หลังจากเก็บรวบรวมข้อมูลและตรวจสอบความครบถ้วนแล้ว จำเป็นต้องใช้สถิติต่าง ๆ มาช่วยดำเนินการที่ต้องศึกษาได้ โดยทั่วไปสถิติที่ใช้ในการ วิเคราะห์ข้อมูลแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ (Levine & Stephan, 2005, p. 4-5) สถิติบรรยาย (descriptive statistics) และสถิติอ้างอิง (inferential statistics) (สุรชัย โกศิยะกุล, 2550)
สถิติบรรยาย เป็นสถิติที่ใช้จริงในการอธิบายหรือพรรณนาลักษณะของ ตัวแปรหรือลักษณะของสิ่งที่ต้องการศึกษา ในการวิจัยเชิงปริมาณต้องใช้สถิติ ประเภทนี้ทุกเรื่อง โดยทั่วไปได้แก่ การแจกแจงความถี่ ร้อยละ การวัดแนวโน้ม เข้าสู่ส่วนกลาง การวัดการกระจาย
นอกจากสถิติเชิงบรรยายที่ใช้พรรณนาหรืออธิบายลักษณะของข้อมูล แล้ว ยังมีสถิติอีกประเภทหนึ่งที่ใช้วิเคราะห์ข้อมูลที่ศึกษาได้จากกลุ่มตัวอย่างแล้ว อาศัยทฤษฎีความน่าจะเป็นมาใช้ในการวิเคราะห์หรือสรุปผลไปยังกลุ่มประชากร เป้าหมายหรืออาจกล่าวได้ว่าเป็นการศึกษาค่าสถิติ (statistic) กับกลุ่มตัวอย่าง (sample) เพื่อน ามาอ้างอิงหรือขยายความไปยังกลุ่มใหญ่ได้ ค่าพารามิเตอร์ของ ประชากร ทั้งนี้เนื่องมาจากประชากรมีขนาดใหญ่เกินไป การวิจัยจำนวนมากจึงไม่ สามารถศึกษาได้โดยตรงจากประชากร จึงใช้ตัวอย่างที่มีขนาดเล็กกว่า แต่มีความ เป็นตัวแทนที่ดีของประชากรมาศึกษาแทน
สถิติอ้างอิง (inferential statistics) แบ่งเป็น 2 ลักษณะ ได้แก่
1. สถิติที่ใช้ประมาณค่า (estimation) เป็นสถิติที่ใช้ในการประมาณ ค่าพารามิเตอร์ของประชากร โดยวิธีค านวณหาค่าสถิติก่อน แล้วใช้ค่าสถิตินั้นไป ประมาณค่าพารามิเตอร์ของประชากร
2. สถิติทดสอบ (test statistics) เป็นสถิติที่ใช้ทดสอบสมมุติฐานทาง สถิติเพื่ออ้างอิงผลการทดสอบจากกลุ่มตัวอย่างไปยังประชากร แบ่งออกเป็น 2 แบบ ได้แก่
2.1 สถิติแบบพาราเมตริก (parametric statistic) เป็นสถิติที่ ค านึงถึงลักษณะการแจกแจงของประชากรที่กลุ่มตัวอย่างถูกสุ่มมา ซึ่งจะต้องมีการ แจกแจงแบบโค้งปกติหรือใกล้เคียงกันแบบโค้งปกติ เป็นสถิติทดสอบที่เหมาะสมกับ ข้อมูลที่มีระดับการวัดอยู่ในมาตราอันตรภาคและมาตราส่วน ตัวอย่างสถิติแบบนี้ ได้แก่ Z – test , t – test , F – test เป็นต้น
2.2 สถิติแบบอนพาราเมตริก (non parametric statistic) เป็น สถิติที่ไม่ค านึงถึงลักษณะการแจกแจงของประชากรที่กลุ่มตัวอย่างถูกสุ่มว่าเป็นแบบ ใด (distribution free) เป็นสถิติทดสอบที่เหมาะสมกับข้อมูลที่มีระดับการวัดอยู่ใน มาตรานามบัญญัติ และมาตราเรียงอันดับตัวอย่างสถิติแบบนี้ ได้แก่ - test Wilcoxon Match – pairs test เป็นต้น
