อาชีพค้ายา (สูบ) สร้างรายได้หลักแสน...ชุมชนวิถีเกษตรร่องแสนคำ
อาชีพค้ายา (สูบ) สร้างรายได้หลักแสน...ชุมชนวิถีเกษตรร่องแสนคำ
ถ้าท่านมีโอกาสมาเยี่ยมเยือนดินแดนสาวบ้านแต้ในช่วงหน้าหนาว เดินทางผ่านมายังเทศบาลตำบลบ้านเป้าไปยังอำเภอคอนสารหรืออำเภอชุมแพ เมื่อผ่านสองข้างทางจะพบท้องนาสีเขียวเข้มตัดกับเส้นขอบฟ้าสวยงาม สีเขียวที่พบเจอไม่ได้มาจากใบข้าวแต่เป็น “ใบยาสูบ” พืชเศรษฐกิจสร้างรายได้ให้กับพี่น้องประชาชนในเขตพื้นที่ตำบลบ้านเป้าและใกล้เคียง เมื่อข้าสู่บ้านร่องแสนคำจะพบกับแผงยาไม้ไผ่สานตากเส้นยาสูบหน้าบ้านแทบทุกหลัง นี่เป็นวิถีชีวิตเกษตรกรที่สงบเรียบง่ายเป็นบรรยากาศที่ดีอีกรูปแบบหนึ่ง
แม่สมจิตร กู้เขียว ผู้ค้ายา (สูบ) รายใหญ่ในร่องแสนคำ ที่มีผลประกอบการปีละหลายแสน ได้เล่าถึงการปลูกพืชชนิดนี้ว่า ยาสูบเป็นพืชที่ต้องการน้ำฝน และความชุ่มชื้นในอากาศ ช่วงฤดูกลางฝนถึงปลายฝนจึงเหมาะกับการปลูกยาสูบที่สุด เพื่อที่จะให้ได้ผลผลผลิตที่มีคุณภาพดี ใบยามีความสมบูรณ์ เป็นที่ต้องการของตลาด ในอดีตชาวบ้านจะปลูกยาสูบในที่นาหลังจากเก็บเกี่ยวข้าวเสร็จแล้วซึ่งจะเข้าสู่ฤดูแล้ง ทำให้ใบยาที่ได้แห้งและขาดคุณภาพ ปัจจุบันชาวบ้านจึงเลื่อนเวลาเพาะปลูกให้เร็วขึ้น แต่ปัญหาที่ตามมาคือ โรคและแมลง จึงต้องมีการป้องกันและกำจัดอีกทั้งให้ความสำคัญในการดูแลเป็นอย่างดี
การเตรียมดินสำหรับการปลูก ยาสูบเจริญเติบโดได้ดีในดินร่วน ดินร่วนปนทราย และดินร่วนปนดินเหนียว ควรเลือกที่สูง หรือมีการยกร่องเพื่อให้เกิดการระบายน้ำที่ดี การไถพรวนควรมีความลึกอย่างน้อย ๖-๘ นิ้ว เพื่อให้รากหยั่งลึกไปในดินและเจริญเติบโตได้ดี การเพาะกล้ายาสูบโดยการหว่านเมล็ดเริ่มเพาะกล้าประมาณเดือนกรกฎาคม - สิงหาคม เมื่อกล้ามีอายุประมาณ ๑ เดือน ถอนย้ายกล้าไปชำในแปลงใหม่อีกประมาณ ๑ เดือน ก่อนนำไปปลูก การปลูกจะเริ่มกันในเดือนตุลาคม – พฤศจิกายน ควรปลูกเป็นแถวเดี่ยวแบบยกร่องเพื่อง่ายต่อการดูแล ให้น้ำ ให้ปุ๋ย และการเก็บผลผลลิต ความต้องการน้ำของต้นยาสูบในระยะเดือนแรกไม่มาก ให้น้ำพอสมควรและอาศัยนำค้างจากธรรมชาติ แต่หลังจากปลูกแล้ว ๓๐-๔๐ วัน ต้องให้น้ำแบบชุ่มชื้นสูง เพื่อการเจริญเติบโตของยาสูบที่มีคุณภาพ การเลือกใช้ปุ๋ยก็เป็นสิ่งจำเป็น โดยเฉพาะอาหารธาตุไนโตรเจนต้องไม่สูงเกินไป ไม่เช่นนั้นจะทำให้คุณภาพใบยาแห้งลดลง การเก็บใบยาสดจะเก็บได้เมื่อต้นยาสูบอายุประมาณ ๑๐๐-๑๒๐ วัน เสร็จสิ้นการเก็บใบยาสดประมาณเดือนมกราคม หรือประมาณ ๓ เดือน หลังจากเริ่มเก็บใบยาสดครั้งแรก การเก็บใบยาสดแต่ละครั้ง จะต้องรอให้ใบยาสุกจริง ๆ เพื่อให้ได้ใบยาแห้งที่มีคุณภาพตามที่ต้องการ ใบยาสูบมีการเก็บ ๓ ระดับ คือใบยาตีน ใบยากลาง และใบยายอด ซึ่งขนาดใบยาและระดับความเมาจะไล่ระดับจากใบยาตีนมาเป็นลำดับ การหั่นหรือซอยยา แต่เติมใช้แรงงานคนโดยนำใบยาสูบมาม้วนและหั่นด้วยมีดซอยยาบนม้าไม้ แต่ปัจจุบันใช้เครื่องจักรในการหั่นใบยาสูบเป็นเส้น แล้วนำมาตากเป็นแผ่นแบบแผ่นเล็กประมาณ ๑ ฝ่ามือ และแผ่นใหญ่ขนาด ๕๐ ตารางเซนติเมตร ประมาณ ๒ แดดพลิกลับให้แห้งสนิทดี จากนั้นม้วนเก็บผลิตผลใส่ถุงเพื่อรอจำหน่าย ยาเส้นแผ่นเล็กจะขายปลีกทั่วไป ส่วนแผ่นใหญ่จะขายให้พ่อค้าคนกลางเพื่อนำเข้าโรงงานผลิตยาสูบต่อไป
การปลูกยาสูบถือเป็นวิถีชีวิตของเกษตรกรชาวบ้านร่องแสนคำที่ทำมาจากรุ่นสู่รุ่น มีเทคนิคและวิธีการที่ให้ได้มาซึ่งใบยาสูบสดผลิตเป็นยาเส้นที่มีคุณภาพดี สามารถสร้างรายได้ที่ยั่งยืนให้กับชุมชน หากท่านมีโอกาสผ่านเส้นทางตำบลบ้านเป้า สามารถแวะซื้อยาเส้นคุณภาพดีราคาถูกไปเป็นของฝากสำหรับญาติมิตรได้ตลอดทั้งปี เพราะชุมชนร่องแสนคำเป็นชุมชน “ค้ายา (สูบ)” รายใหญ่ที่สุดในอำเภอเกษตรสมบูรณ์
ผู้เขียน/ผู้ถ่ายภาพ : นายชัยวุฒิ ทองดี
ผู้ให้ข้อมูล : นางสมจิตร กู้เขียว