1. ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับโลโก้หรือสัญลักษณ์
โลโก้ คือ สัญลักษณ์หรือเครื่องหมายที่ใช้แทนแบรนด์หรือองค์กร โดยมักประกอบด้วยสัญลักษณ์ที่เฉพาะเจาะจงและอักษรหรือชื่อขององค์กร เป้าหมายหลักของโลโก้ คือเพื่อแสดงและย้ำให้ผู้คนสัมผัสและจดจำแบรนด์หรือองค์กรได้ง่าย ๆ โลโก้มักถูกนำมาใช้ในหลายสื่อเช่นเว็บไซต์ เอกสารองค์กร สินค้าเครื่องหมายการค้า และสื่อต่าง ๆ
นอกจากใช้เป็นสัญลักษณ์ทางการค้าแล้ว โลโก้ยังใช้บอกกรรมสิทธิ์ของสินค้าที่มีโลโก้นั้นๆ ว่าเป็นของเจ้าของแต่เพียงผู้เดียว ผู้อื่นไม่สามารถใช้โลโกนี้ได้ รวมถึงเราก็ไม่สามารถใช้โลโก้ของผู้อื่นได้เช่นกันนอกจากจะมีการทำสัญญาควบธุรกิจกันหรือสัญญาอื่นๆ
โลโก้ทุเรียนภูเขาไฟจังหวัดศรีสะเกษ
ที่มา : https://www.facebook.com/photo.php?fbid=487118313589636&set=pb.100068744142075.-2207520000.&type=3
2. ประเภทของโลโก้
2.1 Lettermark หรือ Monogram
ใช้กับแบรนด์ที่มีชื่อยาว และต้องการย่อให้สั้น โดยใช้ตัวย่อมาประกอบเป็นชื่อใหม่ ที่มีจำนวนตัวอักษรไม่มาก อ่านและจำได้ง่าย โดยเน้นออกแบบให้ตัวอักษรมีลักษณะพิเศษที่ต่างจากตัวอักษรทั่วไป เพื่อเพิ่มความเป็นเอกลักษณ์และเพิ่มการจดจำ
2.2 Wordmark หรือ Logotype
ใช้ชื่อแบรนด์มาตั้งเป็นโลโก้ โดยชื่อแบรนด์จะมีความสั้นและแปลกใหม่ในตัวเองอยู่แล้ว โดยไม่เน้นว่าจะต้องมีความหมายหรือใหม่ และจะเน้นออกแบบตัวอักษรให้มีความโดดเด่นเพื่อความมีเอกลักษณ์และจดจำได้ง่ายเช่นกัน
2.3 Pictorial Mark หรือ Logo Symbol
เป็นโลโก้ที่เอารูปสิ่งของที่มีอยู่แล้วเอามาเป็นตัวแทนของแบรนด์ ไม่มีตัวอักษรประกอบ อาจออกแบบเพิ่มเติมเพื่อทำให้มีจุดสังเกตที่แตกต่างไปจากเดิมเล็กน้อยแต่สามารถจดจำได้ง่าย โดยรูปที่นำมาใช้อาจเกี่ยวข้องหรือมีนัยยะสำคัญเชิงลึกเกี่ยวกับแบรนด์ และมักใช้โลโก้ลักษณะนี้กับแบรนด์ที่เป็นที่รู้จักอยู่แล้ว
2.4 Abstract หรือ Logo Mark
โลโก้ที่นำสัญลักษณ์หรือรูปของสิ่งที่มีอยู่แล้ว มาออกแบบประกอบกันให้เป็นรูปใหม่ที่สื่อถึงแบรนด์ผ่านการออกแบบรูปร่าง สีและลายเส้นได้อย่างเต็มที่ จนเกิดเป็นรูปร่างใหม่ที่มีเอกลักษณ์และไม่ซ้ำใคร
2.5 Mascot
โลโก้ที่ใช้ตัวการ์ตูนมาเป็นตัวแทน โดยมากมักออกแบบเป็นรูปร่างคน เพื่อสื่อถึงความเข้าถึงง่าย เป็นมิตร และเข้าได้กับทุกเพศทุกวัย มักใช้กับแบรนด์ที่มีความขี้เล่นและมีความครอบครัวสูงมากกว่าแบรนด์ที่เน้นความหรูหรา ซับซ้อน หรือเชิงสังคมมากๆ และสิ่งที่สำคัญเมื่อออกแบบโลโก้เป็นตัวการ์ตูนจะมีรายละเอียดบางอย่างที่อาจหายไปเมื่อถูกพิมพ์ลงในบรรจุภัณฑ์ที่มีขนาดเล็ก จะไม่สามารถเก็บรายละเอียดได้ครบเท่ากับโลโก้แบบอื่นๆ
