Search this site
Embedded Files
  • Home
  • แบบทสอบก่อนเรียน
  • บทเรียน
    • หน่วยการเรียนรู้ที่ 1
      • สถานการณ์ที่ 1
      • แหล่งเรียนรูู้
      • ฐานช่วยเหลือ
      • แบบทดสอบหลังเรียน
    • หน่วยการเรียนรู้ที่ 2
      • สถานการณ์ที่ 2
      • แหล่งเรียนรู้
      • ฐานช่วยเหลือ
      • แบบทดสอบหลังเรียน
    • หน่วยการเรียนรู้ที่ 3
      • สถานการณ์ที่ 3
      • แหล่งเรียนรู้
      • ฐานช่วยเหลือ
      • แบบทดสอบหลังเรียน
    • หน่วยการเรียนรู้ที่ 4
      • สถานการณ์ที่ 4
      • แหล่งเรียนรู้
      • ฐานช่วยเหลือ
      • แบบทดสอบหลังเรียน
    • หน่วยการเรียนรู้ที่ 5
      • สถานการณ์ที่ 5
      • แหล่งเรียนรู้
      • ฐานช่วยเหลือ
      • แบบทดสอบท้ายบท
    • หน่วยการเรียนรู้ที่ 6
      • สถานการณ์ที่ 6
      • แหล่งเรียนรู้
      • ฐานช่วยเหลือ
      • แบบทดสอบท้ายบท
  • ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ
  • ร่วมมือกันแก้ปัญหา
  • แบบทดสอบหลังเรียน
  • แบบประเมินความพึงพอใจ
  • ติดต่อครูผู้สอน
  • ผลงงานนักเรียน
    • การสร้างงานนำเสนอ
    • แผ่นพับ โปสเตอร์
    • อินโฟกราฟิก
    • การสร้างโลโก้
 
  • Home
  • แบบทสอบก่อนเรียน
  • บทเรียน
    • หน่วยการเรียนรู้ที่ 1
      • สถานการณ์ที่ 1
      • แหล่งเรียนรูู้
      • ฐานช่วยเหลือ
      • แบบทดสอบหลังเรียน
    • หน่วยการเรียนรู้ที่ 2
      • สถานการณ์ที่ 2
      • แหล่งเรียนรู้
      • ฐานช่วยเหลือ
      • แบบทดสอบหลังเรียน
    • หน่วยการเรียนรู้ที่ 3
      • สถานการณ์ที่ 3
      • แหล่งเรียนรู้
      • ฐานช่วยเหลือ
      • แบบทดสอบหลังเรียน
    • หน่วยการเรียนรู้ที่ 4
      • สถานการณ์ที่ 4
      • แหล่งเรียนรู้
      • ฐานช่วยเหลือ
      • แบบทดสอบหลังเรียน
    • หน่วยการเรียนรู้ที่ 5
      • สถานการณ์ที่ 5
      • แหล่งเรียนรู้
      • ฐานช่วยเหลือ
      • แบบทดสอบท้ายบท
    • หน่วยการเรียนรู้ที่ 6
      • สถานการณ์ที่ 6
      • แหล่งเรียนรู้
      • ฐานช่วยเหลือ
      • แบบทดสอบท้ายบท
  • ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ
  • ร่วมมือกันแก้ปัญหา
  • แบบทดสอบหลังเรียน
  • แบบประเมินความพึงพอใจ
  • ติดต่อครูผู้สอน
  • ผลงงานนักเรียน
    • การสร้างงานนำเสนอ
    • แผ่นพับ โปสเตอร์
    • อินโฟกราฟิก
    • การสร้างโลโก้
  • More
    • Home
    • แบบทสอบก่อนเรียน
    • บทเรียน
      • หน่วยการเรียนรู้ที่ 1
        • สถานการณ์ที่ 1
        • แหล่งเรียนรูู้
        • ฐานช่วยเหลือ
        • แบบทดสอบหลังเรียน
      • หน่วยการเรียนรู้ที่ 2
        • สถานการณ์ที่ 2
        • แหล่งเรียนรู้
        • ฐานช่วยเหลือ
        • แบบทดสอบหลังเรียน
      • หน่วยการเรียนรู้ที่ 3
        • สถานการณ์ที่ 3
        • แหล่งเรียนรู้
        • ฐานช่วยเหลือ
        • แบบทดสอบหลังเรียน
      • หน่วยการเรียนรู้ที่ 4
        • สถานการณ์ที่ 4
        • แหล่งเรียนรู้
        • ฐานช่วยเหลือ
        • แบบทดสอบหลังเรียน
      • หน่วยการเรียนรู้ที่ 5
        • สถานการณ์ที่ 5
        • แหล่งเรียนรู้
        • ฐานช่วยเหลือ
        • แบบทดสอบท้ายบท
      • หน่วยการเรียนรู้ที่ 6
        • สถานการณ์ที่ 6
        • แหล่งเรียนรู้
        • ฐานช่วยเหลือ
        • แบบทดสอบท้ายบท
    • ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ
    • ร่วมมือกันแก้ปัญหา
    • แบบทดสอบหลังเรียน
    • แบบประเมินความพึงพอใจ
    • ติดต่อครูผู้สอน
    • ผลงงานนักเรียน
      • การสร้างงานนำเสนอ
      • แผ่นพับ โปสเตอร์
      • อินโฟกราฟิก
      • การสร้างโลโก้
  • ใบความรู้

