ติดตาม Taweekit Radio เวลา 08.00-20.00 น. ทุกวัน
รวบรวม 19-01-61
February 3, 2015
“ทวีกิจกรุ๊ป” ธุรกิจค้าปลีกท้องถิ่นในจังหวัดบุรีรัมย์ เกิดขึ้นและตั้งอยู่ด้วยการปรับตัวในทุกสถานการณ์ ใช้ความเป็นคนบ้านเดียวกันซื้อใจ กลุ่มลูกค้าด้วยการบริการที่เข้าใจ เข้าถึง และตั้งราคาที่สมเหตุสมผล พร้อมกับการพัฒนาองค์กรให้เดินหน้าด้วยการนำเทคโนโลยีเข้ามา ช่วยเสริมทัพความแข็งแกร่งและเพิ่มความสามารถในการแข่งขันทางธุรกิจ ซึ่งในวันที่ 1 ตุลาคมนี้ ทวีกิจกรุ๊ปจะมีอายุครบ 40 ปีเต็ม
40 ปีของการผ่านร้อนผ่านหนาวมาสำหรับเส้นทางของทวีกิจกรุ๊ปนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ไม่ยากเกินความมุ่งมั่นและความมานะสู้ไม่ถอยของ “ทวี โรจนสินวิไล” และภรรยา ที่ได้สานต่อกิจการเดิมของคนรุ่นแม่ที่เป็นเพียงร้านขายของชำเล็กๆ อยู่ในใจกลางเมืองบุรีรัมย์เมื่อปี พ.ศ. 2479 จนสามารถขยายกิจการและก่อตั้งเป็นห้างทวีกิจได้สำเร็จในวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2517 ซึ่งในขณะนั้นนับว่าเป็นห้าง สรรพสินค้าแห่งแรกในภาคอีสาน
คุณดรุณี โรจนสินวิไล กรรมการบริหารห้างทวีกิจซุปเปอร์เซ็นเตอร์ จังหวัดบุรีรัมย์ เล่าถึงเส้นทางความสำเร็จของทวีกิจ ไว้ว่า นโยบายของห้าง ทวีกิจจะเน้นเรื่องการขายสินค้าราคาถูก เอากำไรต่อชิ้นน้อย แต่ขายเอาจำนวนมาก เน้นการบริการที่เป็นกันเอง ตามความตั้งใจของคุณพ่อ ทวีที่ว่า “ทวีกิจนำความประหยัดไปสู่ชุมชน”
“ความสำเร็จในทุกวันนี้มาจากที่คุณพ่อมีความมานะอุตสาหะในการทำงานมาโดยตลอด จากร้านขายของชำเล็กๆ ขยับมาขายเสื้อผ้า กางเกงยีนส์ เก็บหอมรอบริบมาเรื่อยๆ จนมีเงินมากพอจำนวนหนึ่งท่านก็มีความคิดสร้างห้างสรรพสินค้าขึ้น ชื่อว่า ห้างทวีกิจ นับเป็นห้าง แห่งแรกในภาคอีสาน ลักษณะของห้างสมัยนั้นจะไม่ติดแอร์ แต่จะสร้างให้แต่ละชั้นมีความเหลื่อมกันเพื่อให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก ซึ่งก็มี การตอบรับที่ดี และได้ขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง โดยเปิดดำเนินการห้างทวีกิจพลาซ่า หน้าอำเภอในปี 2529 และขยายมาสู่วีมาร์ท ซุปเปอร์เซ็นเตอร์ในปี 2540 ซึ่งเป็นปีที่เกิดวิกฤติเศรษฐกิจ เราเองก็ได้ผลกระทบจนวีมาร์ทซุปเปอร์เซ็นเตอร์ต้องปิดตัวลง ช่วงนั้นลำบาก มาก คุณพ่อจึงมีความคิดที่ว่าแทนที่เราจะไปกู้เงินนอกระบบ ดอกเบี้ยสูงๆ เราน่าจะนำสินค้าที่เราได้เครดิตไปขายให้กับลูกค้าเพื่อเปลี่ยน เป็นเงินสด เราจึงลุกขึ้นใหม่ด้วยการแก้ปัญหาโดยนำเอาสินค้าที่มีอยู่ออกมากางเต๊นท์ขายที่อำเภอกะสัง ปรากฏว่าขายดีมาก เพราะเรา ขายถูก จากนั้นเราก็หาเช่าตึกบริเวณนั้นเปิดทวีกิจสาขากระสัง ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการขยายสาขาไปตามชุมชนเพื่อให้ลูกค้าได้มีโอกาส ซื้อของเราได้สะดวกขึ้น จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2545 เราก็สามารถ เปิดบริการวีมาร์ทซุปเปอร์เซ็นเตอร์ได้อีกครั้ง โดยใช้ชื่อว่าห้างทวีกิจ ซุปเปอร์เซ็นเตอร์ และได้สร้างห้างที่สมบูรณ์แบบขึ้นอีกครั้ง ใช้ชื่อว่า ห้างทวีกิจพลาซ่า อยู่ในตัวเมืองบุรีรัมย์ ภายใต้บริษัท ทวีกิจซุปเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด”
