รูปแบบการติดต่อสื่อสาร
1. ติดต่อสื่อสารทางเอกสาร โทรศัพท์
2. ติดต่อสื่อสารทางอิเล็กทรอนิกส์ เช่น อีเมลล์ facebook เว็บไซต์ และไลน์
ใช้ Gmail
การติดต่อสื่อสารกับผู้เข้ารับการสอบประเมินเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้ผู้เข้ารับการสอบประเมินได้รับทราบข้อมูลที่จำเป็นและสามารถดำเนินการต่างๆ ได้อย่างถูกต้องและครบถ้วน องค์กรรับรองสมรรถนะบุคคลตามมาตรฐานอาชีพจึงมีรูปแบบการทำงานอาศัยเป็นเครื่องมือติดต่อกับผู้เข้ารับการสอบประเมิน ดังนี้
1. ติดต่อสื่อสารทางเอกสาร โทรศัพท์
การติดต่อสื่อสารทางเอกสาร โทรศัพท์ เป็นรูปแบบการติดต่อสื่อสารที่ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนาน โดยองค์กรรับรองสมรรถนะบุคคลตามมาตรฐานอาชีพอาจใช้รูปแบบการติดต่อสื่อสารนี้เพื่อติดต่อกับผู้เข้ารับการสอบประเมินในประเด็นต่างๆ ดังนี้
แจ้งรับสมัครเข้ารับการประเมิน
ตรวจสอบคุณสมบัติของผู้เข้ารับการประเมิน
แจ้งวันเวลาและสถานที่ทดสอบ
แจ้งผลการทดสอบ
แจ้งผู้ผ่านการประเมินรับใบประกาศนียบัตรฯ และหนังสือรับรองมาตรฐานอาชีพ
วิธีการติดต่อสื่อสาร
เอกสาร: ศูนย์รับรองฯ ส่งเอกสารให้ผู้เข้ารับการสอบประเมินทางไปรษณีย์หรือจัดส่งด้วยตัวเอง โดยเอกสารอาจประกอบด้วยใบสมัครเข้ารับการประเมิน เอกสารหลักฐานต่างๆ ของผู้เข้ารับการประเมิน ผลการทดสอบ ผลการตัดสิน และใบประกาศนียบัตรฯ และหนังสือรับรองมาตรฐานอาชีพ
โทรศัพท์: องค์กรรับรองสมรรถนะบุคคลตามมาตรฐานอาชีพอาจโทรศัพท์ติดต่อกับผู้เข้ารับการสอบประเมินเพื่อแจ้งข้อมูลต่างๆ เช่น วันเวลาและสถานที่ทดสอบ ผลการทดสอบ และผลการตัดสิน
ข้อดี
เป็นรูปแบบการติดต่อสื่อสารที่มีประสิทธิภาพและเชื่อถือได้
สามารถใช้ได้กับทุกกลุ่มเป้าหมาย
ข้อเสีย
ใช้เวลาดำเนินการนาน
อาจมีค่าใช้จ่ายในการจัดส่งเอกสาร
อาจมีความเสี่ยงในการสูญหายหรือเสียหายของเอกสาร
2. ติดต่อสื่อสารทางอิเล็กทรอนิกส์ เช่น อีเมล Facebook เว็บไซต์ และ Line
การติดต่อสื่อสารทางอิเล็กทรอนิกส์ เป็นรูปแบบการติดต่อสื่อสารที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน โดยองค์กรรับรองสมรรถนะบุคคลตามมาตรฐานอาชีพอาจใช้รูปแบบการติดต่อสื่อสารนี้เพื่อติดต่อกับผู้เข้ารับการสอบประเมินในประเด็นต่างๆ ดังนี้
แจ้งรับสมัครเข้ารับการประเมิน
ตรวจสอบคุณสมบัติของผู้เข้ารับการประเมิน
แจ้งวันเวลาและสถานที่ทดสอบ
แจ้งผลการทดสอบ
แจ้งผู้ผ่านการประเมินรับใบประกาศนียบัตรฯ และหนังสือรับรองมาตรฐานอาชีพ
วิธีการติดต่อสื่อสาร
อีเมล: องค์กรรับรองสมรรถนะบุคคลตามมาตรฐานอาชีพอาจส่งอีเมลให้ผู้เข้ารับการสอบประเมินเพื่อแจ้งข้อมูลต่างๆ เช่น วันเวลาและสถานที่ทดสอบ ผลการทดสอบ และผลการตัดสิน โดยผู้เข้ารับการสอบประเมินสามารถตอบกลับอีเมลเพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือแจ้งความประสงค์ต่างๆ