  • https://www.cvc.ac.th/cvc2011/files/20100001_18111917173233.pdf

  • https://th.wikipedia.org/wiki/กราฟิก

  • https://www.vijismith.com/the-psychology-of-colors-สีในกราฟิก

  • http://library.tru.ac.th/images/academic/book/b48424/08chap03.pdf

  • https://www.vijismith.com/types-of-typography/

  • https://www.youtube.com/watch?v=7bWllByBu-c

  • https://www.youtube.com/watch?v=aux5umiKPJc

  • https://www.youtube.com/watch?v=kpemyywq6mU

  • https://www.youtube.com/watch?v=w1NXxq9Hnig

การนำเสนอ(Presenting)เป็นศาสตร์(วิธีการ)ของการสื่อสาร(Communication) ซึ่งเป็นกระบวนการถ่ายทอด สาร(message) จากฝ่ายหนึ่งที่เรียกว่าผู้ส่งสาร(sender)ไปสู่อีกฝ่ายหนึ่งที่เรียกว่า ผู้รับสาร(receiver) โดยผ่านช่องทานของ สื่อ(channel)

 

1.   ความหมายของการนำเสนอ (Presentation) 

   เป็นวิธีการหรือเครื่องมือในการติดต่อสื่อสาร(Communication)   ด้วยการถ่ายทอด

(Delivery) ข้อมูล แผนงาน โครงการ ข้อเสนอ ฯลฯ จากผู้นำเสนอผลงาน กับผู้พิจารณาผลงานหรือจากผู้นำเสนอ ไปสู่บุคคล กลุ่มเป้าหมาย เพื่อสร้างความเข้าใจร่วมกัน ให้บุคคลกลุ่มเป้าหมายหรือผู้รับสาร เห็นด้วย คล้อยตาม สนับสนุน อนุมัติ ให้ดำเนินการ

 

2.   จุดประสงค์ของการนำเสนอ
- เพื่อให้ผู้รับสาร รับทราบความคิดเห็นหรือความต้องการ

- เพื่อให้ผู้รับสารพิจารณาเรื่องใดเรื่อง

- เพื่อให้ผู้รับสารได้ความรู้จากข้อมูลที่นำเสนอ เช่นในการฝึกอบรมหรือการสัมมนา

ใช้ในการบรรยายสรุปผลการดำเนินงานต่าง ๆ

 

     3. ประเภทของการนำเสนอ

         ประเภทของ Presentationการเสนองานรวมไปถึงการทำพรีเซ็นเทชัน (Presentation) โดยหลักๆแล้วจะแบ่งออกเป็น 6 ประเภทด้วยกัน ได้แก่

         3.1 . การนำเสนอข้อมูล (Informative Presentation)ถือเป็นหนึ่งในประเภท Presentation ที่เห็นมากที่สุดในการทำธุรกิจและนิยมใช้กันมากที่สุด กับการนำเสนอหรืออธิบายข้อมูลแบบตรงๆ โดยหลักของการนำเสนอประเภทนี้ก็คือการให้ข้อเท็จจริงและอธิบายรายละเอียด ในโครงการหรือการนำเสนอแผนงานรูปแบบต่างๆ และเราจะเห็นข้อมูลจำพวกตัวเลข สถิติ การเปรียบเทียบ ตาราง เข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนองานและรายละเอียดเนื้อหาที่ค่อนข้างมาก การนำเสนอประเภทนี้มีความเป็นทางการค่อนข้างสูง ไม่ได้เน้นไปทางการสร้างความสนุกสนาน โดยเราจะเห็นการนำเสนอประเภท Informative Presentation ได้จากรูปแบบรายงานเอกสาร ป้ายประกาศภายในองค์กร รายงานการวิจัย รายงานสรุปผล สรุปความก้าวหน้าของธุรกิจ การแถลงผลประกอบการ และการทำพรีเซ็นเทชันก็มีเนื้อหาและจำนวนหน้าค่อนข้างมากกว่ารูปแบบอื่นๆ

