เปเล่อยู่โรงหมอต่อตรวจพบติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ

ขณะที่คนอื่น ๆ มีทั้ง ฟิลิปเป้ คูตินโญ่, วินิซิอุส จูเนียร์ และ ราฟินญ่า นำทัพทำเกมรุก

ส่วนทีมเยือน ปารากวัย ทีมรองบ๊วยของกลุ่มไม่มีลุ้นอะไรแล้ว วาง การ์ลอส กอนซาเลซ เป็นหัวหอกตัวเป้า โดยมี มิเกล อัลมิร่อน ประสานงานทางด้านหลังเปิดฉากแค่ 90 วินาที ราฟินญ่า จอมพลิ้วจาก ลีดส์ ยูไนเต็ด หลุดเข้าไปซัดบอลผ่านมือ อันโตนี่ ซิลบา นายด่าน ปารากวัย ทว่าถูก วีเออาร์ ยึดประตูคืนเนื่องจากบอลไปโดนแขนเสียก่อนทำให้เจ้าถิ่นชวดได้ประตูขึ้นนำต่อมานาทีที่ 9 ดานี่ อัลเวส

เติมเกมขึ้นสูงซัดไกลด้วยซ้ายนอกกรอบเขตโทษ บอลพุ่งแรงทว่าบอลไปติดหัวผู้เล่น ปารากวัย ออกหลังไปทัพเซเลเซา เร่งเครื่องเต็มสูบหวังทำสกอร์แรก นาที 17 วินิซิอุส ปาดบอลจากทางฝั่งซ้ายให้ ราฟินญ่า วิ่งเข้าชาร์จที่เสาสองระยะแค่ 3 หลา แต่กลับยิงเหินข้ามคานออกไปอย่างน่าเสียดายอย่างไรก็ตาม ราฟินญ่า มาแก้ตัวคืนได้โดยอาศัยลีลาหลอกล่อแนวรับทีมเยือน หักบอลเข้าเท้าซ้ายแล้วซัดมุมแคบเข้าประตู ทำให้ บราซิล ออกนำ 1-0 ในนาทีที่ 28หมดครึ่งเวลาแรก ทีมเจ้าถิ่นเป็นฝ่ายนำอยู่ 1-0 เริ่มครึ่งหลัง 4 นาที ราฟินญ่า ที่วันนี้โดดเด่นเหลือหลายเกือบบวกสกอร์ให้ตัวเองและทีมชาติ เมื่อได้ฮาล์ฟวอลเล่ย์โล่งๆ ในกรอบเขตโทษ แต่สุดท้ายบอลลอยไปชนเสาเด้งออกมาถัดมา บราซิล หนีเป็น 2-0 ได้สำเร็จ เมื่อ คูตินโญ่ ได้บอลตรงระยะประมาณ 30 หลา ก่อนจะตัดสินใจยิงด้วยขวาข้างถนัดซึ่งเป็นลูกเก่งของเจ้าตัวส่งบอลลอยหนีมือ อัลโตนี่ ซิลบา

ไปกองก้นตาข่ายอย่างสวยงามในนาทีที่ 62"แซมบ้า" ผ่อนเครื่องลงไม่โหมเกมเหมือนก่อนหน้านี้ แต่ภาพรวมยังคงครองบอลได้มากกว่า และรอเริ่มทยอยเปลี่ยนเอาตัวสำรองลงมาเล่นช่วงท้ายเกมนาที 84 ดานี่ อัลเวส พยายามทำประตูจากลูกยิงไกลอีกครั้ง โดยเป็นจังหวะที่เจ้าตัวหักเข้าซ้ายแล้วซัดนอกกรอบ แต่ทาง อันโตนี่ ซิลวา ยังไหวตัวทันปัดทิ้งออกหลังไว้ได้