เนื้อหาข่าวสารออนไลน์
(เฉพาะตอน)
หนังสือแบบเรียนชีวิต เล่ม 4
(เฉพาะตอน)
หนังสือแบบเรียนชีวิต เล่ม 4
ในความรอดที่ครบสมบูรณ์ของพระเจ้า เมื่อเราได้เชื่อเข้าสู่พระคริสต์ เราก็ได้ประสบการณ์ถึงการอภัยบาปและการชำระบาป การระงับพระพิโรธและคืนดี การแบ่งแยกบริสุทธิ์และการโปรดให้ชอบธรรม เช่นนี้เราก็จะได้รับการบังเกิดใหม่ทันที. ประสบการณ์ 6 ขั้นตอนที่กล่าวมาข้างต้นล้วนอยู่ในด้านการไถ่แห่งความรอดที่ครบสมบูรณ์ของพระเจ้า. การบังเกิดใหม่เป็นด้านของชีวิตในความรอดที่ครบสมบูรณ์ของพระเจ้า และเป็นการเริ่มต้นในด้านของชีวิตนี้. ฉะนั้นสิ่งนี้จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการรับสุขความรอดที่ครบสมบูรณ์ของพระเจ้า และมีส่วนเกี่ยวข้องถึงการดำเนินชีวิตและการงานในโลกทุกวันนี้ ภายหลังที่เราเชื่อเข้าสู่พระคริสต์และได้รับความรอด อีกทั้งเกี่ยวข้องถึงผลลัพธ์ในโลกหน้าและโลกนิรันดร์.
1. ความต้องการของการบังเกิดใหม่
(1) “เรา (พระเยซู) บอกท่าน (นิโกเดโมผู้แสวงหาในการทำดี) ว่า ท่านทั้งหลายต้องบังเกิดใหม่.” (ยฮ.3:7)
มนุษย์ทุกคนล้วนยินดีที่จะทำดี และคิดที่จะทำดี อีกทั้งนึกว่าสิ่งที่มนุษย์ต้องการก็คือกระทำการดี มีศีลธรรม แต่ไม่เคยคิดว่ามนุษย์ต้องเกิดใหม่อีกครั้งหนึ่ง ต้องได้รับอีกชีวิตหนึ่ง. ฉะนั้นพระเยซูจึงตรัสแก่นิโกเดโมผู้แสวงหาในการทำดีว่า ท่านต้องบังเกิดใหม่. นิโกเดโมอาจเป็นตัวแทนของมนุษย์ทุกคนที่คิดจะทำดีซึ่งหารู้ไม่ว่าสิ่งที่มนุษย์ต้องการคืออะไร มีเพียงพระเจ้าและพระเยซูทรงทราบ ความคิดนี้คือการบังเกิดใหม่.
ก. เพราะเหตุมนุษย์เป็นอยู่ฝ่ายเนื้อหนัง
(ก) พระเยซูตรัสว่า “ซึ่งบังเกิดจากเนื้อหนังก็เป็นเนื้อหนัง.” (ยฮ.3:6)
มนุษย์ต้องการบังเกิดใหม่ เพราะมนุษย์บังเกิดจากเนื้อหนังและเป็นของฝ่ายเนื้อหนัง. สิ่งซึ่งบังเกิดจากเนื้อหนัง เป็นของฝ่ายเนื้อหนังก็คือเนื้อหนัง. เนื้อหนังไม่นอบน้อมต่อกฎบัญญัติของพระเจ้า และก็ไม่สามารถนอบน้อมยิ่งกว่านั้นยังไม่อาจเป็นที่ชอบพระทัยของพระเจ้า (รม.8:7–8). มนุษย์ฝ่ายเนื้อหนังได้บังเกิดในความบาป (บพส.51:5) มาจากบาปและขายแก่ความบาป (รม.7:14) เป็นของฝ่ายความบาปได้ตัดขาดจากชีวิตของพระเจ้า (อฟ.4:18) ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับพระเจ้า. มนุษย์ฝ่ายเนื้อหนังไม่ว่าจะถูกมองเป็นดีหรือชั่วทุกสิ่งที่มีอยู่นั้นก็ยังคงเป็นชีวิตแห่งเนื้อหนังของมนุษย์ ไม่ใช่ชีวิตของพระเจ้า. ฉะนั้นมนุษย์จึงต้องบังเกิดใหม่เพื่อจะได้รับชีวิตของพระเจ้า.
