การรับสุขที่มีต่อพระคริสต์
และการเติบโตจนสุกงอมในชีวิตของเรา
I. เพราะเห็นแก่ความยินดีที่มีอยู่ตรงหน้านั้น พระเยซูผู้ริเริ่มและผู้สำเร็จความเชื่อของเรา “ได้ทรงทนรับกางเขนและไม่ทรงเห็นว่าความละอายเป็นสิ่งสำคัญอะไร”— ฮร.12:2:
1. องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงรักคริสตจักรและสละพระองค์เองเพื่อคริสตจักร — อฟ.5:25.
2. บนกางเขนนั้น องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงถวายพระองค์เองเป็นเครื่องบูชาสำหรับความบาปมาแบกรับความบาปของคนเป็นอันมาก, ถูกทำให้กลายเป็นความบาปแทนที่ผู้เชื่อทั้งหลาย, ขับไล่เจ้าผู้ครองโลกนี้ออกไปและพิพากษาโลกนี้ อีกทั้งเป็นเมล็ดข้าวสาลีที่ตกเข้าไปในความตาย เพื่อปลดปล่อยชีวิตอันศักดิ์สิทธิ์ — ฮร.9:28; 1ปต.2:24;
2กธ.5:21; ยฮ.12:24, 31.
3. โกโลซาย 2:15 บรรยายถึงการสู้รบที่เกิดขึ้นในเวลาที่พระคริสต์ทรงตรึงตาย:
(1) ในเวลาที่พระคริสต์ทรงตรึงตายนั้น พระองค์ทรงทำการงานเพื่อสำเร็จการไถ่ ส่วนพระเจ้าพระบิดาทรงทำการงานเพื่อพิพากษาความบาป.
(2) ในเวลาเดียวกันนั้นเอง ผู้ปกครองและผู้มีอำนาจก็กำลังยุ่งกับการพยายามขัดขวางการงานของพระเจ้าและพระคริสต์ — ข้อ 15.
(3) ผู้ปกครองและผู้มีอำนาจคือทูตสวรรค์ที่ชั่วร้าย ทูตสวรรค์ที่ตกต่ำที่อยู่ใต้บังคับบัญชาของซาตานและทำงานให้กับมัน — อฟ.2:2.
(4) ในขณะที่พระเจ้าทรงพิพากษาความบาปนั้น ผู้ปกครองและผู้มีอำนาจที่ชั่วร้ายก็อยู่ที่นั่นด้วย และพวกมันกระตือรือร้นมากด้วยในการรุมล้อมพระคริสต์ผู้ถูกตรึงตาย เข้าไปบีบคั้นพระองค์อย่างใกล้ชิด — กซ.2:15:
ก. ถ้าพวกมันไม่ได้เข้าไปบีบคั้นพระองค์อย่างใกล้ชิด พระเจ้าก็ไม่สามารถถอดมันออกไปได้.
ข. ศัพท์คำว่า “ถอด” บ่งชี้ว่าผู้ปกครองและผู้มีอำนาจนั้นอยู่ใกล้ชิดมากเหมือนเสื้อผ้าที่อยู่บนร่างกายของเรา.
(5) โดยการถอดบรรดาผู้ปกครองและผู้มีอำนาจออกเสีย พระเจ้าได้ทรงประจานพวกมันอย่างเปิดเผย ทำให้พวกมันได้รับความอับอาย และทรงประกาศชัยชนะต่อพวกมันบนกางเขน — ข้อ 15.
II. ความยินดีที่มีอยู่ตรงหน้าเราคือองค์พระเยซูเจ้าผู้ทรงเป็นเจ้าบ่าวที่เสด็จมารับเจ้าสาวของพระองค์ซึ่งได้เตรียมตัวพร้อมแล้ว— วว.19:7–9:
1. การสุกงอมของเจ้าสาว — ข้อ 7–9; อฟ.4:13–15:
(1) ความพร้อมของเจ้าสาวแห่งกลุ่มชนนั้นขึ้นอยู่กับการสุกงอมในชีวิตของเหล่าผู้มีชัยชนะ — วว.19:7–9; ฮร.6:1; ฟป.3:12–15; อฟ.4:13.
