ชุมชนตำบลดงน้อย เป็นหนึ่งในพื้นที่ที่มีประชากรเชื้อสายเขมรอาศัยอยู่หนาแน่นในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ด้วยความผูกพันทางวัฒนธรรมและความเชื่อที่สืบทอดกันมาแต่โบราณกาล ทำให้ชาวบ้านยังคงรักษาขนบธรรมเนียมประเพณีอันทรงคุณค่าไว้เป็นอย่างดี หนึ่งในประเพณี ที่สำคัญของชุมชนนี้ คือ ประเพณีเซ่นยายตา ซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี ในวันแรม 15 ค่ำ เดือน 10 ตามปฏิทินจันทรคติไทย
ความหมายและความสำคัญของประเพณี
พิธีเซ่นยายตา เป็นพิธีกรรมที่แสดงออกถึงความกตัญญูของลูกหลานต่อบรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้ว โดยเชื่อว่าวันแรม 15 ค่ำ เดือน 10 เป็นช่วงเวลาที่วิญญาณของบรรพบุรุษจะกลับมาเยี่ยมลูกหลานบนโลกมนุษย์ การจัดพิธีเซ่นไหว้จึงเป็นเสมือนการต้อนรับและแสดงความเคารพต่อ “ยายตา” หรือบรรพบุรุษที่เป็นที่เคารพนับถือของแต่ละครอบครัว
พิธีเซ่นยายตาจะจัดขึ้น ในช่วงเย็นของวันแรม 15 ค่ำ เดือน 10 โดยแต่ละครอบครัวจะเตรียมสถานที่บริเวณลานบ้าน ใต้ต้นไม้ใหญ่ หรือ นำกระทงกาบกล้วยไปลอยน้ำ ซึ่งเชื่อว่าเป็นที่สถิตของดวงวิญญาบรรพบุรุษ
อาหารและเครื่องเซ่นไหว้ที่เตรียมไว้มีทั้งอาหารคาวหวาน โดยแม้ว่ารายการอาหารจะไม่จำเป็นต้องเหมือนกันทุกบ้าน แต่มีสิ่งที่ขาดไม่ได้ คือ
ขนมกระยาสารท สื่อถึงการอุทิศส่วนกุศลให้ผู้ล่วงลับ
ข้าวต้มเขมร เป็นขนมประจำถิ่นที่มีความหมายถึงความผูกพันทางวัฒนธรรม
เหล้า ใช้เพื่อการบูชาวิญญาณ
ผลไม้ตามฤดูกาล
ดอกไม้ ธูปเทียน
หมาก พลู
ขันน้ำมนต์ ใช้ประกอบพิธีเรียกขวัญและแสดงความศักดิ์สิทธิ์
มื่อเตรียมของเซ่นไหว้เสร็จแล้ว ผู้อาวุโสในบ้านจะเป็นผู้กล่าวคำเชิญวิญญาณยายตาให้มารับเครื่องบูชา พร้อมกับกล่าวขอพรและความเป็นสิริมงคล แก่ลูกหลาน โดยพิธีกรรมทั้งหมดนี้จะดำเนินไปด้วยความเงียบสงบและ เปี่ยมด้วยความเคารพ
กระทงกาบกล้วย
มีบทบาทสำคัญในพิธีเซ่นไหว้ยายตาของชาวเขมรพื้นถิ่น โดยเฉพาะในชุมชนเช่น ตำบลดงน้อย ซึ่งยังคงสืบสานประเพณีนี้อย่างเหนียวแน่น กระทงกาบกล้วยมักถูกนำมาใช้เป็นภาชนะใส่อาหาร คาวหวาน เช่น ข้าวต้มเขมร ขนมกระยาสารท ผลไม้ หรือของเซ่นไหว้อื่น ๆ ที่จะจัดวางเพื่ออุทิศให้ดวงวิญญาณบรรพบุรุษ หรือ “ยายตา” ที่เคารพบูชา เนื่องจากกระทงทำจากกาบกล้วยธรรมชาติ ไม่มีการปนเปื้อนใด ๆ ชาวบ้านเชื่อว่าเป็นภาชนะที่บริสุทธิ์ เหมาะสำหรับการจัดถวายดวงวิญญาณที่เคารพ ถือเป็นการแสดงความเคารพต่อบรรพบุรุษอย่างสมถะและศรัทธา บางพื้นที่อาจมีการวางกระทงเหล่านี้ไว้บริเวณใต้ต้นไม้ใหญ่หรือศาลยายตา ซึ่งเชื่อว่าเป็นที่สถิตของดวงวิญญาณบรรพบุรุษ หรืออาจมีการลอยกระทงในน้ำ เพื่อส่งของไหว้ไปถึงวิญญาณตามความเชื่อท้องถิ่น