ข. เพื่อเข้าสู่อาณาจักรของพระเจ้า
(ก) “พระเยซูทรงตอบเขาว่า เราบอกท่านจริงๆ ว่า ถ้าผู้ใดไม่ได้บังเกิดใหม่ ผู้นั้นจะเห็นอาณาจักรของพระเจ้าไม่ได้.”, “ถ้าผู้ใดไม่ได้บังเกิดจากน้ำและพระวิญญาณเขาจะเข้าสู่อาณาจักรของพระเจ้าไม่ได้.” (ยฮ.3:3, 5)
มนุษย์ต้องบังเกิดใหม่ก็เพื่อจะเข้าสู่อาณาจักรของพระเจ้า. เพราะถ้ามนุษย์ไม่ได้บังเกิดใหม่จะเห็นอาณาจักรของพระเจ้าไม่ได้ และไม่อาจเข้าสู่อาณาจักรของพระเจ้า. อาณาจักรของพระเจ้าเป็นของฝ่ายวิญญาณ การมองเห็นอาณาจักรฝ่ายวิญญาณของพระเจ้าก็เท่ากับเข้าสู่อาณาจักรของพระเจ้า. การบังเกิดใหม่เป็นประตูทางเข้าหนึ่งเดียวแห่งการเข้าสู่อาณาจักรของพระเจ้า. อาณาจักรของพระเจ้าก็คืออาณาบริเวณแห่งสิ่งที่พระเจ้าทรงเป็น เช่นดังอาณาจักรของพืชก็คืออาณาบริเวณแห่งสิ่งที่พืชได้เป็นนั้น และอาณาจักรของสัตว์ก็คืออาณาบริเวณแห่งสิ่งที่สัตว์ได้เป็นนั้น. ถ้าไม่มีพืชก็จะไม่มีอาณาจักรของพืช ถ้าไม่มีสัตว์ก็จะไม่มีอาณาจักรของสัตว์. สิ่งที่มนุษย์เป็นกับสิ่งที่พระเจ้าทรงเป็นแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ซึ่งอยู่ในอาณาบริเวณสองแห่งที่แตกต่างกัน และในอาณาจักรที่แตกต่างกันสองแห่ง. ถ้าเราต้องการเข้าสู่อาณาจักรของมนุษย์ ก็จำต้องบังเกิดจากมนุษย์ มีชีวิตของมนุษย์ ทำนองเดียวกัน ถ้าต้องการเข้าสู่อาณาจักรของพระเจ้าก็จำต้องบังเกิดจากพระเจ้าและมีชีวิตของพระองค์. ดังนั้นมนุษย์จำต้องบังเกิดจากพระเจ้า นั่นก็คือบังเกิดใหม่เพื่อจะได้รับชีวิตของพระเจ้า และสามารถเข้าสู่อาณาจักรของพระเจ้า.
2. ความหมายของการบังเกิดใหม่
(1) “นิโกเดโมทูลพระองค์ว่า คนชราแล้วจะบังเกิดใหม่อย่างไรได้? จะเข้าในครรภ์มารดาครั้งที่สองและบังเกิดใหม่ได้หรือ?” (ยฮ.3:4)
ความหมายตามตัวอักษรของคำว่า “บังเกิดใหม่” ก็คือเกิดอีกครั้งหนึ่ง. ฉะนั้นในวันนั้นนิโกเดโมจึงเข้าใจว่าต้องเข้าไปในครรภ์มารดาแล้วเกิดออกมาอีกครั้งหนึ่ง.แม้เขาจะเข้าใจถูกต้องถึงคำว่า “บังเกิดใหม่” ตามตัวอักษรแล้ว แต่เขาเข้าใจผิดถึงความหมายของการบังเกิดใหม่. คำว่า “บังเกิดใหม่” ตามตัวอักษรแม้จะหมายถึงเกิดอีกครั้งหนึ่ง แต่ความหมายของการบังเกิดใหม่ไม่ใช่เข้าไปในครรภ์มารดาแล้วเกิดออกมาอีกครั้งหนึ่ง.
