สาระที่ 4 เทคโนโลยี
มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงคำนวณในการแก้ปัญหาที่พบในชีวิตจริงอย่างเป็นขั้นตอนและเป็นระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้ การทำงาน และการแก้ปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ รู้เท่าทัน และมีจริยธรรม
ว 4.2 ป.4/3 ใช้อินเทอร์เน็ตค้นหาความรู้ และประเมินความน่าเชื่อถือของข้อมูล
แบบทดสอบก่อนเรียน
แบบทดสอบหลังเรียน
การใช้งานอินเทอร์เน็ต
อินเทอร์เน็ต (Internet) คือ เครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมต่อกันจำนวนมากและครอบคลุมไปทั่วโลก เครือข่ายนี้เชื่อมหากันภายใต้
กฎเกณฑ์ที่เป็นมาตรฐานเดียวกัน ทำให้สามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลและส่งผ่านข้อมูลระหว่างกันได้
ไปรษณีอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Mail : E-mail) เป็นการบริการรับ-ส่งจดหมาย และแนบไฟล์ภาพหรือเอกสารผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตที่รวดเร็ว สามารถติดต่อกันได้ทั่วโลก โดยผู้ใช้งานจะต้องมีที่อยู่อีเมล (E-mail Address)
การสนทนาผ่านเครือข่าย (Chat) เป็นบริการเพื่อสนทนาแลกเปลี่ยนข้อมูลความคิดเห็น ซึ่งสนทนาผ่านการพิมพ์ข้อความรับ-ส่งแฟ้มข้อมูล สนทนาด้วยเสียง และติดตั้งกล้องเว็บแคม เพื่อให้เห็นภาพคู่สนทนาด้วย
เวิลด์ไวด์เว็บ (Worl-Wide-Web : WWW) เป็นบริการเครืองข่ายที่เชื่อมโยงแหล่งข้อมูลข่าวสารเข้าหากันและครอบคลุมทั่วโลก ลักษณะของข้อมูลที่สืบค้นได้จะเป็นเอกสารไฮเปอร์ลิงก์ที่สร้างด้วยภาษาแอซทีเอ็มแอล (HTML) การเข้าถึงข้อมูลแต่ละแห่งจะเข้าไปยังโฮมเพจ (Homepage) และจะเชื่อมต่อไปยังเว็บเพจ (Webpage) อื่นๆ ได้อีก
การถ่ายโอนข้อมูล (File Tranfer protocol : FTP) เป็นบริการถ่ายโอนแฟ้มข้อมูลข่าวสาร บทความจากคอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่งไปสู่อีกเครื่องหนึ่ง การโอนย้ายแฟ้มข้อมูลจากคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นมาลงในเครื่องคอมพิวเตอร์ของเราเรียกว่า การดาวน์โหลด (Download) ส่วนการนำแฟ้มข้อมูลจากเครื่องคอมพิวเตอร์ของเราไปไว้ยังเครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องอื่น เรียกว่า การอับโหลด (Upload)
ชุมชนออนไลน์ เป็นบริการเครือข่ายที่ผู้ใช้สามารส่งข้อความถึงกัน ติดต่อสื่อสารกับกลุ่มเพื่อน แลกเปลี่ยนประสบการณ์ และรูปภาพกันได้ เช่น เฟซบุ๊ก (Facebook) ทวิตเตอร์ (Twitter)หรือ เอกซ์ X อินสตาร์แกรม (Instagram) เธร์ด (Theads) เป็นต้น
รูปแบบการสืบค้นข้อมูลความรู้
1.การสืบค้นในรูปแบบ IndexDirectory
2. การสืบค้นในรูปแบบ Search Engine