(2) การเปลี่ยนแปลงคือการที่ชีวิตธรรมชาติของเราได้ถูกเปลี่ยนไปโดยระบบสิ่งใหม่ทดแทนสิ่งเก่า ส่วนการสุกงอมคือการถูกเติมเต็มด้วยชีวิตอันศักดิ์สิทธิ์ที่มาเปลี่ยนแปลงตัวเรา — ฮร.6:1.
2. การก่อสร้างของเจ้าสาว — มธ.16:18; อฟ.2:21–22; 4:15–16:
(1) การก่อสร้างของพระเจ้าคือพระทัยปรารถนาของพระเจ้าและเป้าหมายแห่งการช่วยให้รอดของพระเจ้า — 1:5; อซด.25:8; เทียบ 1:11; 40:2–3, 34–35.
(2) เป้าหมายแห่งการฟื้นฟูขององค์พระผู้เป็นเจ้าคือการฟื้นฟูพระคริสต์มาเป็นชีวิตและทุกสิ่งต่อเรา เพื่อเราจะถูกก่อสร้างขึ้น — อฟ.3:8; 4:16.
(3) การก่อสร้างของพระเจ้าคือการสำแดงแห่งกลุ่มชนของพระเจ้าตรีเอกภาพ —
1ตธ.3:15–16; ยฮ.17:22; อฟ.3:19ข, 21.
3. ความชอบธรรมของเจ้าสาว — วว.19:7–9; มธ.5:20; 22:11–13.
(1) ในฐานะความชอบธรรมทางทัศนะภายในของเรานั้น พระคริสต์ทรงเป็นผู้ที่อาศัยอยู่ในเรา เพื่อจะดำเนินชีวิตแทนเราด้วยการดำนเนชีวิตที่ให้เราได้รับการโปรดให้ชอบธรรมจากพระเจ้าและเป็นที่ยอมรับของพระเจ้าเสมอ — 5:6, 20.
(2) การดำเนินชีวิตที่ถูกต้องทั้งต่อพระเจ้าและต่อมนุษย์นั้น จำต้องให้พระเจ้าเป็นการสำแดงในชีวิตประจำวันของเรา — 2กธ.3:9; อฟ.4:24; กซ.3:10.
(3) พระคริสต์ที่ได้ดำเนินชีวิตออกจากวิสุทธิชนในฐานะความชอบธรรมทางทัศนะภายในของเขานั้นได้กลายเป็นเสื้อสำหรับงานเลี้ยงสมรสของเขา — วว.19:8.
(4) เสื้อสำหรับงานเลี้ยงสมรสใน มธ.22:11–13 เป็นเครื่องหมายเล็งถึงพระคริสต์ที่เราได้ดำเนินชีวิตออกมาและพระคริสต์ที่ได้สำแดงออกผ่านเราในชีวิตประวันของเรา กลายเป็นความชอบธรรมที่เหนือล้ำของเรา — 5:20; วว.3:4–5, 18.
4. ความงดงามของเจ้าสาว — อฟ.5:25–27:
(1) ในฐานะเจ้าสาว คริสตจักรต้องมีความงดงาม; ความงดงามในเอเฟโซบทที่ 5 มีเพื่อการถวายเจ้าสาว.
(2) ความงดงามของเจ้าสาวมาจากพระคริสต์ผู้ถูกกระทำเข้าสู่คริสตจักรและจากนั้นก็ได้สำแดงผ่านคริสตจักร — 3:17ก.
ก. ความงดงามหนึ่งเดียวของเราคือการฉายส่องพระคริสต์ออกมาจากภายในเรา.
ข. สิ่งที่พระคริสต์ทรงชื่นชมในตัวเรานั้นคือการสำแดงของตัวพระองค์เอง.