ก. การบังเกิดใหม่คือบังเกิดจากพระเจ้า
(ก) “ที่มิได้เกิดจากเลือดหรือจากความประสงค์ของเนื้อหนัง หรือจากความประสงค์ของมนุษย์ แต่เกิดจากพระเจ้า.” (ยฮ.1:13)
การบังเกิดใหม่ไม่ใช่บังเกิดจากเลือด (ชีวิตแห่งเนื้อหนังของมนุษย์) ไม่ใช่บังเกิดจากความประสงค์ของเนื้อหนัง (ความตั้งใจของมนุษย์ที่ตกต่ำจนกลายเป็นเนื้อหนัง) และก็ไม่ใช่บังเกิดจากความประสงค์ของมนุษย์ (ความตั้งใจแห่งมนุษย์ที่พระเจ้าทรงสร้าง) แต่บังเกิดจากพระเจ้า เพื่อมนุษย์จะได้รับชีวิตฝ่ายวิญญาณของพระเจ้า. ฉะนั้นมนุษย์ที่บังเกิดใหม่ก็คือมนุษย์ที่ได้รับชีวิตของพระเจ้านอกเหนือจากชีวิตที่มนุษย์มีมาแต่เดิมนั้น.
ข. การบังเกิดใหม่คือบังเกิดจากเบื้องบน
(ก) “ถ้าผู้ใดไม่ได้บังเกิดใหม่ผู้นั้นจะเห็นอาณาจักรของพระเจ้าไม่ได้.” (ยฮ.3:3)
ศัพท์คำว่า “ใหม่” มาจากคำว่า “บังเกิดใหม่” ในภาษาเดิมเหมือนกับคำว่า “จากเบื้องบน” ในโยฮัน 3:31 ฉะนั้นบังเกิดใหม่จึงมีความหมายถึงบังเกิดจากเบื้องบน. ครั้งแรกที่เราเกิดจากบิดามารดาเป็นการบังเกิดจากแผ่นดินโลก อันเป็นการบังเกิดจากเบื้องล่าง ชีวิตแห่งเนื้อหนังของมนุษย์ที่ได้รับมานั้นก็มาจากแผ่นดินโลกและเป็นของแผ่นดินโลก. แต่การบังเกิดครั้งที่สองจากพระเจ้าก็คือการบังเกิดใหม่อันเป็นการบังเกิดจากเบื้องบนหรือบังเกิดจากสวรรค์และชีวิตฝ่ายวิญญาณของพระเจ้าที่ได้รับมานั้นมาจากสวรรค์ และเป็นของฝ่ายสวรรค์. ฉะนั้นการบังเกิดใหม่ก็คือบังเกิดจากเบื้องบน เพื่อให้มนุษย์ได้รับชีวิตฝ่ายสวรรค์ของพระเจ้า.
ค. การบังเกิดใหม่ก็เป็นการบังเกิดจากน้ำและพระวิญญาณ
(ก) “ถ้าผู้ใดไม่ได้บังเกิดจากน้ำและพระวิญญาณ เขาจะเข้าสู่อาณาจักรของพระเจ้าไม่ได้.” (ยฮ.3:5)
คำว่า “บังเกิดจากน้ำและพระวิญญาณ” ที่พระเยซูได้กล่าวในที่นี้เล็งถึงการบังเกิดใหม่โดยน้ำแห่งบัพติศมาที่โยฮันผู้ให้บัพติศมาได้ประกาศกับพระวิญญาณบริสุทธิ์ที่พระเยซูได้ประทานนั้น. น้ำแห่งการรับบัพติศมาเล็งถึงการตายเป็นการฝัง ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งการตายและการฝังของพระคริสต์เพื่อที่จะสิ้นสุด บุคคลที่กลับใจและเชื่อ. พระวิญญาณก็คือพระวิญญาณบริสุทธิ์ ซึ่งเป็นพระวิญญาณแห่งชีวิตและการเป็นขึ้นเพื่อให้ผู้เชื่อมีส่วนในการเป็นขึ้นของพระคริสต์และให้คนที่ถูกสิ้นสุดนั้นได้มีการเริ่มต้นแห่งชีวิตใหม่. โดยการรับบัพติศมาในน้ำและในพระวิญญาณนี้ ผู้ที่เชื่อเข้าสู่พระคริสต์ก็จะได้รับการบังเกิดใหม่ หลุดพ้นจากสิ่งเก่าแก่ทุกอย่างของมนุษย์และเข้าสู่อาณาจักรของพระเจ้า นั่นก็คืออาณาบริเวณแห่งชีวิตอันศักดิ์สิทธิ์กับการปกครองอันศักดิ์สิทธิ์ เพื่อให้เขาอยู่ในอาณาจักรที่นิรันดร์ของพระเจ้าและเป็นอยู่โดยชีวิตนิรันดร์ของพระเจ้า.
