1. ความสัมพันธ์ของกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และวิศวกรรมศาสตร์
วิทยาศาสตร์ คือ การหาความสัมพันธ์เชิงความเป็นเหตุเป็นผลของปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ เช่น ทำไมเราจึงเป็นหวัด ซึ่งจะต้องหาเหตุคือการที่มนุษย์ได้รับเชื้อไวรัส จึงทำให้ได้ผลตามมาคือเป็นโรคหวัด เป็นต้น ซึ่งการเป็นหวัดคือปรากฏการณ์ทางธรรมชาติของร่างกาย หากต้องการศึกษาให้เข้าใจมากกว่าแค่เหตุและผลนั้น เราจะต้องใช้วิทยาศาสตร์ในการหาคำตอบเชิงกลไกเกี่ยวกับการทำงานของไวรัส DNA รวมถึงผลกระทบกับส่วนอื่น ๆ อีกมากมาย เพื่อนำไปสู่การพัฒนาวัดซีนในการรักษาได้ถูกต้องและแม่นยำ
วิศกรรมศาสตร์ คือ การนำองค์ความรู้ทางวิทยาศาสตร์มาสร้างเป็นเทคโนโลยี ซึ่งมีหลายแขนง เช่น วิศวกรรมโยธาเชี่ยวชาญการสร้างตึก ถนน สะพาน วิศวกรรมเครื่องกลเชี่ยวชาญการสร้างยานพาหนะ วิศวกรรมสื่อสารเชี่ยวชาญการสร้างเทดโนโลยีเพื่อการสื่อสารต่าง ๆ ตัวอย่างการใช้วิศวกรรม เช่น การสร้างสนามบินแห่งหนึ่ง จะต้องมีวิศวกรรมศาสตร์หลายสาขาที่สร้างเทคโนโลยีในแต่ละส่วนและนำมาใช้ร่วมกันได้
2. กระบวนการทางวิทยาศาสตร์
คือ วิธีการและขั้นตอนที่ใช้ดำเนินการค้นคว้าหาความรู้ทางวิทยาศาสตร์ อย่างมีระบบและมีประสิทธิภาพ
>> ตัวอย่าง แนวคิดกระบวนการทางวิทยาศาสตร์<<
การทดลองแยกแสงสีขาวจากดวงอาทิตย์โดยใช้ปริซึม
เมื่อนิวตันได้ผลการทดลองแล้ว นิวตันจึงสงสัยว่า แสงที่หักเหจนได้สีต่าง ๆ ออกมานั้น สามารถรวมกลับไปแสงสีขาวได้หรือไม่
นิวตันจึงทำการทดลองโดยการนำปริซึม 2 แห่ง มาทำการทดลอง โดยการนำปริซึมแท่งแรกทำการหักเหแสงสีขาวจากดวงอาทิตย์ออกมาได้เป็นสีรุ้งที่สามารถเห็นได้ว่ามี 7 สี แล้วนำปริซึมแท่งที่ 2 มารับแสงสีรุ้งจากปริซึมแท่งแรก จะพบว่าปริซึมแท่งที่ 2 ทำหน้าที่รวมแสงที่หักเหจากปริซึมแท่งแรกกลับมาเป็นแสงสีขาวได้
การทดลองใช้ปริซึม 2 แท่ง ศึกษาการกระจายของแสงและการรวมแสง
กระบวนการทางวิทยาศาสตร์มีขั้นตอน ดังนี้
การใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์กับการทดลองของนิวตัน
⁂ ความรู้เดิม (Existing Knowledge)
เป็นการนำความรู้เติมโดยเนันทางวิทยาศาสตร์และดณิตศาสตร์ หรือความรู้ที่ได้จากประสบการณ์ในชีวิต ซึ่งความรู้เติมที่เรารู้อยู่แล้ว
คือ เมื่อแสงเดินทางผ่านตัวกลาง แสงสามารถหักเหได้
⁂ ความอยากรู้ทางวิทยาศาสตร์ (Scientific Curiosity)
ตั้งข้อสงสัยว่า แสงสีขาวระหว่างที่เดินทางผ่านปริซึมแล้วเกิดอะไรขึ้นบ้าง จึงทำให้แสงสีขาวที่เดินทางผ่านปริซึมมีแสงออกมาเป็น
แสง 7 สีแทน
⁂ ตั้งสมมติฐาน (Hypothesis)
ตั้งสมมติฐานว่า แสงเดินทางผ่านปริซึมแล้วแสงถูกปริซึมทำให้เปลี่ยนสี หรือเกิดการหักเหของแสง
⁂ ออกแบบการทดลอง (Experiment)
