ชุมชนบ้านหาดบ้ายและหาดทรายทอง เป็นชุมชนของชาวไทลื้อ เดิมชนชาติไทลื้อมีถิ่นฐานที่อยู่อาศัยในบริเวณที่เรียกว่า แคว้นสิบสองปันนา ที่ในปัจจุบันเป็นเขตปกครองพิเศษของสาธารณรัฐประชาชนจีน ที่หนีสงครามการสู้รบเพื่อแย่งดินแดนของประเทศจีน และประเทศเมียนมาร์ อพยพมายังที่ราบลุ่มแม่น้ำโขงและได้ปักหลักอยู่ในประเทศไทย บริเวณบ้านหาดบ้าย ตำบลริมโขง อำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย ชุมชนบ้านหาดบ้ายและหาดทรายทอง มีวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์มีความน่าสนใจและเป็นการสืบสารประเพณีอันดีงามของชนชาติไทลื้อ ชาวไทลื้อเป็นอีกหนึ่งกลุ่มที่ชอบทำบุญจะในเทศกาลต่าง ๆ ที่เพื่อเป็นการสืบสานวัฒนธรรม และการแต่งกายอันเป็นเอกลักษณ์ของชาวไทยลื้อเอง ที่แต่งกายจากผ้าทอที่ทำขึ้นมาเองหรือเป็นชุดที่สืบทอดมาจากรุ่นสู่รุ่น สถานที่ทำบุญในเทศกาลต่าง ๆ นั้น ของหมู่บ้านจะมีทั้งสิ้น 3 แห่งที่เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของชุมชน อันได้แก่วัดบ้านหาดบ้าย ,วัดพระธาตุศรีจอมหมอก และศาลเจ้าพอเดือยไก่แจ้ ดังนั้นใน 12 เดือนจะมีประเพณีต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกันอย่างเช่นในเดือนมกราคมของทุกปี ชาวไทลื้อเรียกว่าเดือน 3 จะมีประเพณีตานข้าวใหม่ เป็นประเพณีที่ชาวบ้านจะนำข้าวเปลือกหรือข้าวสารไปทำบุญก่อนจะนำมาทาน เพื่อเป็นการบูชาพระรัตนตรัย และความอยู่เย็นเป็นสุขของชีวิต โดยจะดำเนินกิจกรรม ณ วัดพระธาตุศรีจอมหมอก ตำบลริมโขง อำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย
วัดพระธาตุศรีจอมหมอก อำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย ตั้งอยู่บนดอยสูงที่มีป่าไม้นานาพันธุ์ขึ้นปกคลุมไว้ ซึ่งไม่มีใครทราบว่ากลุ่มชนชาติใดเป็นผู้ริเริ่ม ก่อสร้างไว้ ในปีพุทะศักราช 2511 ได้มีนายพรานป่าชื่อ นายหน่อแสง ธรรมรงค์ และนายปาเต็ง กับชาวบ้านกลุ่มหนึ่งได้ขึ้นไปหาของป่าและล่าสัตว์ จึงได้พบก้อนอิฐบริเวณที่ตั้งพระธาตุ และได้พากันสำรวจและพบหลักฐานพระธาตุดังกล่าว และมีร่องรอยการขุดค้นเอาสิ่งของและวัตถุที่มีค่าไปก่อนแล้ว ต่อมาชาวบ้านได้มีการปรึกษาหารือ เพื่อขึ้นไปสำรวจครั้งใหญ่และพยายามจะสร้างถนนขึ้นไปจากหมู่บ้านไปถึงดอยพระธาตุแห่งนี้ โดยการใช้อุปกรณ์ที่มี เช่น จอบ เสียม มีด พร้า และแรงงานชาวบ้านบ้านหาดบ้าย และหาดทรายทอง ซึ่งมีพลังแห่งความศรัทธาในพระพุทธศาสนา จึงได้ร่วมกันสร้างถนนหนทางให้คนเดินได้สะดวกบ้างเท่านั้น ต่อมาได้มีพระภิกษุรูปหนึ่งซึ่งชาวบ้านเรียกว่า ตุ๊ ดา จันทร์พรหม ชาวบ้านบ้านหาดบ้ายได้เป็นผู้คิดริเริ่มหาผู้ใจบุญตามที่ต่างๆ เพื่อขอกองทุน หรือผ้าป่า กฐิน มาทอดถวาย ที่วัดหาดบ้าย และนำปัจจัยที่ได้รับมานำมาก่อสร้างพระธาตุขึ้นใหม่ มีการนำวัตถุมงคล แก้ว แหวน เงินทอง ตามแต่จิตศรัทธาของแต่ละบุคคล มาบรรจุลงในฐานของพระธาตุเพื่อเก็บรักษาและกราบไหว้บูชา ปัจจุบันได้มีการขยายถนนขึ้นไปยังบนดอยพระธาตุศรีจอมหมอกแล้วด้วยเหตุที่พระธาตุองค์นี้ตั้งอยู่บนดอยสูง ซึ่งชาวบ้านเรียกว่า ดอยธาตุ ในช่วงเช้าและช่วงเย็นจะมีหมอกลอยลงต่ำปกคลุมเสมอ ยอดไม้ เมื่อมองจากยอดดอยลงมายังหมู่บ้านจึงมีหมอกปกคลุมอยู่เสมอ จึงเรียกว่า พระธาตุดอยศรีจอมหมอก ปัจจุบันวัดพระธาตุศรีจอมหมอกได้รับการบูรณะก็ได้มีสิ่งอำนวยความสะดวกเช่น ไฟฟ้า,น้ำประปา และมีพระสงฆ์ มาจำวัด สร้างเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรม ให้ผู้คนที่แสวงหาความสงบสุข และเพิ่งพูนพลังความศัทธาในพระพุทธศาสนา สามารถปฏิบัติธรรม ณ ที่แห่งนี้ได้
ผู้เขียน นายอดุลย์ อินนันใจ
ผู้ถ่ายภาพ นายอดุลย์ อินนันใจ