ประเพณีเซ่นยายตาไม่เพียงแต่เป็นการแสดงความเคารพบรรพบุรุษแต่ยังสะท้อนถึงความสามัคคีภายในครอบครัวและชุมชน ทุกคนมีส่วนร่วม ในการเตรียมอาหาร การทำความสะอาดบริเวณบ้าน และการดำเนินพิธีกรรมร่วมกัน ถือเป็นโอกาสสำคัญที่ทำให้คนรุ่นใหม่ได้เรียนรู้และซึมซับรากเหง้าทางวัฒนธรรมของตนเอง
ผู้ให้ข้อมูล องค์การบริหารส่วนตำบลดงน้อย
ข้อมูลเนื้อหา เรื่องราว เขียนโดย นางสาวศศิธร พรหนุน
ภาพถ่าย/ภาพประกอบโดย เพจ facebook ที่ว่าการอำเภอราชสาส์น
ข้อมูลอ้างอิง https://www.facebook.com/thi.wakar.xaphex.rach.sasn.xaphex.rach.sasn?locale=th_TH
https://www.facebook.com/OfficialDongnoi?locale=th_TH
พิธีบวชป่า
พิธีบวชป่าเป็นพิธีกรรมทางศาสนาพุทธที่ถูกคิดขึ้นมาเพื่อเป็นกุศโลบายให้ประชาชนรู้จักคุณค่าและความสำคัญของป่าไม้ ผ่านการสร้างความเชื่อที่ว่าผืนป่านั้นมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ปกปักรักษาอยู่ จะเข้ามาบุกรุกทำลายป่าไม่ได้
ขั้นตอนของพิธีบวชป่าจะเริ่มต้นด้วยการให้ชุมชนในพื้นที่สำรวจและกันแนวเขตพื้นที่ป่าสำหรับทำพิธีให้ชัดเจนว่าจะมีพื้นที่ทำพิธีจำนวนกี่ไร่ แล้วจึงค่อยสร้างกฎเกณฑ์และกติการในการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ และการจัดตั้งคณะกรรมการฝ่ายต่าง ๆ หลังจากนั้นจึงทำการประสานกับทางศาสนาพิธีสงฆ์ รวมถึงจัดหาเครื่องอัฐบริขารเพื่อใช้สำหรับการบวช สุดท้ายในพิธีพระสงฆ์ก็จะสวดมนต์ให้ชาวบ้านและต้นไม้ พร้อมกับนำจีวรมาห่มต้นไม้ การนำจีวรมาห่มต้นไม้ถือเป็นการยกระดับสถานภาพของต้นไม้ให้สูงขึ้น เปรียบได้กับการบวชพระ เมื่อต้นไม้ในพื้นที่ถูกทำพิธีจนครบพื้นที่ป่า ในบริเวณดังกล่าวก็จะกลายเป็นพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ ทำให้คนไม่กล้าที่จะเข้าไปตัดไม้ทำลายป่าในบริเวณนั้น ซึ่งเป็นผลดีต่อการปล่อยให้ต้นไม้ได้เจริญเติบโตกลายเป็นป่าต่อไป
พิธีบวชป่ายังเป็นกิจกรรมที่แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ระหว่างคนกับคน ผ่านกระบวนการก่อนที่จะทำพิธีบวชป่า ที่ต้องอาศัยการร่วมมือกันในชุมชน อย่างการกำหนดกฎเกณฑ์และกติกาในการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ หรือการจัดตั้งคณะกรรมการฝ่ายต่าง ๆ เป็นต้น กระบวนการเหล่านี้ เป็นอีกหนึ่งภาพสะท้อนชั้นดีของการกระชับความสัมพันธ์ของคนกับคนเข้าด้วยกัน ต่อเนื่องจากความสัมพันธ์ระหว่างคนกับคน ได้นำไปสู่ความสัมพันธ์ระหว่างคนและป่าไม้ ที่มีภาพสะท้อนให้เห็นถึงการพึ่งพาอาศัยและการอยู่ร่วมกันของคนและป่าไม้ เพราะฉะนั้นแล้ว มากกว่าแค่พิธีกรรมทางศาสนา พิธีบวชป่าจึงทำหน้าที่เป็นตัวผสานคนกับป่าไม้เข้าหากัน
ผู้ให้ข้อมูล องค์การบริหารส่วนตำบลดงน้อย
ข้อมูลเนื้อหา เรื่องราว เขียนโดย นางสาวศศิธร พรหนุน
ภาพถ่าย/ภาพประกอบ โดย นางสาวอังคณา บรรพระตะทิ
ข้อมูลอ้างอิง https://www.seub.or.th/bloging/into-the-wild/blessing-trees/,
https://www.facebook.com/OfficialDongnoi?locale=th_TH
ตอน ประเพณีบวชป่า
ตอน ตลาดกลางเปรย