     3.2 การสอนและแนะนำ (Instructive Presentation) เรามักจะเห็นคำสอนและคำแนะนำบ่อยๆกับการเรียนการสอนในโรงเรียนหรือในมหาวิทยาลัยใช่ไหมครับ ซึ่งมันก็เป็นลักษณะที่คล้ายกันแค่เปลี่ยนรูปแบบและสถานที่มาเป็นบรรยากาศของการฝึกอบรม ในหัวข้อต่างๆที่ทางบริษัทกำหนดหรือหัวข้อที่พนักงานต้องการจะเรียนรู้เพิ่มเติม โดยมีเป้าหมายเพื่อให้ความรู้ที่เป็นประโยชน์ ที่มาพร้อมกับการพัฒนาทักษะในแต่ละแขนงให้มีมากขึ้น การนำเสนอประเภทนี้ต้องอาศัยทักษะของผู้นำเสนอค่อนข้างมาก เพราะต้องมีทั้งความรู้และทักษะด้านการถ่ายทอดค่อนข้างดีนำเสนอข้อมูลที่เป็นประโยชน์ เพื่อให้ผู้ฟังเข้าใจและรู้สึกอยากที่จะฟังไปจนจบ ตัวอย่างการนำเสนอที่เรามักเห็นกันในการทำงาน เช่น การฝึกอบรมพนักงานในองค์กร (In-house Training) การทำเวิร์คช็อป (Workshop) การเข้าร่วมงานสัมมนา (Seminar) การเข้าอบรมคอร์สเรียนต่างๆ (Training Course) ซึ่งส่วนใหญ่ในการนำเสนอประเภทนี้มักจะมีการสร้างปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้นำเสนอหรือผู้สอนกับผู้ฟังมากที่สุดวิธีหนึ่ง

         3.3. การนำเสนอแบบโน้มน้าวใจ (Persuasive Presentation)เป้าหมายของการนำเสนองานประเภทนี้คือการทำให้ผู้ฟังคล้อยตาม ซึ่งเป็นการคล้อยตามในเชิงของการสร้างอารมณ์การมีส่วนร่วม โดยหลักของการนำเสนอเราจะเห็นการเริ่มต้นด้วยปัญหาและตบท้ายด้วยวิธีแก้ไขหรือทางออกของปัญหา เจาะเข้าไปที่แก่นกลางจิตใจของผู้ฟัง และการโน้มน้าวใจนั้นสามารถนำมาใช้ได้กับการนำเสนอในหลายๆสถานการณ์ และนำมาใช้ร่วมกับการนำเสนอในหลายๆประเภทได้เช่นกัน เช่น การนำเสนอแผนธุรกิจเพื่อขอเงินสนับสนุนจากผู้ร่วมทุน อาจนำเสนอด้วยเหตุผลที่เน้นหนักกับข้อมูลแต่สามารถผสมผสานกับการโน้มน้าวใจ ให้ผู้ร่วมทุนนั้นคล้อยตามและเห็นความเป็นไปได้ในโอกาสการเติบโตของธุรกิจ และเคล็ดลับหรือเทคนิคที่สามารถนำมาใช้อธิบายให้การนำเสนอนั้นดูน่าสนใจ ก็สามารถทำเป็นภาพ (Visual) ในรูปแบบต่างๆ เช่น อินโฟกราฟิก การแสดงด้วยกราฟให้เห็นความเติบโต ที่ไม่ได้อัดแน่นไปที่เนื้อหาเพียงอย่างเดียว

