลำห้วยมะดา  ซึ่งไหลผ่านเหนือหมู่บ้าน ชาวบ้จึงเรียกชื่อหมู่บ้านว่ามะดะเมื่อประชากรเข้ามาอาศัยจำนวนมากขึ้นการตั้งชื่อหมู่บ้านขึ้นอยู่กับการปกครองของอำเภอลี้ ซึ่งตั้งชื่อเป็นบ้านห้วยไร่อย่างเป็นทางการ

      

ประวัติชาติพันธุ์

       ชาวบ้านห้วยไร่เป็นชาวไทยภูเขาเผ่ากะเหรี่ยง  โดยผู้เฒ่าผู้แก่ในหมู่บ้านห้วยไร่  สันนิษฐานว่าบรรพบุรุษเผ่ากะเหรี่ยงมาจากชายแดนไทย – พม่า  บริเวณอำเภอฝาง  จังหวัดเชียงใหม่  โดยเข้ามาแสวงหาที่ทำกินและที่อยู่อาศัย  ภาษาที่ใช้สื่อสารกันภายในหมู่บ้านเป็นภาษาท้องถิ่นในหมู่บ้าน  คือ  ภาษากะเหรี่ยง  พอสันนิษฐานได้ว่าต้นกำเนิดของหมู่บ้าน  โดยมีนามสกุลในหมู่บ้านเป็นแกนนำคือ    วิหล้ากว้าง , ปัญโญ , คำนวล ,  สุกันและปู่เงิน

ประเพณีและวัฒนธรรม

ศาสนาชาวบ้านส่วนใหญ่นับถือสาสนาพุทธควบคู่กับผีตามประเพณีดั้งเดิมที่สืบทอดกันมาตั้งแต่โบราณ ประเพณีที่ชาวบ้านนับถือกันส่วนใหญ่ได้รับสืบทอดต่อจากบรรพบุรุษและประเพณีพื้นเมืองเหนือ  คือ

1.    การเลี้ยงผีประจำหมู่บ้าน (การเลี้ยงผีเสื้อผ้า  ผีเจ้านาย)  จะทำกันปีละ  2  ครั้ง  โดยช่วงเดือน  5  เหนือ (ปลายเดือนมกราคม – ต้นเดือนกุมภาพันธ์)  จะนำไก่หลังคาละ 1  ตัว  มาเลี้ยงและช่วงเดือน  9 เหนือ  (ปลายเดือนพฤษภาคม ถึง ต้นเดือนมิถุนายน)  จะนำไก่หลังคาละ  1  ตัวมาเลี้ยง  เมื่อครบ  3  ปี  จะเลี้ยงหมู โดยการเก็บเงินของแต่ละหลังคาเรือนมาซื้อหมูเลี้ยงผี

2.    ประเพณีการเข้ากรรมประจำหมู่บ้าน  จะทำปีละ  2  ครั้ง  ช่วงเดือน  5  ออก  7  ค่ำ  และช่วงเดือน  9 ออก  7  ค่ำ  โดยมีข้อห้าม  คือ  ห้ามคนนอกเข้ามาในหมู่บ้าน  ถ้าฝ่าฝืนต้องปรับเงิน 100  บาท  เพื่อนำมาเลี้ยงผี

3.    การเลี้ยงผีไร่  ผีนา  จะทำช่วงหลังฤดูกาลเก็บเกี่ยวผลผลิตทางการเกษตร จะมีการนำไก่มาเลี้ยง

4.    ประเพณีการเลี้ยงผีเหมือง  ผีฝาย  จะกระทำช่วงก่อนฤดูกาลเพาะปลูก  และการเลี้ยงผีไร่  ผีนา  จะทำช่วงหลังการเก็บเกี่ยวเมื่อครบ  3  ปี  จะมีการเลี้ยงหมู  โดยเก็บเงินตามเจ้าของนาแล้วเลี้ยงผีร่วมกัน

5.    เลี้ยงผีปู่ย่า  ผีบรรพบุรุษ  จะเลี้ยงตามเครือญาติ  นิยมเลี้ยงเดือน  9 เหนือ  เมื่อสมาชิกในบ้านมารวมกันครบหรือเมื่อเครือญาติเจ็บไข้ได้ป่วยหรือสมาชิกในเครือญาติแต่งงานโดยนิยมเลี้ยงไก่และหมู

6.    ประเพณีแต่งงาน  จะทำพิธีกรรมแบบเผ่ากะเหรี่ยงมีข้อห้ามถ้ายังไม่ได้แต่งงานห้ามอยู่กินกันฉันท์สามีภรรยา  นิยมแต่งงานกันช่วงเดือนพฤศจิกายน  ธันวาคม  มีนาคม  พฤษภาคมและมิถุนายน

7.    ประเพณีสลาพัตร  จะทำทุกปี  ช่วงเดือนกันยายน – ตุลาคม  แล้วแต่ฐานะทางเศรษฐกิจของคนในหมู่บ้าน  ถ้าไม่มีประเพณีสลากพัตรก็จะมีการทอดผ้าป่าสามัคคีขึ้นภายในหมู่บ้าน

8.    พิธีกรรมต่าง ๆ ในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา เช่น  วันเข้าพรรษา  วันออกพรรษา        วันมาฆบูชา  เป็นต้น  จะประกอบพิธีกรรมทางศาสนาภายในวัด

9.    พิธีงานศพ  จะทำแบบประเพณีชาวเขาอยู่บ้าน  และมีพิธีของชาวไทยพื้นเมืองเป็นบางส่วนปัจจุบันมีการเผาศพเป็นส่วนใหญ่  ข้อห้าม  คือ  ห้ามคนในหมู่บ้านออกไปทำงานในวันเผาศพ  วันตาย  ห้ามคนในหมู่บ้านออกนอกหมู่บ้าน  เมื่อเผาศพให้คนในหมู่บ้านพัก  3 วัน  แล้วมัดมือเลี้ยงไก่  1  ตัว  แล้วแต่บ้านของใครของมัน

10. ประเพณีปอยข้าวสังข์ (ทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้คนตาย ) นิยมทำหลังจากคนตายไปแล้ว 3 ปี หรือแล้วแต่ฐานะทางเศรษฐกิจของครอบครัว

          11. ประเพณีดำหัวผู้เฒ่าผู้แก่  ในช่วงเทศกาลวันสงกรานต์  พร้อมกับมีการสืบชะตาของหมู่บ้านขึ้นด้วย

    12. ประเพณีทานข้าวใหม่  (ทดแทนบุญคุณข้าว)  จะทำช่วงเดือนสี่เป็ง  ประมาณเดือนมกราคม

               13. ประเพณีเดือนยี่เป็ง  (วันลอยกระทง)  มีการทำบุญตักบาตร  มีการฟังเทศน์ฟังธรรม  มีการปล่อยโคมไฟ    ว่าวไฟ  จุดดอกไม้ไฟและการลอยกระทง