Facebook: องค์กรรับรองสมรรถนะบุคคลตามมาตรฐานอาชีพอาจสร้างเพจ Facebook เพื่อเผยแพร่ข้อมูลต่างๆ เช่น ประกาศรับสมัครเข้ารับการประเมิน ผลการทดสอบ และผลการตัดสิน โดยผู้เข้ารับการสอบประเมินสามารถติดตามข้อมูลต่างๆ ผ่านทางเพจ Facebook
เว็บไซต์: องค์กรรับรองสมรรถนะบุคคลตามมาตรฐานอาชีพอาจสร้างเว็บไซต์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลต่างๆ เช่น ประกาศรับสมัครเข้ารับการประเมิน ผลการทดสอบ และผลการตัดสิน โดยผู้เข้ารับการสอบประเมินสามารถเข้าไปตรวจสอบข้อมูลต่างๆ ผ่านทางเว็บไซต์
Line: องค์กรรับรองสมรรถนะบุคคลตามมาตรฐานอาชีพสร้างกลุ่ม Line เพื่อเผยแพร่ข้อมูลต่างๆ เช่น ประกาศรับสมัครเข้ารับการประเมิน ผลการทดสอบ และผลการตัดสิน โดยผู้เข้ารับการสอบประเมินสามารถติดตามข้อมูลต่างๆ ผ่านทางบัญชี Line
ข้อดี
เป็นรูปแบบการติดต่อสื่อสารที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการจัดส่งเอกสาร
ช่วยลดความเสี่ยงในการสูญหายหรือเสียหายของเอกสาร
ข้อเสีย
ใช้ได้กับกลุ่มเป้าหมายที่มีทักษะการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ
อาจไม่เหมาะกับกลุ่มเป้าหมายผู้สูงอายุหรือผู้มีการศึกษาน้อย
การเลือกรูปแบบการติดต่อสื่อสาร
องค์กรรับรองสมรรถนะบุคคลตามมาตรฐานอาชีพเลือกรูปแบบการติดต่อสื่อสารที่เหมาะสมกับผู้เข้ารับการสอบประเมิน โดยพิจารณาจากปัจจัยต่างๆ ดังนี้
ระดับการศึกษาและทักษะการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศของผู้เข้ารับการสอบประเมิน
ปริมาณผู้เข้ารับการสอบประเมิน
งบประมาณขององค์กร
โดยองค์กรรับรองสมรรถนะบุคคลตามมาตรฐานอาชีพอาจใช้รูปแบบการติดต่อสื่อสารแบบผสมผสาน โดยเลือกใช้รูปแบบการติดต่อสื่อสารที่เหมาะสมกับแต่ละประเด็น
การใช้ Google Contacts
การใช้ Line กลุ่ม
ตัวอย่างฟอร์มที่ใช้ในการรับสมัคร
การปรับปรุง สื่อทันสมัยที่ใช้ในการสื่อสารติดต่อกับผู้ที่ประสงค์เข้ารับการสอบประเมินที่ใช้ได้อย่างสดวกและรวดเร็ว มีดังนี้
เว็บไซต์ เป็นช่องทางการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพและเชื่อถือได้ ศูนย์ประเมินสามารถใช้เว็บไซต์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับหลักสูตร ขั้นตอนการสอบประเมิน ตารางสอบ และผลการสอบประเมิน เป็นต้น นอกจากนี้ ศูนย์ประเมินยังสามารถใช้เว็บไซต์เพื่อตอบคำถามและแก้ไขปัญหาให้กับผู้เข้ารับการสอบประเมินได้อีกด้วย
อีเมล์ เป็นช่องทางการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพและเชื่อถือได้ ศูนย์ประเมินสามารถใช้อีเมล์เพื่อส่งข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับหลักสูตร ขั้นตอนการสอบประเมิน ตารางสอบ และผลการสอบประเมิน เป็นต้น นอกจากนี้ ศูนย์ประเมินยังสามารถใช้อีเมล์เพื่อให้บริการผู้เข้ารับการสอบประเมิน เช่น ตอบคำถาม แก้ไขปัญหา เป็นต้น