         3.4. การนำเสนอแบบจูงใจ (Motivation Presentation) การนำเสนอลักษณะนี้เป็นการสร้างแรงบันดาลใจ (Inspiration) ให้เกิดขึ้นกับผู้ฟัง โดยส่วนใหญ่นั้นจะเป็นการสื่อสารเพื่อให้ผู้ฟังเปลี่ยนพฤติกรรมบางอย่าง และเรามักจะเห็นได้กับการนำเสนออะไรก็ตามที่เป็นเรื่องเล่า (Story) ที่สามารถทำออกมาได้หลากหลายรูปแบบครับ เช่น เรื่องเล่าของธุรกิจที่เป็นส่วนหนึ่งใน Company Profile หรือ Company Presentation การพูดต่อหน้าคนหลายร้อยคนแบบ TED Talk และหลายๆครั้งเราก็จะเห็นลักษณะการนำเสนอแบบสร้างแรงบันดาลใจ กับการพูดในลักษณะ Life Coach ในสื่อต่างๆ โดยการนำเสนอในประเภทการจูงใจนั้นก็ต้องสร้างความเชื่อมโยงด้านอารมณ์รวมถึงสร้างขวัญและกำลังใจให้กับทีมงานหรือผู้ฟังได้ด้วยเช่นกัน

         3.5. การนำเสนอเพื่อการตัดสินใจ (Decision-Making Presentation) ในทุกวันของการทำงานและการทำธุรกิจเราต้องเจอกับการตัดสินใจ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กน้อยซึ่งเป็นงานในหน้าที่ๆต้องทำประจำวัน แต่หากเป็นเรื่องของการต้องนำเสนอแผนงานเพื่อขออนุมัติงบประมาณ โดยอาจเป็นการขออนุมัติแผนงานประจำปี การขออนุมัติเพื่อแก้ปัญหาบางอย่าง การขออนุมัติในการจัดซื้ออุปกรณ์การทำงานบางอย่าง ซึ่งการนำเสนอนั้นก็ต้องบอกถึงที่มาที่ไปและผลที่จะได้รับเพื่อจะได้รับการอนุมัติจากผู้มีอำนาจหรือผู้ที่ได้ฟัง โดยส่วนใหญ่การนำเสนอประเภทนี้จะพูดกันด้วยเหตุและผลเป็นส่วนใหญ่ ที่อาจต้องเสนอข้อมูลข้อเท็จจริงเป็นหลัก

         3.6. การนำเสนอความก้าวหน้าโครงการ (Progress Presentation)

การนำเสนอประเภทนี้จะเป็นการสรุปผลจากการทำธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นแผนการตลาดที่ทำไป ผลของการใช้จ่ายงบประมาณในการสร้างโครงการ หรือกิจกรรมต่างทั้งหมดที่ได้ทำไป โดยจะเป็นลักษณะของนำเสนอถึงสถานะในแต่ละช่วง อาจเป็นรายวัน รายเดือน ราย 3 เดือน หรือรายปี ก็ขึ้นอยู่กับลักษณะของงานแต่ละประเภท ทั้งนี้การนำเสนอความก้าวหน้าของโครงการจะช่วยให้เห็นถึงปัญหาหรืออุปสรรค ที่จำเป็นต้องหาวิธีการแก้ไขให้โครงการผ่านพ้นไปได้ด้วยดี

 

     4. การเตรียมการก่อนนำเสนอ

     การนำเสนองานควรทำเป็นขั้นตอนโดยเริ่มจากการวางโครงร่าง จัดทำรายละเอียดเนื้อหาและจำทำเป็นสไลด์ ซึ่งมีขั้นตอนดังนี้

     4.1 การวางโครงร่าง ศึกษากลุ่มผู้ฟังว่ามีลักษณะอย่างไร ต้องมีการเข้าใจข้อมูลที่ต้องการนำเสนออย่างชัดเจนเพื่อได้ผลลัพธ์ตรงเป้าหมาย

     4.2 การจัดทำรายละเอียดเนื้อหา กำหนดหัวข้อต่างๆ โดยเน้นกลุ่มผู้ชมเป็นหลักว่าสไลด์ควรมีเนื้อหาหรือรูปแบบการจัดวางอย่างไร หรือควรนำเสนอแบบใด เช่นภาพ ใส่สี  และแนวการนำเสนอ

     4.3 การออกแบบ การใส่ข้อความ ภาพ กราฟในสไลด์  การนำสิ่งต่างๆ ที่ต้องการนำเสนอมาใส่ลงในสไลด์แต่ละแผ่น

