ตารางวัคซีน 2568 สิ่งที่ปรับใหม่จากปี 2567
1.วัคซีน HPV ฉีด ป.5 เดิม 2 เข็มห่าง 6-12 เดือน อาจปรับเป็น HPV9 หรือเพียง 1 เข็ม
2.ตารางวัคซีนอื่นๆที่เสริมหรือทดแทน ขยายอายุจาก 15 เป็น 18 ปี
3.เพิ่มวัคซีนไข้หวัดใหญ่ชนิดมีชีวิตพ่นจมูกอายุ 2 ปีขึ้นไป -49 ปี มี 3 สายพันธุ์ ผลิตจากเซลล์ไข่ฟัก ฉีด 2 ข้าง ข้างละ 0.1 ซีซี
- ถ้ารับพร้อมกับวัคซีนเชื้อเป็นชนิดอื่นๆ ให้วันเดียวกันได้ แต่ถ้าไม่พร้อมต้องห่างอย่างน้อย 4 สัปดาห์ขึ้นไป
- ห้ามให้ในผู้แพ้วัคซีนไข้หวัดใหญ่รุนแรง กินยาแอสไพรินหรือซาลิไซเลต ภูมิคุ้มกันบกพร่องรวมทั้งผู้ใกล้ชิด หญิงตั้งครรภ์ ผู้ป่วยที่เสี่ยงเยื่อหุ้มสมองอักเสบเช่น csf leak cochler implantation
-หากมีคัดจมูก ควรเลื่อนวัคซีน
- หลังพ่นวัคซีน มีจามหรือสั่งน้ำมูกทันที หรือ หยอดวัคซีนทั้งหมดข้างเดียว ไม่แนะนำให้วัคซีนซ้ำ
- ผู้ได้ยาต้านไวรัสไข้หวัดใหญ่ควรเว้นระยะห่างกับวัคซีน
Oseltamivir /zanamivir ; 48 ชม. ก่อนรับวัคซีนหรือ 2 สัปดาห์หลังได้วัคซีน
Baloxavir 17 วันก่อนรับวัคซีน หรือ 2 สัปดาห์หลังได้วัคซีน
4.วัคซีนพิษสุนัขบ้า ก่อนสัมผัสโรค pre-exposure ฉีด 2 เข็ม ในชั้นผิวหนัง intradermal 2 จุด ได้ 3 แบบ 0,7 หรือ 0,21 และ 0,28
5.เพิ่มวัคซีนไข้กาฬหลังแอ่น
6.วัคซีนไอกรน aP (pertagen) ปรับอายุจากให้ 11 ปีขึ้นไป เป็นตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป
7.วัคซีน aP ในหญิงตั้งครรภ์ให้ฉีดทุกการตั้งครรภ์ที่อายุครรภ์ 20-32 สัปดาห์ (ต้อง 16 สัปดาห์ขึ้นไป) ควรให้ 2 สัปดาห์ก่อนคลอด ใช้ TdaP หรือ TdaP แทนได้
8.วัคซีนไข้สมองอักเสบเจอี 2 เข็มห่าง 12-24 เดือน เพิ่มระยะห่างน้อยสุด CD-JE 3 เดือน ส่วน IMOJEV/Thaijev 12 เดือน
9.วัคซีน IPD สามารถใช้ 10/13/15/20 ในเด็กปกติและกลุ่มเสี่ยง
สำหรับ PCV20
ในเด็กกลุ่มเสี่ยง การฉีดเข็มกระตุ้น หากไม่เคยได้ PCV20 ให้ฉีดกระตุ้น PCV20 หรือ PS-23 จำนวน 1 เข็ม ถ้าเคยได้ PCV20 อย่างน้อย 1 เข็ม ไม่ต้องฉีดกระตุ้น
- เด็ก 2 ปีขึ้นไปกลุ่มเสี่ยงที่เคยได้ PCV10/13/15 ครบ สามารถฉีด PCV20 ได้ 1 เข็มห่างเข็มสุดท้าย 8 สัปดาห์ (ไม่ต้อง ps -23 อีก)
- ในเด็ก nephrotic chronic dialysis ไม่มีหรือม้ามบกพร่อง ควรให้ ps-23 อีก 1 เข็มห่าง 5 ปี
ไม่ต้องกระตุ้นด้วย pcv20 หรือ ps-23
10. ปรับอายุวัคซีนไข้เลือดออกเดิม 4-60ปี เป็นอายุ 4 ปี ขึ้นไป ไม่มีขอบบนของอายุ
ที่มา : สมาคมโรคติดเชื้อในเด็กแห่งประเทศไทย