ปัจจุบันทวีกิจซุปเปอร์เซ็นเตอร์ไม่ได้แตกต่างจากห้างสรรพสินค้าส่วนกลางแต่อย่างใด มีแอร์ มีโรงหนัง มีสิ่งอำนวยความความสะดวกร้าน อาหารแบรนด์ดัง แฟชั่นแบรนด์เนม อาทิ KFC, SHABUSHI, The Pizza, Swenson’s ทั้งนี้ก็เพื่อปรับตัวรับกับการรุกคืบของห้างจากส่วน กลางที่พยายามเบียดตลาดเข้าไปในทุกพื้นที่หรือแม้แต่ร้านสะดวกซื้อที่มีอยู่ทุกหัวมุมถนน เพียงแต่ขนาดพื้นที่และจำนวนร้านค้าอาจจะไม่ ครบครันเท่า บวกด้วยเม็ดเงินการลงทุนที่ถึงจะเปรียบเทียบกันไม่ได้ แต่ดรุณีกล่าวด้วยความมั่นใจว่า
“ทวีกิจ ซุปเปอร์เซ็นเตอร์และทวีกิจสาขาต่างๆ สามารถอยู่ร่วมกันกับห้างขนาดใหญ่จากส่วนกลางได้ และสามารถอยู่ร่วมกันในชุมชนได้ เราไม่ได้ชนะ เราไม่ได้แพ้ แต่เราอยู่ร่วมกันได้ เหมือนแชร์ตลาดกันไป เรายึดมั่นอยู่ตลอดเวลาว่า เรานำสิ่งที่ดีไปสู่ชุมชน นำความประหยัด ไปสู่ชุมชน ทวีกิจขยายไปตามอำเภอต่างๆ ของจังหวัดบุรีรัมย์และจังหวัดใกล้เคียง ปัจจุบันขยายไประดับตำบล รวมกว่า 100 สาขา ลูกค้าหลายคนเข้ามาบอกเราว่า อยากให้ทวีกิจไปเปิดแถวบ้านเขา หลายคนมาบอกว่าดีใจมากที่เราไปเปิด เขาได้ซื้อน้ำมัน น้ำปลา น้ำตาลทรายราคาถูก เราได้ยินก็รู้สึกดีใจ ที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการลดค่าครองชีพของคนในชุมชน ซึ่งสินค้าที่เราขายจะเป็นพวกสินค้าที่ใช้ ในครัวเรือน พลาสติก และสินค้าอุปโภคทั่วไป เราไม่ได้ขายของสด จึงไม่กระทบกับพ่อค้าแม่ค้าในตลาด จึงสามารถอยู่ร่วมกันได้ด้วยดี” นอกจากเรื่องการปรับตัวในภาพของการเป็นห้างสรรพสินค้าอย่างสมบูรณ์แบบแล้ว ในส่วนของการบริหารจัดการภายใน ดรุณียังบอกว่า เรื่องเทคโนโลยีก็เป็นเรื่องสำคัญที่เธอนำมาใช้เพื่อการปรับระบบในการเพิ่มความคล่องตัวในธุรกิจ โดยเฉพาะการนำระบบคอมพิวเตอร์และ อินเตอร์เน็ตมาเชื่อมต่อในการสื่อสารส่งข้อมูลในแต่ละสาขาและดูยอดขายในแต่ละวันได้ทันที รวมถึงการใช้โซเชียลมีเดียต่างๆ เข้ามาช่วย ในเรื่องการโปรโมทและการประชาสัมพันธ์สินค้า
“สมัยนี้เทคโนโลยีช่วยเราได้เยอะจริงๆ โดยเฉพาะในเรื่องของการสื่อสารที่รวดเร็ว การควบคุมดูแลสต็อกสินค้า การจัดซื้อ สั่งของ ซึ่งเรา ใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการบริหาร อย่างสมัยก่อน สาขาที่เยอะทำให้การเก็บเงินเป็นเรื่องที่ค่อนข้างดูแลบริหารลำบาก เราก็ได้นำระบบ คอมพิวเตอร์และโปรแกรมทางบัญชีเข้ามาช่วยจัดการ รวมถึงเราสามารถดูภาพวงจรปิดจากร้านและสาขาผ่านระบบ CCTV ได้ตลอดเวลา ผ่านทางโทรศัพท์มือถือ หรือแท็บเล็ต 3G ของดีแทค ทำให้เราสามารถตรวจสอบการทำงานได้ทันท่วงที ไม่ว่าจะเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น นอกจากสะดวกแล้ว ในแง่การลงทุนก็ไม่สูง เพราะเราใช้ data package ราคาประหยัดจากดีแทคอีกด้วย”
ปัจจุบันทวีกิจกรุ๊ปมีห้างขนาดใหญ่ ในเมืองบุรีรัมย์ 2 แห่ง และมีที่อำเภอนางรอง จ.บุรีรัมย์ อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ รวมถึงทวีกิจคอมเพล็กซ์ จ.สระบุรี อีก 1 แห่ง และทวีกิจสาขาย่อยในอำเภอต่างๆ กว่า 100 สาขา ในภาคตะวันออกเฉียง- เหนือ ความสำเร็จที่เกิดจากการปรับตัวของทวีกิจกรุ๊ปในทุกครั้งที่ประสบปัญหา การพลิกวิกฤติเป็นโอกาสในช่วงปี 2540 หรือแม้แต่การ นำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการทำงานเพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน ทั้งหมดนี้นับได้ว่าเป็นการแก้ปัญหาที่ตรงจุดและทำให้ ทวีกิจซุปเปอร์เซ็นเตอร์ยืนอยู่บนลำแข้งของตัวเองได้อย่างภาคภูมิและเป็นแบบอย่างของผู้ประกอบการที่ไม่ทำอะไรเกินตัว