         4.3.1  การใช้ภาพในการนำเสนอ ภาพที่ใช้ประกอบเรื่องที่จะสื่อสาร เพื่อให้สามารถสื่อสารได้เข้าใจมากยิ่งขึ้น จะมีทั้งภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหว 

ภาพที่ 5.1 การนำภาพมาประกอบใส่สไลด์

ที่มา : พิจิตรา  วิจารณกุล , 2562

4.3.2    การใช้ Animation ในการนำเสนอ เพิ่มความน่าสนใจในการนำเสนอ การใส่เทคนิคการเปลี่ยนแผ่นสไลด์ การเคลื่อนไหวของตัวอักษรมาใช้เพิ่มความน่าสนใจ 

ภาพที่ 5.2 การใช้ Animationในการนำเสนอ
ที่มา : พิจิตรา  วิจารณกุล,2563 

4.3.3   การใช้ตัวอักษรในการนำเสนอ ตัวอักษร มีความสำคัญเป็นอันดับต้น ๆ ในการออกแบบสื่อ ไม่ว่าจะเป็นสื่อสิ่งพิมพ์  สื่อสิ่งประดิษฐ์ หรือสื่อคอมพิวเตอร์ก็ตาม 

ภาพที่ 5.3 การใช้ Animationในการนำเสนอ
ที่มา : พิจิตรา  วิจารณกุล,2563 

4.3.4  การใช้สีในการนำเสนอ การเลือกใช้คู่สีที่เหมาะสมระหว่างตัวอักษรกับพื้นหลัง ตามหลักสากลก็คือ พื้นสีเข้มตัวอักษรสีอ่อน  หรือพื้นสีอ่อนตัวอักษรเข้ 

ภาพที่ 5.4 การใช้สีในการนำเสนอ
ที่มา : พิจิตรา  วิจารณกุล,2563

4.4. การเตรียมการนำเสนอจริง ต้องซ้อมการพูดให้เข้ากับแผ่นสไลด์ด้วยการจับเวลา เพื่อจะได้ทราบว่าการบรรยายใช้เวลาอย่างเหมาสมหรือไม่

4.5. เตรียมเอกสารประกอบการบรรยาย คือ การพิมพ์เอกสารประกอบการบรรยาย การจัดทำเอกสารแจกผู้เข้าฟังเพื่อใม่ให้ผู้ฟังเสียเวลาในการจดบันทึก ให้ใช้เวลาฟังสิ่งที่บรรยายแทน

วิดีโอนำเสนอเป็นเครื่องมือในการสื่อสารที่มีประโยชน์ในหลายๆด้าน เพราะมีประสิทธิภาพ น่าดึงดูดและง่ายต่อการจัดทำ เช่น การนำเสนอสินค้าตัวอย่าง การอบรม การขาย และสถานการณ์อื่นๆที่จำเป็นต้องมีการสื่อสารที่ชัดเจน

 

     ประเภทของวิดีโอนำเสนอ

1.   การนำเสนอขาย ใช้ในการเสนอผลิตภัณฑ์ต่างๆต่อลูกค้า โดยการแสดงคุณสมบัติ

ประโยชน์ และการใช้งานของผลิตภัณฑ์นั้นๆ

2.   การนำเสนอเพื่อการศึกษา การนำเสนอประเภทนี้ใช้ในการให้ความรู้เกี่ยวกับหัวข้อ

เหตุการณ์ และหลักการต่างๆ

3.   การนำเสนอเพื่อการฝึกอบรม ใช้การนำเสนอนี้ในการอบรมให้ความรู้แก่พนักงานเพื่อเพิ่ม

ความสามารถและประสิทธิภาพในการทำงาน

4.   การนำเสนอแผนธุรกิจ ใช้ในการสรุปแผนดำเนินธุรกิจรวมถึงแผนที่เสร็จสิ้นแล้ว

5.   การนำเสนอเพื่อระดมทุน ใช้สำหรับนำเสนอเพื่อดึงดูดความสนใจเพื่อร่วมลงทุนทางธุรกิจ

 

 

 

     ประโยชน์ของวิดีโอนำเสนอ

1.   ประหยัดค่าใช้จ่าย การทำวิดีโอนำเสนอนั้นแทบไม่มีค่าใช้จ่ายเลย เนื่องจากเราไม่ต้องใช้