5. เอเฟโซบทที่ 6 และวิวรณ์บทที่ 19 เปิดเผยว่า คริสตจักรในฐานะเจ้าสาวยังต้องเป็นนักรบที่มาปราบศัตรูของพระเจ้าให้พ่ายแพ้ด้วย:
(1) การสู้รบฝ่ายวิญญาณเป็นเรื่องของพระกาย; เราเป็นกองทัพแห่งกลุ่มชนที่สู้รบเพื่อสิทธิประโยชน์ของพระเจ้าบนแผ่นดินโลก — 17:14; 19:14; เทียบ
2ตธ.2:4.
(2) ในเอเฟโซบทที่ 5 พระคำมีเพื่อการบำรุงเลี้ยงที่นำไปสู่การทำให้เจ้าสาวงดงาม แต่ในเอเฟโซบทที่ 6 พระคำมีเพื่อการประหาร ซึ่งทำให้คริสตจักรกลายเป็นนักรบแห่งกลุ่มชนที่สามารถเข้าร่วมในการสู้รบฝ่ายวิญญาณได้ — ข้อ 17–18.
(3) พระคริสต์จะเสด็จมาในฐานะจอมพลที่ร่วมสู้รบกับเจ้าสาวซึ่งเป็นกองทัพของพระองค์ เพื่อสู้รบกับผู้ต่อต้านพระคริสต์ที่อะระมะเฆโดน — วว.19:11–21.
(4) เสื้อสำหรับงานเลี้ยงสมรส — พระคริสต์ที่ดำเนินชีวิตออกมาจากเรา ในฐานะที่เป็นความชอบธรรมในแต่ละวันของเรา — ไม่เพียงทำให้เรามีคุณสมบัติที่จะเข้าร่วมงานเลี้ยงสมรสเท่านั้น แต่ยังมีคุณสมบัติที่จะร่วมกองทัพเพื่อสู้รบกับผู้ต่อต้านพระคริสต์ร่วมกับพระคริสต์ในสงครามที่อะระมะเฆโดน — มธ.22:11–12; วว.19:7–8, 14.
III. “ความยินดีของพระยะโฮวาเป็นกำลังของท่าน” — นฮย.8:10ค:
1. ถ้าพิจารณาตาม นฮย.8:10 ความยินดีขององค์พระผู้เป็นเจ้าของเรานั้นเป็นกำลังของเรา:
(1) นี่ไม่ใช่เรื่องของการที่เรามีกำลัง ทว่าความยินดีของพระองค์ค้ำจุนเราไว้ — 1ธซ.5:16.
(2) ความยินดีขององค์พระผู้เป็นเจ้าไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆ กับสภาวะแวดล้อม; พระองค์ทรงชื่นชมยินดีในน้ำพระทัยของพระเจ้า; ในการรู้จักและกระทำตามน้ำพระทัยของพระเจ้านั้นมีความยินดี.
(3) เราไม่ควรพยายามลอกเลียนแบบองค์พระผู้เป็นเจ้า แต่ควรต้อนรับความยินดีขององค์พระผู้เป็นเจ้า:
ก. เราสามารถมีบางสิ่งขององค์พระผู้เป็นเจ้าแจกปันเข้าสู่เรา.
ข. เราสามารถมีความยินดีขององค์พระผู้เป็นเจ้า; ความยินดีของพระองค์จะเป็นกำลังของเรา.
2. ช่วงบั้นปลายชีวิตของวอท์ชแมน นี เขากล่าวไว้ว่า ในท่ามกลางการทนทุกข์ของเขานั้น “ข้าพเจ้าคงไว้ซึ่งความยินดีของข้าพเจ้า” — Watchman Nee—a Seer of the Divine Revelation in the Present Age, p. 182
3. “ข้าพเจ้าคงไว้ซึ่งความยินดีของข้าพเจ้า” บ่งชี้ว่าเขามีภาคปฏิบัติตามถ้อยคำของเปาโลใน ฟป.4:4 ที่กล่าวว่า “จงชื่นชมยินดีในองค์พระผู้เป็นเจ้าเสมอ.”
4. โดยพระเมตตาและพระคุณของพระเจ้า ขอให้เราทุกคนสามารถคงไว้ซึ่งความยินดีของเราโดยให้ความยินดีขององค์พระผู้เป็นเจ้ามาเป็นกำลังของเรา.