2.6. Combination Mark
โลโก้ที่นำรูปภาพและตัวอักษรของชื่อแบรนด์มารวมกัน อาจวางข้างกัน ด้านบนด้านล่าง หรือนำมาออกแบบรวมกันเป็นหนึ่งเดียว จุดเด่นคือสามารถมองเห็นรูปและชื่อไปได้พร้อมกันทำให้จำได้ทั้งชื่อและรูปได้ง่ายขึ้น
2.7 Emblem
โลโก้ที่มีความเป็นตราสัญลักษณ์ มักมีกรอบวงกลม สี่เหลี่ยม หรือรูปโล่ และมีรายละเอียดด้านในเป็นรูปภาพและตัวอักษรที่ซับซ้อน มักเจอได้ในโลโก้สโมสรและโลโก้โรงเรียน สื่อถึงความมั่นคง หนักแน่น สุขุมและคลาสสิก แต่ข้อเสียเมื่ออยู่ในพื้นที่เล็กๆรายละเอียดก็จะมองไม่เห็นได้ ทางแก้คือออกแบบให้มีความซับซ้อนน้อยที่สุดและยังคงความกรอบไว้ให้ได้
3. หลักการออกแบบโลโก้ ให้ออกมาดูดีและน่าสนใจ
3.1 เลือกตัวอักษรบนโลโก้ให้ดี
ตัวอักษรที่อยู่บนโลโก้ถือเป็นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญอย่างมาก หากออกแบบฟอนต์ในโลโก้ดีช่วยส่งเสริมแบรนด์แต่ตรงกันข้ามหากออกแบบไม่ดีก็เป็นเหมือนกันทำลายแบรนด์ได้เช่นกัน ต้องเลือกให้เหมาะสมกับธุรกิจ เทคนิคง่ายๆ ของการใช้ฟอนต์ กับโลโก้ควรใช้ฟอนต์ไม่เกิน 10 ถึง 20 ตัวอักษรเท่านั้น เพื่อไม่ให้โลโก้ของเราดูรกอัดมากเกินไป ขนาดโลโก้สินค้า ระยะห่างและน้ำหนักของโลโก้ควรจัดวางให้ดีเพื่อส่งเสริมให้ธุรกิจของเราดูน่าเชื่อถือมากขึ้น
ที่มา : https://www.istockphoto.com/
3.2 โลโก้ที่ดีต้องจดจำง่าย
การออกแบบโลโก้ที่ดีช่วยส่งเสริมด้านการจดจำ เวลาผู้คนขับรถผ่าน เห็นเต็มๆ ตาหรืออาจไม่ได้จงใจมองแต่ก็เกิดการจดจำได้ทันที อย่างเช่น เวลาที่เราเห็นโลโก้ของ Apple เราก็มักจะนึกถึง iPhone โลโก้ที่ดีจดจำได้ง่ายจะต้องมีความแตกต่างจากโลโก้อื่นๆ ด้วยอย่างเช่น หากคุณดันไปออกแบบโลโก้คล้ายกับ Apple เมื่อคนพบเห็น พวกเขาจะนึกถึงผลิตภัณฑ์ของแอปเปิ้ลแทนที่จะนึกถึงสินค้าของคุณ
3.3 เลือกสีโลโก้ให้เหมาะสม
สีมีความหมาย พยายามเลือกเฉดสีที่ดูเหมาะสมที่สุดและดูบ่งบอกถึงธุรกิจ การเลือกสีจะถูกจดจำตลอดไปการใช้สีไม่ควรใช้เกิน 3 สี
ทฤษฎีการใช้สีและความหมายของสีสำหรับการทำโลโก้ ได้แก่
1. สีขาว Acne-Aid หมายถึ งความบริสุทธิ์ สะอาด น้ำหนักเบา อ่อนโยน สีขาว
จัดเป็นอีกสีที่มีความเรียบเช่นเดียวกับสีดำ จำเป็น ต้องมีองค์ประกอบอื่นๆ มาช่วยทำให้เกิดความโดดเด่นขึ้น เช่นเดียวกัน
