คำราชาศัพท์
ความหมายของราชาศัพท์
ราชาศัพท์ หมายถึง คำที่ใช้กับพระมหากษัตริย์และพระบรมวงศานุวงศ์ ต่อมารวมไปถึงคำที่ใช้กับพระภิกษุ ข้าราชการและสุภาพชนด้วย
มีการใช้โดยแบ่งระดับการใช้ตามลำดับขั้นไว้ดังนี้
๑.พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
๒.สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ, สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ
๓.สมเด็จเจ้าฟ้า
๔.พระองค์เจ้า
๕.หม่อมเจ้า
การสร้างคำนามใช้คำว่า “พระบรม” “พระราช” “พระ”
๑. “พระบรม” ใช้เฉพาะพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เช่น พระบรมราโชวาท พระบรมราชานุเคราะห์
๒. “พระราช” ใช้นำหน้าคำนาม แสดงว่าคำนามนั้นเป็นของ พระมหากษัตริย์ สมเด็จพระบรมราชินี สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ เช่น พระราชประวัติ พระราชานุญาต พระราชวโรกาส เป็นต้น
๓. “พระ” ใช้นำหน้าคำนามที่เป็นอวัยวะ ของใช้ เช่น พระหัตถ์ พระมาลา พระขนง
เป็นต้น
การสร้างคำกริยาใช้คำว่า “ทรงพระราช,ทรงพระ,ทรง”
๑. “ทรงพระราช” ใช้สำหรับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เช่น ทรงพระราชสมภพ (เกิด) ทรงพระราชดำริ (คิด) ทรงพระราชนิพนธ์ (แต่ง)
๒. “ทรงพระ” ใช้กับสมเด็จพระบรมราชินี สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ เช่น พระราชสมภพ (เกิด) ทรงพระดำริ (คิด) ทรงพระนิพนธ์ (แต่ง)
๓. “ทรง” ใช้กับสมเด็จเจ้าฟ้า,พระองค์เจ้า,หม่อมเจ้า เช่น ทรงดำริ ทรงนิพนธ์
การใช้คำว่า “ทรง” มีหลัก ๔ ประการ คือ
๑. ทรง + กริยาธรรมดาได้ เช่น ทรงขอ,ทรงตัดสิน,ทรงเดิน
๒. ทรง + กริยาราชาศัพท์ไม่ได้ เช่น ทรงโปรด,ทรงเสวย,ทรงประชวร
๓. ทรง + นามธรรมดาได้ เช่น ทรงช้า , ทรงม้า
๔. ทรง + นามราชาศัพท์ได้ เช่น ทรงพระประชวร,ทรงพระราชดำเนิน
คำกริยาที่เป็นราชาศัพท์อยู่แล้ว ไม่ใช่ทรงนำหน้า เช่น เสวย เสด็จ โปรด เป็นต้น
การใช้คำว่า “ทรงมี,ทรงเป็น” มีหลักการสังเกต ๓ ประการ คือ
๑. ทรงมี,ทรงเป็น + คำสามัญได้ เช่น ทรงเป็นประธาน
๒. ทรงมี,ทรงเป็น + ราชาศัพท์ไม่ได้ เช่น ทรงเป็นองค์ประธาน
๓. มี,เป็น + ราชาศัพท์ได้ เช่น เป็นองค์ประธาน
การถวายสิ่งของแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ถ้าเป็นของเล็กยกได้ ก็ใช้ “ทูลเกล้าฯ ถวาย”
ถ้าเป็นของใหญ่ยกไม่ได้ใช้ “น้อมเกล้า ฯ ถวาย”
ราชาศัพท์สำหรับพระสงฆ์
คำที่บุคคลสามัญใช้กับพระสงฆ์ ได้แก่ นิมนต์ (เชิญ) ถวาย (ให้) ถวายภัตตาหาร (ให้อาหาร) นมัสการ (กราบไหว้) ประเคน (ยกของให้พระ) ฉัน (กิน) อาพาธ (ป่วย) จำวัด (นอน) อนุโมทนา (ยินดีด้วย)
ถ้อยคำสุภาพสำหรับสุภาพชน
การใช้ถ้อยคำที่สุภาพเหมาะสมแก่ฐานะและกาลเทศะสำหรับสุภาพชนทั่วไปจะช่วยสร้างเสริมสัมพันธภาพของมนุษย์ให้อยู่ร่วมกันอย่างเป็นปกติสุข ทำให้การดำเนินกิจการต่างๆ บรรลุผลดี และแสดงให้เห็นว่าเป็นผู้มีวัฒนธรรมดีงามด้วย ซึ่งพอสรุปได้ดังนี้
๑. คำห้วนหรือคำกระด้าง เช่น เออ วะ โว้ย หือ หา ไม่ควรใช้
ตัวอย่าง
- ดำทำไมแกมาช้าจังวะ ปล่อยให้คอยตั้งนานหา
- กล่องอะไรหนักจังโว้ย เออวางไว้นั่นแหละ
๒. คำหยาบคายไม่ควรใช้เลย ซึ่งนิยมใช้กันในหมู่เพื่อนสนิท เพราะจะทำให้ติดเป็นนิสัย
๓. คำคะนองหรือคำสแลง หมายถึงคำที่นิยมใช้กันเป็นพัก ๆ แต่บางคำก็อาจใช้กันอยู่นาน เช่น จ๊าบ โก๊ะ ซ่าส์ ฯลฯ ควรหลีกเลี่ยงเมื่อจะใช้เป็นภาษามาตรฐานเกี่ยวกับธุรกิจการงานต่าง ๆคำไม่ควรใช้ มีคำจำนวนหนึ่งไม่ควรใช้เมื่อต้องการความสุภาพในกรณีการพูดต่อที่ประชุม หรือพูดกับผู้ใหญ่ หรือผู้ที่ไม่คุ้นเคย เช่น กิน (ใช้รับประทาน) หัว (ใช้ศีรษะ) เกือก (ใช้รองเท้า) รู้ (ใช้ทราบ) ผัว เมีย (ใช้สามีภรรยา) ฯลฯ