การค้นหาข้อมูล โดยการคลิกเลือกข้อมูลที่ต้องการจะดูในเว็บเบราเซอร์ (Web Browser) จากนั้นหน้าจอก็จะแสดงรายละเอียดของหัวข้อปลีกย่อยมาให้เลือก
การค้นหาข้อมูลผ่านเว็บไซต์ในอินเทอร์เน็ต โดยใช้ซอฟต์แวร์ ค้นผ่านเว็บ ลักษณะของ Search Engine การใช้งานจะต้องพิมพ์ คำค้น (Keyword) จากนั้น Search Engine จะแสดงข้อมูลและเว็บไซต์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง
การใช้งานเว็บ Search Enging มีขั้นตอน ดังนี้
1.เปิดเว็บเบราเซอร์โครม (Chrome) และป้อน www.google.co.th ที่ช่องที่อยู่เว็บ แล้วกดแป้น Enter จะปรากฎหน้าต่างเว็บเสิร์ชเอ็นจิน google
2.ป้อนคำที่ช่องกลางหน้าจอ และคลิกค้นหาด้วย Google หรือกดแป้น Enter
3.กำหนดคำค้นให้สืบค้นเจาะจงประเภทของไฟล์ข้อมูล (File Type) และนามสกุลของไฟล์ข้อมูลที่ต้องการ ดังนี้
File Type : นามสกุลหรือประเภทของไฟล์ข้อมูล คำค้น
เช่น ต้องการสืบค้นเฉพาะไฟล์การนำเสนอ (pptx)
File Type : ppt สัตว์ป่าสงวน
จากเว็บไซต์ที่มีข้อมูลเกี่ยวกับสัตว์ป่าสงวน มากถึง 5,010 รายการ
การสืบค้นข้อมูลโดยใช้เว็บ Search Engine คือ
ซอฟต์แวร์ที่ทำหน้าที่ค้นหาข้อมูล เช่น รูปภาพ ข้อความ คลิปวีดีโอ โดยใช้คำในการสืบค้นข้อมูล
การใช้งานเว็บ Search Engine มีวิธีการใช้งานพื้นฐาน คือ การกำหนดคำสืบค้น ซึ่งสามารถสืบค้นแบบเจาะจงประเภทไฟล์ของข้อมูล สี ขนาด และประเภทของรูปภาพ รวมทั้งสามารถสือบค้นหารูปเพื่อป้องกันการละเมิดลิขสิทธิ์ด้วย
ข้อควรปฏิบัติหลังจากได้ข้อมูลจากการสืบค้น
1.ประเมินความน่าเชื่อถือของข้อมูล
2. ตรวจสอบข้อมูล
3. ตรวจสอบการอ้างอิงแหล่งที่มาของข้อมูล
4.นำข้อมูลที่สือบค้นได้มาเปรียบเทียบกัน
5. นำเสนอข้อมูล
ข้อควรปฏิบัติในการใช้งานอินเทอร์เน็ต ดังนี้
1.ปฏิบัติตามกฎ กติกา มารยาทที่แต่ละเว็บไซต์กำหนด
2. การใช้งานอีเมล ไม่ควรส่งจดหมายลูกโซ้ไปให้ผู้อื่น
3. ในการสนทนนาผ่านเครือข่าย (Chat) ควรสนทนากับผู้ที่ต้องการสนทนาเท่านั้น ใช้ภาษาสุภาพ ไม่ละเมิดเรื่องส่วนตัว
4. การใช้กระดาษสนทนา (Web board) ห้ามพาดพิงสถาบันสำคัญ ห้ามเผยแพร่ข้อมูลลามกอนาจาร
5. ไม่คัดลอดข้อมูลผู้อื่น เพื่อผลประโยชน์ทางธุรกิจหรือแอบอ้างไปใช้เป็นของตนเอง
โดเมนเนม
1. ชื่อโดเมนเนมสากล (เช่น .com, .net, .org, .info) เป็นโดเมนเนม 2 ระดับ จะประกอบด้วย www . ชื่อโดเมน . ประเภทของโดเมน
เช่น www.google.com
สำคัญมาก! ผู้ที่ต้องการจดทะเบียนประเภทนี้ **ไม่จำเป็นต้องใช้เอกสารใดๆ ประกอบการจดทะเบียน
ไปดูความหมายของนามสกุลโดเมนเนมแต่ละประเภท >>
.com (Commercial) ธุรกิจหรือบริษัทที่แสวงหากำไร ใช้กับเว็บไซต์ส่วนตัว หรือองค์กรสำหรับกลุ่มธุรกิจการค้า canva.com
.net (Network) หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับเครือข่าย เช่น totmobile.net