โซเชียลมีเดีย เป็นช่องทางการสื่อสารที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน ศูนย์ประเมินสามารถใช้โซเชียลมีเดียเพื่อเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับหลักสูตร ขั้นตอนการสอบประเมิน ตารางสอบ และผลการสอบประเมิน เป็นต้น นอกจากนี้ ศูนย์ประเมินยังสามารถใช้โซเชียลมีเดียเพื่อตอบคำถามและแก้ไขปัญหาให้กับผู้เข้ารับการสอบประเมินได้อีกด้วย
แชทบอท เป็นโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่สามารถโต้ตอบกับมนุษย์ผ่านข้อความ ศูนย์ประเมินสามารถใช้แชทบอทเพื่อตอบคำถามและแก้ไขปัญหาให้กับผู้เข้ารับการสอบประเมินได้ตลอด 24 ชั่วโมง แชทบอทจึงช่วยเพิ่มความสะดวกและรวดเร็วในการบริการผู้เข้ารับการสอบประเมิน
แอปพลิเคชันมือถือ เป็นช่องทางการสื่อสารที่สะดวกและเข้าถึงได้ง่าย ศูนย์ประเมินสามารถใช้แอปพลิเคชันมือถือเพื่อให้บริการผู้เข้ารับการสอบประเมิน เช่น การสมัครสอบ การชำระค่าธรรมเนียม การติดตามสถานะการสมัครสอบ เป็นต้น
ตัวอย่างการใช้สื่อทันสมัยในการติดต่อสื่อสารกับผู้ประสงค์เข้ารับการสอบประเมิน เช่น
ศูนย์ประเมินใช้เว็บไซต์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับหลักสูตรการสอบประเมินวิชาชีพนักบัญชี ขั้นตอนการสมัครสอบ ตารางสอบ และผลการสอบประเมิน
ศูนย์ประเมินใช้อีเมล์เพื่อส่งข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับมาตรฐาน ขั้นตอนการสมัครสอบ ตารางสอบ และผลการสอบประเมิน
ศูนย์ประเมินใช้โซเชียลมีเดียเพื่อเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับหลักสูตรการสอบประเมินภาษาจีน ขั้นตอนการสมัครสอบ ตารางสอบ และผลการสอบประเมิน
ศูนย์ประเมินใช้แชทบอทเพื่อตอบคำถามและแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับการสอบอาชีพต่างๆ ขั้นตอนการสมัครสอบ ตารางสอบ และผลการสอบประเมิน
ศูนย์ประเมินใช้แอปพลิเคชันมือถือเพื่อให้บริการผู้สมัครสอบประเมินวิชาชีพครู เช่น การสมัครสอบ การชำระค่าธรรมเนียม การติดตามสถานะการสมัครสอบ เป็นต้น
การเลือกสื่อที่เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายและวัตถุประสงค์ของการสื่อสารนั้น จะช่วยให้การสื่อสารกับผู้ประสงค์เข้ารับการสอบประเมินเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
การใช้ Facebook/ประชาสัมพันธ์
OKR
O : ช่องทางการหากลุ่มลูกค้าเป้าหมายให้เพิ่มมากขึ้น โดยใช้สื่อ Social Media ในการหาผู้สมัคร
KR1 : จัดทำ Info Graphic เพื่อเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ ช่องทางการรับสมัคร ผ่าน Website, Facebook และ Line
KR2 : สร้างแบบฟอร์มการรับสมัครข้อมูล รายละเอียด ของผู้สมัคร โดยใช้ระบบ Google Form (Any Time Any Where)
KR3 : สร้าง QR code เพื่อความสะดวกรวดเร็ว ในการเผยแพร่และใช้งาน ในช่องทาง Online ต่างๆ