อุปกรณ์หรือซอฟท์แวร์ชนิดพิเศษ ใช้เพียงเครื่องมือสำหรับตัดต่อวิดีโอและความสามารถพื้นฐานเท่านั้น สามารถส่งให้บุคคลอื่นได้ เราสามารถแชร์วิดีโอนำเสนอของตนเองได้หลายช่องทาง เช่น เว็บไซต์ โซเชียลมีเดีย อีเมล แชท และอื่นๆ 

2.   น่าสนใจ การดูวิดีโอสามารถดึงดูดความสนใจได้มากกว่าการอ่าน นอกจากนี้ยังดึงดูด

ความรู้สึกของผู้คนได้ง่ายและนำไปสู่การทำสิ่งต่างๆ

3.   ให้ความรู้ วิดีโอนำเสนอสามารถอธิบายเรื่องยากๆให้เข้าใจง่ายขึ้นได้ เพราะวิดีโอประกอบ

ไปด้วยรูปภาพ แผนภูมิ กราฟิก ข้อความ เสียง ฯลฯ 

1. เข้าสู่ระบบ https://www.canva.com/th_th/ เลือก พรีเซนเทชัน จากนั้นสามารถเลือกดูเทมเพลตที่สนใจได้

ภาพที่ 5.5 การเข้าสู่ระบบ canva
ที่มา : พิจิตรา  วิจารณกุล , 2563

2. เลือกเทมเพลตเพื่อปรับแต่ง เลือกเทมเพลตที่ต้องการ จากนั้นคลิก ปรับแต่งเทมเพลตนี้เอง

ภาพที่ 5.6 การเลือกเทมเพลตเพื่อปรับแต่ง
ที่มา : พิจิตรา  วิจารณกุล , 2563

3. ปรับแต่งสไลด์พรีเซนเทชัน

ลบรูปในพรีเซนเทชันสไลด์ได้เลย โดยการคลิกที่รูป 2 ครั้ง แล้วกดปุ่ม backspace หรือ delete ในคีย์บอร์ด นอกจากนี้ ยังสามารถเลือกรูปภาพใหม่ได้จาก
อับโหลด และ องค์ประกอบ

ภาพที่ 5.7 การเพิ่มองค์ปะกอบละอัปโหลดรูปภาพ
ที่มา : พิจิตรา  วิจารณกุล , 2563

4. เพิ่มหรือลบข้อความและปรับแต่งฟอนต์

5. หาต้องการเพิ่มตัวอักษร เลือกตัว TEXT 

6. เลือกแบบฟอนต์ตามต้องการ

7. ตกลงเลือกแบบฟอนต์ตามต้องการ

ภาพที่ 5.8 การแก้ไข ปรับแต่งฟอนต์
ที่มา : พิจิตรา  วิจารณกุล , 2563

8.  เพิ่มหน้าใหม่ สามารถเพิ่มหน้าเปล่าได้ โดยการคลิกเครื่องหมายบวก (+) ที่ด้านล่างของสไลด์หรือคลิก (...) แล้วเลือก ทำสำเนา เพื่อคัดลอกหน้าปัจจุบัน

ภาพที่ 5.9 การเพิ่มหน้าใหม่
ที่มา : พิจิตรา  วิจารณกุล , 2563

9.  ดาวน์โหลดงานนำเสนอ ดาวน์โหลดงานนำเสนอได้โดยคลิก แชร์ ที่มุมบนขวา

10.  เลือก ดาวน์โหลด

11.  เลือก ประเภทของไฟล์ที่ต้องการดาวน์โหลด

12.  จากนั้น คลิก ดาวน์โหลด 

ภาพที่ 5.10 การดาวน์โหลด

ที่มา : พิจิตรา  วิจารณกุล , 2563

1. เข้าเว็บไซต์ หรือแอบพลิเคชัน Canva เลือกหน้าหลัก

ภาพที่ 5.11 การเข้าเว็บไซต์ canva

ที่มา : พิจิตรา  วิจารณกุล , 2563

2. ไปที่หัวข้อ วิดีโอ หลังจากลงชื่อเข้าใช้ หรือสมัครสมาชิกแล้ว ให้เราไปที่ หัวข้อ วิดีโอ โดยหัวข้อวิดีโอจะมีหลากหลายตัวเลือก แต่ที่จะแนะนำให้ใช้มีแค่ 2 ตัวเลือก คือ

