การแก้ไขปัญหาและพัฒนาทักษะการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ โดยการใช้แผนการจัดการเรียนรู้แบบ PPPP 

ร่วมกับการใช้แผนผังกราฟิก (Graphic organizers) ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4

1. สภาพปัญหาการจัดการเรียนรู้และคุณภาพการเรียนรู้ของผู้เรียน

                     การเรียนรู้ภาษาอังกฤษในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ถือเป็นขั้นพื้นฐานที่สำคัญในการพัฒนาทักษะการฟัง พูด อ่าน และเขียน ซึ่งนักเรียนยังคงต้องการการสนับสนุนในด้านการสื่อสารอย่างเป็นธรรมชาติและการสร้างความเข้าใจที่แท้จริง อย่างไรก็ตาม การเรียนการสอนในรูปแบบดั้งเดิมที่เน้นการท่องจำและการฝึกฝนแบบซ้ำๆ มักไม่เพียงพอสำหรับการพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษในระยะยาว นักเรียนหลายคนพบว่าเป็นเรื่องยากที่จะเรียนรู้เนื้อหาภาษาอังกฤษในบริบทที่ใช้จริง ส่งผลให้คุณภาพการเรียนรู้ต่ำและขาดความกระตือรือร้นในการเรียนรู้ (Brown, 2007)

     การนำแผนการจัดการเรียนรู้แบบ PPPP (Presentation, Practice, Production, and Personalization) มาประยุกต์ใช้ในการสอนภาษาอังกฤษ มีประสิทธิภาพในการช่วยให้นักเรียนเข้าใจเนื้อหาได้เป็นขั้นตอน โดยการนำเสนอเนื้อหา (Presentation) ตามด้วยการฝึกฝน (Practice) เพื่อให้นักเรียนสามารถทดลองใช้ภาษาอังกฤษในสถานการณ์ที่ใกล้เคียงกับชีวิตจริง จากนั้นให้นักเรียนได้สร้างสรรค์และปรับใช้ความรู้ในบริบทของตนเอง (Production & Personalization) เพื่อพัฒนาความมั่นใจในการใช้ภาษา (Richards & Rodgers, 2014)

              นอกจากนี้ การใช้แผนผังกราฟิก (Graphic Organizers) เช่น แผนผังความคิด (Mind Mapping) และแผนผังโครงสร้าง (Concept Mapping) ยังมีส่วนช่วยให้นักเรียนสามารถจัดระเบียบความคิดได้ดีขึ้น ช่วยในการเข้าใจโครงสร้างภาษาและความสัมพันธ์ของเนื้อหา ช่วยเพิ่มทักษะการคิดเชิงวิเคราะห์และการคิดเชิงวิพากษ์ (Fisher & Frey, 2008) แผนผังกราฟิกเหล่านี้ช่วยให้นักเรียนเข้าใจแนวคิดและคำศัพท์ภาษาอังกฤษได้ง่ายขึ้น อีกทั้งช่วยให้นักเรียนสามารถจดจำเนื้อหาได้ดีขึ้นและนำไปประยุกต์ใช้ในการสื่อสารภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน (Clark & Mayer, 2016)

การใช้แผนการจัดการเรียนรู้แบบ PPPP ควบคู่กับแผนผังกราฟิก พบว่าสามารถแก้ไขปัญหาการเรียนรู้ได้หลายด้าน นักเรียนมีความสนใจในการเรียนรู้มากขึ้น มีการตอบสนองในชั้นเรียนและสามารถประยุกต์ใช้ภาษาอังกฤษในสถานการณ์จริงได้อย่างมั่นใจ ซึ่งสอดคล้องกับงานวิจัยที่พบว่า การใช้กราฟิกในกระบวนการเรียนรู้ช่วยเพิ่มการรับรู้และการจัดระเบียบข้อมูลสำหรับผู้เรียน โดยเฉพาะในระดับประถมศึกษา (Graves et al., 2007)

           ดังนั้นผู้จัดทำจึงสนใจการนำการจัดการเรียนรู้แบบ PPPP เข้ามาช่วย ซึ่งเป็นการจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning ทำให้ผู้เรียนมีโอกาสสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง และสามารถนำความรู้ที่ได้จากการเรียนรู้นั้นมาใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ ผู้จัดทำยังสนใจการนำแผนผังกราฟิกมาใช้ร่วมกับการจัดการเรียนรู้แบบ PPPP เพื่อให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ด้วยความสนุกและความสนใจ ทำให้ผู้เรียนสามารถสามารถนำความรู้นั้นไปใช้ได้อย่างถูกต้องและเหมาะสมกับสถานการณ์ในชีวิตประจำวัน  

2. วิธีการดำเนินการให้บรรลุผล 

               ขั้นที่ 1  การเตรียมเอกสารด้านวิชาการ มีขั้นตอนดำเนินการดังนี้

               ขั้นวางแผน (Plan)