ง. พระวิญญาณเกิดวิญญาณ
(ก) “ซึ่งบังเกิดจากพระวิญญาณนั้นก็เป็นวิญญาณ.” (ยฮ.3:6)
การบังเกิดใหม่ยังคือวิญญาณของเราบังเกิดจากพระวิญญาณของพระเจ้าและก็คือพระวิญญาณของพระเจ้า อาศัยชีวิตของพระเจ้ามาบังเกิดใหม่ซึ่งวิญญาณของมนุษย์. เมื่อเราเชื่อเข้าสู่พระคริสต์และได้รับการบังเกิดใหม่ พระวิญญาณของพระเจ้าก็ได้นำเอาชีวิตของพระเจ้าซึ่งก็คือปัจจัยของพระเจ้าแจกจ่ายเข้าสู่วิญญาณของเราเพื่อให้วิญญาณของเราเป็นขึ้นกลายเป็นวิญญาณใหม่ (ยอค.36:26).
3. สื่อกลางแห่งการบังเกิดใหม่
(1) โดยการเป็นขึ้นของพระคริสต์—พระเจ้าพระบิดา “ผู้ทรงให้เราบังเกิดใหม่... โดยการเป็นขึ้นมาจากท่ามกลางคนตายของพระเยซูคริสต์.” (1ปต.1:3)
พระเจ้าทรงโปรดให้เราบังเกิดใหม่ โดยมีเงื่อนไขประการแรกนั่นก็คือการเป็นขึ้นของพระคริสต์. ในขณะที่พระคริสต์ทรงเป็นขึ้น เราทั้งหลายผู้เชื่อในพระองค์ล้วนครอบคลุมอยู่ในพระองค์ก็ร่วมเป็นขึ้นกับพระองค์ (อฟ.2:6). การเป็นขึ้นของพระองค์นี้ได้แจกจ่ายชีวิตของพระเจ้าเข้าสู่ภายในเรา และอาศัยชีวิตนี้ชุบชีพของเรา เพื่อให้เราได้รับชีวิตของพระเจ้าและเข้าสนิทกับพระเจ้าทางอินทรียภาพ. ฉะนั้นพระเจ้าจึงทรงโปรดให้เราบังเกิดใหม่โดยการเป็นขึ้นของพระองค์.
(2) โดยการงานของพระวิญญาณบริสุทธิ์ “เมื่อพระองค์ (พระวิญญาณบริสุทธิ์) นั้นมาแล้ว พระองค์จะทรงทำให้มนุษย์โลกรู้สึกติเตียนตัวเองเพราะเหตุความบาป ความชอบธรรมและการพิพากษา.” “ที่บังเกิดจากพระวิญญาณนั้น.” (ยฮ.16:8; 3:8)
สื่อกลางประการที่ 2 ที่พระเจ้าโปรดให้เราบังเกิดใหม่ก็คือการงานของพระวิญญาณบริสุทธิ์. ก่อนอื่นพระวิญญาณได้บันดาลให้เรารู้สึกถึงความผิดและติเตียนตัวเองเพราะเหตุความบาป ความชอบธรรมและการพิพากษา นั่นก็คือให้เรากลับใจและเชื่อ. เมื่อเราได้กลับใจและเชื่อแล้ว พระองค์ก็จะนำชีวิตของพระเจ้าประทานเข้าสู่ในวิญญาณของเราเพื่อให้เราได้รับและได้บังเกิดใหม่.