สำหรับการพัฒนานวัตกรรมที่มีการทดสอบใช้กับนักเรียนกลุ่ม เดียวกันหรือห้องเดียว
ในกรณีนี้ข้อมูลไม่มีความเป็นอิสระจากกัน หรือได้จากการวัดซ้ำ จากกลุ่มตัวอย่างเดิม ซึ่งเป็นคะแนนที่ได้มาเป็นคู่จากคน ๆ เดียวกัน หรือจากคู่ที่มี ลักษณะเหมือนกันทุกประการ เช่น ก่อนเรียนและหลังเรียน หรือ ก่อนอบรมกับ หลังอบรม มีข้อตกลงเบื้องต้น ดังน
1. สมาชิกแต่ละคู่ของกลุ่มตัวอย่างได้มาจากการสุ่ม
2. ค่าของข้อมูลระหว่างคู่เป็นอิสระต่อกัน
3. การแจกแจงความแตกต่างระหว่างข้อมูลแต่ละคู่เป็นโค้งปกติ
เมื่อ D แทน ผลต่างของข้อมูลแต่ละคู่
N แทน จำนวนคู่
การจัดอบรมให้ความรู้ผู้สอน 10 คน เรื่องการวัดผลแนวใหม่โดยวัด ความรู้ก่อนและหลังการอบรมจากแบบทดสอบฉบับเดียวกัน ปรากฏผลดังตาราง จงทดสอบว่าผู้สอบมีคะแนนหลังการอบรมเพิ่มขึ้นหรือไม่
คำนวณค่าสถิติได้ดังนี้
สรุปผลการทดสอบ
ค่า t ที่คำนวณได้มากกว่าค่าวิกฤตที่ได้จากการเปิดตาราง สรุปได้ ว่า คะแนนหลังการอบรมของผู้สอนสูงกว่าก่อนการอบรมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ที่ระดับ .05
ตัวอย่าง การน าเสนอผลการวิเคราะห์ข้อมูลด้วย t-test ตารางที่ 7.3 ผลการเปรียบเทียบความรู้เรื่องการวัดผลแนวใหม่ของ ผู้สอนก่อนและหลังการอบรม
รูปแบบการเขียนรายงานการพัฒนานวัตกรรม สามารถท าได้ 2 แบบ คือ แบบเป็นทางการ กับแบบไม่เป็นทางการ เสนอไม่เป็นทางการ ก็สามารถดูแนว แบบเป็นทางการได้ แต่ตัดหัวข้อบางหัวข้อออก
รูปแบบการรายงานผลการพัฒนานวัตกรรมแบบเป็นทางการหรือแบบ สากล ประกอบด้วยส่วนส าคัญ 3 ส่วน คือ ส่วนหน้า ส่วนเนื้อหา และส่วนท้าย สาระส าคัญแต่ละส่วน ซึ่งยึดตามรูปแบบของการเขียนรายงานการวิจัย ส าหรับการ เขียนรายงานการพัฒนานวัตกรรม ควรประกอบด้วยหัวข้ออย่างน้อย ต่อไปนี้ คือ
- ปก
- สารบัญ
- สารบัญตาราง
- สารบัญภาพ
- บทที่ 1 ความเป็นมาหรือความสำคัญของปัญหาหรือภูมิหลัง
- วัตถุประสงค์
- ขอบเขต
- ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ
- บทที่ 2
- เอกสารรายงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง
- บทที่ 3
- วิธีดำเนินการ ประกอบด้วย
- กลุ่มตัวอย่าง
- เครื่องมือที่ใช้
- วิธีการสร้างเครื่องมือและหาคุณภาพ
- ระยะเวลาที่จัดเก็บข้อมูล
-บทที่ 4 ผลการวิเคราะห์ข้อมูล
- ผลการวิเคราะห์หาค่าประสิทธิภาพ E1/E2
- ผลการวิเคราะห์เปรียบเทียบคะแนนเฉลี่ยระหว่างก่อน
– หลังเรียน โดยใช้ t-test
-บทที่ 5 สรุปอภิปรายผลและข้อเสนอแนะ
- บรรณานุกรม
- ภาคผนวก ตัวอย่างเครื่องมือเก็บรวบรวมข้อมูล, คู่มือการใช้นวัตกรรม, ตัวอย่างนวัตกรรม/สื่อ, แบบประเมินนวัตกรรม, ประวัติผู้รายงาน