การออกแบบเป็นสิ่งที่มีความหลากหลายทางความคิด โดยสามารถออกแบบการทตลองได้หลายวิธี เช่น การใช้แสงจากดวงอาทิตย์ แสงจากเทียน แสงจากการเผาไหม้ หรือแสงจากหลอดไฟ แล้วเมื่อนำปริซึมไปรับแสง จะต้องวางอย่างไร และเมื่อทำมุมต่าง ๆ กับแสงที่เดินทางผ่านปริซึมจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง ขนาดของปริซึมมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงของแสงหรือไม่
⁂ สรุปวิเคราะห์ (Analysis)
เมื่อทำการทดลองแล้ว จึงได้ผลการทตลองที่จะสอดคล้องกับความรู้เดิมและสามารถอธิบายโดยใช้หลักของวิทยาศาสตร์ในการอธิบายการเกิดแสง 7 สี ซึ่งผลรุปอ "ปริซึมไม่ได้ทำให้สีของแสงอาทิตย์เปลี่ยน แต่ปรึซึมหักเหให้สีต่าง ๆ แยกออกจากกัน" อธิบายได้ว่า แสงสีขาวจะประกอบไปด้วยแสง 7 สี รวมกันจนเป็นแสงสีขาวและเมื่อใช้ปริซึมแสงสีขาวจะเกิดการหักเห ซึ่งแสงทั้ง 7 สี จะมีมุมหักเหที่
ไม่เท่ากันจนเกิดการกระจายออกมาให้เห็นเป็น 7 สี นั่นเอง
⁂ นำข้อสรุปไปพิสูจน์ (Prool)
ทำการพิสูจน์ตามหลักวิทยาศาสตร์เพื่อยืนยันการทดลองบนความรู้ทางวิทยาศาสตร์ ซึ่งเมื่อได้รับการพิสูจน์แล้วก็จะเป็นความรู้ใหม่ที่เผยแพร่ไปสู่คนทั่วไป จากความรู้นี้ทำให้คนรุ่นต่อมาสามารถที่จะอธิบายปรากฏการณ์รุ้งกินน้ำได้ตามหลักวิทยาศาสตร์นั่นเอง
3. กระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม
กระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรมสามารถดำเนินการเพื่อให้ได้ผลงานโดยทั่วไปมีอยู่ 2 แบบ คือ
1. การออกแบบเชิงวิศวกรรมโดยใช้วิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ในการดำเนินการ
2. การออกแบบเชิงวิศวกรรมโดยใช้ประสบการณ์ เพื่อให้ได้ผลงานโดยไม่ได้ใช้หลักวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ในการดำเนินการ
ความแตกต่างของการดำเนินการทั้ง 2 แบบ ความน่าเชื่อถือ ความปลอดภัย และการทำซ้ำซึ่งการออกแบบเชิงวิศวกรรมศาสตร์โดยใช้วิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ในการดำเนินการ ยังสามารถนำมาซึ่งเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ได้ด้วย ยกตัวอย่างการเรียนรู้ในรูปแบบ STEM ที่จะฝึกให้เราได้ใช้ทักษะอย่างครบถ้วน
ตัวอย่าง กระบวนการพัฒนาเตาอบพลังงานแสงอาทิตย์ด้วยกระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม
1. ระบุปัญหา
>> ปัญหาแมลงวันจำนวนมากในชุมชนที่เกิดจากการตากอาหารแห้ง
3. ออกแบบวิธีการแก้ปัญหา
>> ออกแบบตู้อบที่ใช้พลังงานแสงอาทิตย์ เพื่อลดต้นทุนในการผลิต
4. วางแผนและดำเนินการแก้ปัญหา
5. ทดสอบ ประเมินผล และปรับปรุงวิธีการแก้ปัญหาหรือชิ้นงาน
>> นำอุปกรณ์มาทดสอบ โดยใส่ปลาสลิด เนื้อหมู เนื้อวัว ลงในเตาอบพลังงานแสงอาทิตย์ แล้วสังเกตจำนวนแมลงวันในชุมชนว่า
น้อยลงหรือไม่
6. นำเสนอวิธีการแก้ปัญหา ผลการแก้ปัญหาหรือชิ้นงาน
>> นำเสนอวิธีการใช้ตู้อบพลังงานแสงอาทิตย์ ช่วงเวลาที่เหมาะในการตากอาหารแห้ง และการทำความสะอาดตู้อบพลังงานแสงอาทิตย์
อ้างอิงจากหนังสือเรียน รายวิชาขั้นพื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เทคโนโลยี (การออกแบบเทคโนโลยี) ม.2