เหมาะกับธุรกิจประเภท : ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับเด็ก, เครื่องสำอาง, สกินแคร์, สุขภาพ ตัวอย่างแบรนด์ที่เลือกใช้สีขาว : Apple, THREE,
2. สีดำ มีความหมายถึงความคลาสสิก หรูหรา เป็นอมตะ ลึกลับ และเป็นทางการ
มักนำไปใช้กับบัตรเครดิต เพื่อ แสดงถึงความหรูหรา มีระดับ แม้จะเป็นสีที่ไม่ค่อยมีความ โดดเด่น แต่เมื่อแบรนด์ต้องการนำสีดำไปใช้เป็นหลัก ก็มัก จะมีองค์ประกอบอื่นๆ อย่างลายเส้น เข้ามาช่วยให้ดูโดดเด่น ขึ้น และไม่ให้ดูเรียบจนเกินไป ไม่เหมาะกับธุรกิจอาหาร
เหมาะกับธุรกิจประเภท : เครื่องแต่งกาย, เทคโนโลยี, ยานยนต์, เครื่องสำอาง ตัวอย่างแบรนด์ที่เลือกใช้สีดำ : Chanel, YSL, Loreal, Banana IT
3. สีส้ม แสดงถึงความตื่นเต้น กล้าหาญ เป็นมิตร การ ผจญภัย เป็นสีที่อยู่ระหว่าง
สีเหลืองและสีแดง จึงเป็นอีกสีที่ สามารถดึงดูดสายตาของผู้บริโภคได้ และยังให้ความรู้สึก ถึงความเป็นเพื่อน ไว้เนื้อเชื่อใจได้
เหมาะกับธุรกิจประเภท : อาหาร, สุขภาพ, เทคโนโลยี, ที่อยู่อาศัย
ตัวอย่างแบรนด์ที่เลือกใช้สีส้ม : SC ASSET, Shopee, Xiaomi, Kerry,
Thaismile, Nike, Hermes
4. สีเหลือง อาศัย มีความหมายถึงความหวัง การมองในแง่ดี ความ คิดสร้างสรรค์
ความสดใส ความสุข เป็นสีที่มีความฉูดฉาด พอที่จะดึงดูดความสนใจของผู้บริโภคแม้อยู่ในระยะไกล และ ยังเป็นสีที่จับคู่กับสีอื่นๆ ได้ง่าย สามารถใช้กับธุรกิจได้แทบ จะทุกประเภท
เหมาะกับธุรกิจประเภท : พลังงาน, อาหาร, ที่อยู่
ตัวอย่างแบรนด์ที่เลือกใช้สีเหลือง : McDonald's, Nok Air, Mr.DIY
5. สีม่วง แสดงความถึงความสง่างาม ซับซ้อน ลึกลับ โร แมนติก แข็งแกร่ง มี
จินตนาการ สีม่วงเป็นสีแห่งอารมณ์ และความผ่อนคลาย เป็นได้ทั้งสีโทนร้อนและสีโทนเย็น ขึ้น อยู่กับความเข้มของสี
เหมาะกับธุรกิจประเภท : สินค้าเกี่ยวกับผู้หญิง, เครื่องสำอาง, น้ำหอม,
เครื่องประดับ, สายการบิน, เครื่อง แต่งกาย
ตัวอย่างแบรนด์ที่เลือกใช้สีม่วง : การบินไทย ธนาคารไทยพาณิชย์, ศรีจันทร์, Cute Press
6. สีฟ้าและ สีน้ำเงิน มีความหมายถึงความเชื่อมั่น ความไว้วางใจ ปลอดภัย มั่นคง
เป็นสีที่นิยมใช้มากที่สุดสีหนึ่ง ซึ่งเป็นโทนสี กลางๆ ที่สามารถใช้ได้กับทุกผลิตภัณฑ์ ยกเว้นในธุรกิจ อาหาร เพราะเมื่อใส่สีฟ้า หรือสีน้ำเงินมากเกินไปจะไปทำให้ ลดความยากอาหารลง