                   - ศึกษาหลักหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรุง 2560) กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ และหลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ ตามหลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนเมืองเลย พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พุทธศักราช 2561) ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4

             - วิเคราะห์จุดประสงค์การเรียนรู้ จากนั้นแบ่งเป็นจุดประสงค์เชิงพฤติกรรม โดยแบ่งหน่วยการเรียนออกเป็นเนื้อหาย่อย ๆ เรียงลำดับจากง่ายไปหายาก

    - ศึกษา เอกสาร งานวิจัย แนวคิดทฤษฎี เกี่ยวกับการใช้การจัดการเรียนรู้แบบ PPPP และ การใช้แผนผังกราฟิก (Graphic organizers) เพื่อให้สามารถใช้เครื่องมือได้อย่างคล่องแคล่ว และมีความถูกต้องในการใช้เครื่องมือทั้งสองไปพร้อมกัน 

                 - กำหนดกรอบเนื้อหาในแบบฝึกทักษะการใช้กลวิธีอภิปัญญา การจัดการเรียนรู้แบบ PPPP และ การใช้แผนผังกราฟิก (Graphic organizers)  เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนภาษาอังกฤษระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4

ขั้นปฏิบัติ (Do)

   - จัดทำบทเรียนตามกรอบเนื้อหาในเอกสาร

   - จัดทำแผน และ กำหนดขั้นตอน กระบวนการวัดผลประเมินผู้เรียนตามกระบวนการการจัดการเรียนรู้แบบ PPPP และ การใช้แผนผังกราฟิก (Graphic organizers)

ขั้นที่ ๒ การพัฒนาแบบฝึกทักษะเพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนภาษาอังกฤษตามกระบวนการจัดการเรียน

รู้แบบ PPPP ร่วมกับการใช้แผนผังกราฟิก (Graphic organizers) ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4

ขั้นตรวจสอบ (Check)

- นำแบบฝึกทักษะเพื่อพัฒนากระบวนการจัดการเรียนรู้แบบ PPPP ร่วมกับการใช้แผนผังกราฟิก 

(Graphic organizers) เสนอต่อผู้เชี่ยวชาญ 5 ท่าน เพื่อตรวจสอบความเหมาะสม ความถูกต้อง ของเนื้อหา และจุดประสงค์การเรียนรู้ พร้อมทั้งให้ข้อเสนอแนะในการปรับปรุงแก้ไข ตามแนวการสอนภาษาเพื่อการสื่อสาร Communicative Language Teaching (CLT)

ขั้นปรับปรุง (Act)

- นำแบบฝึกทักษะเพื่อพัฒนากระบวนการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ โดยใช้กระบวนการจัดการเรียนรู้แบบ 

PPPP ร่วมกับการใช้แผนผังกราฟิก (Graphic organizers)  ที่ได้รับการปรับปรุงแก้ไขเสนอต่อผู้เชี่ยวชาญ 5 ท่าน ให้พิจารณาอีกครั้ง

- นำแบบฝึกทักษะเพื่อพัฒนากระบวนการจัดการเรียนรู้แบบ PPPP ร่วมกับการใช้แผนผังกราฟิก 

(Graphic organizers) ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2  ที่ได้รับการปรับปรุงแก้ไข ไปทดลองใช้กับนักเรียนที่ไม่ใช่กลุ่มตัวอย่าง ในรูปแบบ นักเรียนรายบุคคล (One to One Tryout) ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 (นอกเหนือจากห้อง ป.4/7-ป.4/9) จำนวน 15 คน และนักเรียนกลุ่มเล็ก (Small Group Tryout) 

- นำแบบฝึกทักษะเพื่อพัฒนาการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบ PPPP ร่วมกับการใช้

แผนผังกราฟิก (Graphic organizers)  ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4  ที่ได้รับการปรับปรุงแก้ไขไปใช้กับนักเรียนกลุ่มเป้าหมาย (ป.4/7-ป.4/9) และมีการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ตามเกณฑ์ที่ตั้งไว้

3. ผลลัพธ์การพัฒนา

    3.1 เชิงปริมาณ

-ผู้เรียนร้อยละ 100 ได้รับการพัฒนาการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบ PPPP ร่วมกับการใช้แผนผังกราฟิก (Graphic organizers)

                      -ผู้เรียนร้อยละ 83.33 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงขึ้น หลังการใช้แบบฝึกทักษะ เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนภาษาอังกฤษ โดยใช้กระบวนการจัดการเรียนรู้แบบ PPPP ร่วมกับการใช้แผนผังกราฟิก (Graphic organizers)

    3.2 เชิงคุณภาพ

                    -ผู้เรียนมีพัฒนาการทางด้านทักษะภาษา คุณลักษณะที่พึงประสงค์ และเจตคติที่ดีขึ้น

4. เอกสารและหลักฐานการพัฒนา