.org (Organization) ใช้ทำเว็บไซต์ของส่วนราชการ หรือ องค์กรเอกชนที่ไม่แสวงผลกำไร เช่น org
.biz (Business) ธุรกิจหรือบริษัทที่แสวงหากำไร (ถูกนำไปใช้เหมือนกับ .com) เช่น hello-hello.biz
.info (information) ใช้สำหรับเว็บไซต์ที่นำเสนอข้อมูลเป็นหลัก
.mobi (Mobile) เกี่ยวกับมือถือ (ถูกนำไปใช้กับ Wap หรือหน้าเว็บสำหรับมือถือ)
.name (Name) ใช้กับเว็บไซต์ที่เกี่ยวกับชื่อ
หมายเหตุ : การใช้งานจริงไม่จำเป็นต้องมีความตรงกับนามสกุลก็ได้ เช่น หน่วยงานส่วนใหญ่มักใช้ .com มากกว่าการใช้ .org เพราะจดจำง่ายกว่านั่นเอง หรือแม้กระทั่งเว็บไซต์ทั่วไปก็จะนิยมจดเป็น .com มากกว่า
2. ชื่อ Domain Name ของแต่ละประเทศ (เช่น .co.th,.or.th,.ac.th) เป็นโดเมนเนม 3 ระดับ จะประกอบด้วย www . ชื่อโดเมน . ประเภทของโดเมน . ประเทศ เช่น www.ku.ac.th
โดเมนเนมประเภทนี้มีนามสกุลที่เป็นตัวย่อของประเทศนั้น อย่างโดเมนเนมของไทยก็จะเป็นนามสกุล .th ซึ่งจำกัดเอาไว้ให้เฉพาะคนไทยหรือ ธุรกิจ หน่วยงาน องค์กร ที่จดทะเบียนในไทยเท่านั้น
สำคัญมาก! ซึ่งการขอโดเมนประเภทนี้ **ต้องใช้เอกสารประกอบเพื่อยืนยัน
ไปดูความหมายของนามสกุลโดเมนเนมประเภทนี้กัน >>
.co.th (Company) ใช้กับบริษัท ห้างร้าน หรือหน่วยงานเอกชน
.or.th (Organization) ใช้กับองค์กรไม่แสวงหากำไร
.ac.th (Academic) ใช้กับสถาบันการศึกษา
.go.th (Government) ใช้กับหน่วยงานของรัฐบาล
.in.th (Individual) ใช้กับเว็บไซต์ส่วนบุคคล
.mi.th (Millitary) ใช้กับหน่วยงานทางทหาร
ตัวย่อของประเทศที่ตั้งขององค์กรที่ไม่ใช่แค่ประเทศไทย
– .cn คือ ประเทศจีน
– .uk คือ ประเทศอังกฤษ
– .jp คือ ประเทศญี่ปุ่น
ที่มา : นามสกุลโดเมนเนมแต่ละประเภทแตกต่างกันอย่างไร? - BlOG | Hostinglotus
โดเมนคืออะไร ?
โดเมน (Domain name) คือชื่อเว็บไซต์หลัง www. เช่น www.dmit.co.th (dmit.co.th คือชื่อโดเมน) ซึ่งจริง ๆ แล้ว จุดประสงค์ของการมีโดเมนคือ การมีหน้าเว็บไซต์ที่เปรียบเสมือนหน้าบ้านและการมีอีเมลบริษัทที่เปรียบเสมือนหลังบ้านของตัวเอง อาทิ Myname@dmit.co.th ตรงคำว่า @dmit.co.th นั่นก็คือโดเมนเนมของบริษัทอีกเช่นกัน ซึ่งพนักงานทุกคนจะมีนามสกุลนี้ติดตัวอยู่เสมอและสามารถใช้อีเมลนี้ในการติดต่อสื่อสารกับคนในบริษัทและนอกบริษัทได้
โดเมนมีกี่ประเภท ? โดเมนแบ่งเป็น 2 ประเภท ได้แก่
1. โดเมน 2 ระดับ เช่น www.google.com หรือ www.youtube.com (1.ชื่อโดเมน, 2.ประเภทของโดเมน)
2. โดเมน 3 ระดับ เช่น www.dmit.co.th หรือ www.matichon.co.th (1.ชื่อโดเมน, 2.ประเภทของโดเมน, 3.ชื่อประเทศ)
โดยที่ชื่อตรง .com หรือ .co.th จะขึ้นอยู่กับประเภทของการทำธุรกิจ เช่น
มาเล่นเกม Pacman กันเถอะ...
สื่อเอกสาร
สื่อวีดีโอ