         1. Video ปกติ โดยจะมีขนาด 1920 x 1080 px หรืออัตราส่วน 16:9 อันนี้จะเหมาะในการตัดต่อวิดีโอทั่วไป 

                2. Facebook Video จะเป็นอัดตราส่วน 1:1 มีขนาด 1080 x 1080 px 

ภาพที่ 5.12 การเลือกหัวข้อ วิดีโอ

ที่มา : พิจิตรา  วิจารณกุล , 2563

3. เลือกแม่แบบสำหรับวิดีโอ

4. หลังจากที่เราเลือก ลักษณะวิดีโอแล้ว พอเข้ามาทางด้านซ้ายจะมีตัว แม่แบบของทาง Canvaให้เราเลือกใช้หลากลาย โดยมีทั้ง ฟรี และ เสียเงิน

5. ถ้าเรามีวิดีโอของเราอยู่แล้ว ให้ไปที่ เมนู อัพโหลด และไปที่ อัพโหลดไฟล์ หลังจากนั้นให้เราเลือกวิดีโอที่เราเตรียมไว้ โดยวิดีโอที่เรา Uploads  มาจะอยู่ที่เมนู วิดีโอ หลังจากนั้นคลิกที่วิดีโอที่ต้องการได้เลย

ภาพที่ 5.13 การเลือกแม่แบบวิดีโอ

ที่มา : พิจิตรา  วิจารณกุล , 2563

6.  เพิ่มข้อความ เพิ่มเพลง เพิ่มเสียงพากย์

ภาพที่ 5.14 การอัปโหลดไฟล์

ที่มา : พิจิตรา  วิจารณกุล , 2563

7. ต้องการจะใส่ข้อความ และคำบรรยาย ให้เราไปที่เมนู ข้อความ จากนั้นก็เลือกข้อความตามที่เราต้องการ

8. อยากจะเพิ่มเสียงเพลงเข้าไปด้วย ก็ให้ไปที่ เมนู เสียง และก็เลือกเพลงตามที่เราต้องการได้เลย โดยเพลงจะมีทั้งแบบฟรีและเสียเงิน

ภาพที่ 5.15 การเพิ่มข้อความ

ที่มา : พิจิตรา  วิจารณกุล , 2563

ภาพที่ 5.16 การเพิ่มเสียง

ที่มา : พิจิตรา  วิจารณกุล , 2563

9. ดาวน์โหลดวิดีโอและแชร์ คลิก แชร์ ที่มุมบนขวา

9.1  เลือก ดาวน์โหลด

9.2  เลือก ประเภทของไฟล์เป็น วิดีโอ MP4 จากนั้น

9.3 คลิก ดาวน์โหลด  เมื่อพร้อมใช้งาน ก็อัปโหลดไปยังเว็บไซต์ แพลตฟอร์มวิดีโอ หรือบนโซเชียลมีเดีย

ภาพที่ 5.17 การดาวน์โหลด

ที่มา : พิจิตรา  วิจารณกุล , 2563

1.  เลือก ปัจจุบัน (Present)

ภาพที่ 5.18 หน้าปัจจุบัน canva

ที่มา : พิจิตรา  วิจารณกุล , 2563

2.  การเลือกเครื่องมือนำเสนอ

ภาพที่ 5.19 เครื่องมือนำเสนอ canva

ที่มา : พิจิตรา  วิจารณกุล , 2563

อ้างอิง

  • เทคนิคใช้ Canva เบื้องต้น ||งานกราฟิก สร้างงานนำเสนอ 9 มิถุนายน 2563  https://www.youtube.com/watch?v=-avhwodmJ6g&t=2s 

  • Canva ร่วมกับ PowerPoint - ออกแบบและดาวน์โหลดมาใช้งานได้ทันที 26 ก้นยายน 2563  https://www.youtube.com/watch?v=-lFCuL-IPFk 

  • เครื่องมือทําสไลด์สวยๆออนไลน์ฟรี 25 ตุลาคม 2562 https://www.canva.com/th_th/create/presentations/ 

  • Canva คืออะไร วิธีทำ Presentation ให้น่าสนใจด้วย Canva ทำยังไง 29 มิถุนายน 2563 https://www.it24hrs.com/2020/canva-presentation/

🖥️ นางสาวพิจิตรา  วิจารณกุล  🖥️
โรงเรียนขุนหาญวิทยาสรรค์
สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดศรีสะเกษ 
Google Sites
Report abuse
Page details
Page updated
Google Sites
Report abuse