(3) โดยพระคำของพระเจ้า “ด้วยว่าท่านทั้งหลายได้บังเกิดใหม่ ไม่ใช่จากเมล็ดพันธุ์ที่จะเสื่อมสลายเสียได้ แต่จากเมล็ดพันธุ์ที่ไม่เสื่อมสลาย คือด้วยพระคำที่มีชีวิตและตั้งดำรงอยู่เสมอของพระเจ้า.” (1ปต.1:23)
สื่อกลางประการที่ 3 ที่พระเจ้าโปรดให้เราบังเกิดใหม่ ก็คือพระคำแห่งชีวิตของพระองค์และก็คือพระคำในพระคัมภีร์. พระคำของพระเจ้าในพระคัมภีร์มีชีวิตของพระเจ้า. เราเชื่อกิตติคุณก็คือเชื่อพระคำแห่งชีวิตของพระเจ้า (ยฮ.5:24). เมื่อเราได้ต้อนรับพระคำแห่งกิตติคุณโดยความเชื่อ พระคำนี้ก็ได้นำเอาชีวิตของพระเจ้าที่เป็นประดุจเมล็ดพันธุ์แห่งชีวิตหว่านปลูกในเรา (1ยฮ.3:9). ฉะนั้นพระเจ้าทรงโปรดให้เราบังเกิดใหม่ โดยพระคำแห่งหลักความจริงของพระองค์ (ยก.1:18).
(4) เพราะความเชื่อของมนุษย์ “เชื่อเข้าสู่พระนามของพระองค์…เกิดจากพระเจ้า.” (ยฮ.1:12–13)
สื่อกลางสุดท้ายที่พระเจ้าทรงโปรดให้เราบังเกิดใหม่ก็คือความเชื่อของเรา. การเป็นขึ้นของพระคริสต์ได้สำเร็จเป็นจริงแห่งการบังเกิดใหม่เพื่อเรา การงานของพระวิญญาณบริสุทธิ์ได้นำเอาความเป็นจริงเหล่านี้ปฏิบัติการเข้าสู่ตัวของเรา พระคำของพระเจ้าได้ประสานร่วมกับพระวิญญาณของพระเจ้า นำเอาความจริงนี้วางอยู่เบื้องหน้าของเรา และยังต้องอาศัยความเชื่อของเรามาต้อนรับความจริงนี้. ฉะนั้นเราจำต้องเชื่อเข้าสู่พระคริสต์ตามพระคำของพระเจ้า เราจึงจะได้รับการบังเกิดใหม่.
4. ผลลัพธ์แห่งการบังเกิดใหม่
(1) ได้รับชีวิตนิรันดร์ของพระเจ้า “เพื่อทุกคนที่เชื่อเข้าสู่พระบุตรนั้น (พระคริสต์)…มีชีวิตนิรันดร์.” (ยฮ.3:16)
ชีวิตนิรันดร์ก็คือชีวิตของพระเจ้าเอง และก็คือตัวของพระเจ้าทรงเป็นชีวิต พระนิสัยของพระเจ้ากับความสามารถทั้งสิ้นในพระองค์ล้วนขึ้นอยู่กับชีวิต. ทันทีที่เราบังเกิดใหม่เราก็ได้รับชีวิตนิรันดร์รวมทั้งปัจจัยและความสามารถทั้งสิ้นของชีวิตนี้.
(2) กลายเป็นบุตรของพระเจ้า “พระองค์ (พระคริสต์) ทรงโปรดประทานอำนาจให้เป็นบุตรของพระเจ้าได้ คือคนทั้งหลายที่ได้เชื่อเข้าสู่พระนามของพระองค์ (พระคริสต์). …เกิดจากพระเจ้า.” (ยฮ.1:12–13)
ในเมื่อการบังเกิดใหม่ทำให้เราได้รับชีวิตของพระเจ้า ก็ย่อมทำให้เรากลายเป็นบุตรของพระเจ้า. ชีวิตของพระเจ้าก็คืออำนาจที่จะทำให้เรากลายเป็นบุตรของพระเจ้า.
(3) กลายเป็นผลสุกงอมรุ่นแรกแห่งการสร้างใหม่ของพระเจ้า “พระองค์ (พระเจ้า)…ทรงให้กำเนิดแก่เราทั้งหลาย…เพื่อเราทั้งหลายจะได้เป็นผลสุกงอมรุ่นแรกในท่ามกลางสรรพสิ่งที่พระองค์ทรงสร้างนั้น.” (ยก.1:18)
การบังเกิดใหม่ยังทำให้เราได้กลายเป็นผลสุกงอมรุ่นแรกแห่งสิ่งทรงสร้างใหม่ในท่ามกลางสรรพสิ่งที่พระองค์ทรงสร้างนั้น ซึ่งมีชีวิตที่สุกงอมรุ่นแรกของพระองค์และสำเร็จพระดำรินิรันดร์ของพระองค์.
(4) มีความหวังอันมีชีวิต “ผู้ทรงให้เราบังเกิดใหม่ตามพระเมตตาอันยิ่งใหญ่ของพระองค์ให้เข้าสู่ความหวังอันมีชีวิตอยู่.” (1ปต.1:3)
เมื่อการบังเกิดใหม่ทำให้เราได้รับชีวิตของพระเจ้า ก็ย่อมให้เรามีความหวังอันมีชีวิต เช่นดังการเติบโตของชีวิต ปรากฏออกซึ่งของประทานสามารถใช้งาน เปลี่ยนแปลง และได้รับราศี เป็นต้น และยังเหมือนกับชีวิตของเด็กทารกที่เกิดมาใหม่ๆ นั้น ก็ได้นำมาซึ่งความหวังแห่งชีวิต เช่น มีการเติบโต สุกงอม มีอาชีพ และมีครอบครัว เป็นต้น.
ข้อความเนื้อหาทั้งหมดคัดลอกมาจาก หนังสือแบบเรียนชีวิต เล่ม 4 เนื้อหาทั้งหมดเป็นลิขสิทธิ์ของ ห้องสมุดกิดตติคุณแห่งประเทศไทย โทร 0 27465778-9
Email : gbr.thailand@gmail.com
FB : ThegospelbookroomThailand
Line: @gospelbookroom
พระคริสต์เป็นชีวิตข้า ดำรงอยู่ภายใน
นำสมบูรณ์พระเจ้ามา เติมเต็มข้ามิวาย
พระวิสัยบริสุทธิ์ ให้ข้ากลายวิสุทธิ์
ฤทธิ์เดชทรงเป็นขึ้นใหม่ ให้ข้าได้มีชัย
ชีวิตพระองค์หลั่งไหล ข้าได้รับแสงฉายสามัคคีธรรมทุกครั้ง อยู่ในแสงสว่างให้การหล่อเลี้ยงอนันต์ และข้อเรียกร้องนั้นชำระข้าได้ถ้วนถี่ รับสุขสิ่งทรงมี
พระวิญญาณดำเนินนั้น เหมือนชโลมน้ำมันความคิดจิตและวิญญาณ พระองค์ซึมซาบผ่าน
ให้ข้าเปลี่ยนแปลงทั่วกาย กลายเป็นแบบพระฉายจวบจนสุกงอมเติบใหญ่ เต็มขนาดทรงชัย
ส่วนแห่งชีวิตองค์ท่าน เป็นความสมบูรณ์ข้า
ให้ข้าชุ่มชื่นเบิกบาน และฟื้นชื่นขึ้นมา
ชีวิตกลืนกินความตาย อ่อนแอกลับมั่นคง
ปลดปล่อยผูกมัดทั้งหลาย ตกต่ำกลับสูงส่ง
เหตุนี้จึงนำตัวข้า มอบถวายทั้งกายสามัคคีธรรมทุกครา ดำเนินตามพระทัยไม่ขอดิ้นรนตั้งใจ ปรับปรุงตัวแก้ไข
พระองค์ถูกขัดขวาง ไว้ไร้ประโยชน์อันใด
แต่คือหยุดความมานะ พยายามมากมาย
ให้ทรงดำเนินเปลี่ยนข้า ตัวข้าหลุดพ้นไป
ร่วมวิสุทธิ์ชนประสาน เป็นพระกายองค์ท่าน
ให้ทรงพักพิงอาศัย สำแดงองค์ทรงชัย
ราศี ราศี พระคริสต์เป็นชีวา
ราศี ราศี พระวิญญาณนำพา
มืดมนกลับสว่างแจ้งอ่อนแอกลับมีฤทธิ์
ราศี ราศี พระคริสต์เป็นชีวิต
ราศี ราศี เป็นอยู่โดยองค์ท่าน
ราศี ราศี ดำเนินตามวิญญาณ
ถอนใจกลับสรรเสริญได้พ่ายแพ้กลับพิชิต
ราศี ราศี เป็นอยู่โดยพระคริสต์