เหมาะกับธุรกิจประเภท : พลังงาน, การเงิน, สาย การบิน, เทคโนโลยี, สุขภาพ ตัวอย่างแบรนด์ที่เลือกใช้สีฟ้า-น้ำเงิน : Facebook, Twitter, Samsung,
Uniliver, ธนาคารกรุงเทพ
7. สีเขียว เป็นสีที่แสดงถึงความสดชื่น สุขภาพดี ความสงบ ธรรมชาติ ปลอดภัย
ซึ่งช่วงหลังๆ มานี้หลายๆ แบรนด์นิยม ใช้สีนี้กันมากขึ้น เพราะต้องการเน้นความเป็นธรรมชาติ และ สุขภาพ เป็นสีที่มีโทนเข้มและโทนอ่อนให้เลือกใช้ ซึ่งแต่ละ โทนก็ให้ความรู้สึกที่ต่างกันออกไป
เหมาะกับธุรกิจประเภท : สินค้า Organic, ร้าน อาหาร, ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร, เครื่องดื่ม
ตัวอย่างแบรนด์ที่เลือกใช้สีเขียว : Starbucks, Grab, ร้านกาแฟ Amazon,
ธนาคารกสิกรไทย
8. สีแดง แสดงถึงความตื่นเต้น หลงใหล มีพลัง ความเร็ว เป็นสีที่ช่วยเพิ่มอัตรา
การเต้นของหัว มักถูกใช้ในป้ายลด ราคา หรือป้ายเตือนต่างๆ เป็นสีที่ดึงดูดการมองเห็นได้เป็น เทคโนโลยี
เหมาะกับธุรกิจประเภท : อาหาร, อุปกรณ์กีฬา,
ตัวอย่างแบรนด์ที่เลือกใช้สีแดง : KFC, Pizza Hut, Coca cola (Coke), Kitkat
3.4 ออกแบบจากพื้นหลังสีขาว
เริ่มแรกให้ใช้พื้นหลังสีขาวในการออกแบบเพราะจะทำให้เราเห็นองค์ประกอบต่างๆ ของโลโก้ได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น หลังจากออกแบบพื้นหลังสีขาวเสร็จแล้วค่อยนำไปต่อยอดอย่างอื่น เช่น ใส่พื้นหลังสีดำ หรือทำเป็นลวดลายต่างๆ สิ่งเหล่านี้ค่อยนำมาเป็นส่วนเสริมในภายหลัง
3.5 ไม่ควรใช้เอฟเฟคโลโก้เยอะ
อย่าใช้เอฟเฟคบนโลโก้เยอะจนเกินไป เน้น Logo ที่ดูเรียบง่ายและสื่อถึงความหมาย ช่วยสร้างการจดจำได้ดี การใช้เอฟเฟคโลโก้ที่ดูแปลกตานั้นอาจทำให้โลโก้ของคุณไม่มีพาวเวอร์ไม่แนะนำให้ใช้สีรุ้ง
3.6 เทคนิคเล่นกับพื้นที่ว่าง
การออกแบบตราสินค้าอีกหนึ่งเทคนิคที่น่าสนใจก็คือการเล่นกับพื้นที่บนโลโก้ให้มีความหลากหลายมากขึ้น การทำโลโก้นั้นจะต้องทำให้เกิดความสมดุลของการจัดวาง การเล่นกับพื้นที่ว่างทำให้โลโก้ที่เป็นตัวอักษรดูไม่อึดอัดมากจนเกินไป ทำให้ผู้คนที่พบเห็นมองดูแล้วสบายตาเกิดการจดจำที่ดีในขณะเดียวกัน
3.7 ไม่ก๊อปปี้งานคนอื่น
ข้อนี้สำคัญมากๆ เลยไม่ควรไป Copy งานของคนอื่นเพราะสมัยนี้โลกแห่งอินเทอร์เน็ตมันแคบ สามารถค้นหาได้ไม่ยาก คุณสามารถใช้โลโก้ของคนอื่นมาเป็น inspiration หรือแรงบันดาลใจได้แต่ไม่ใช่การ copy เพราะหากเป็นการ copy นั้นจะลดความน่าเชื่อถือลงเป็นอย่างมาก ซึ่งไม่เป็นผลดีนัก ทางที่ดีควรใช้ไอเดียของตัวเอง เพื่อให้ได้โลโก้ที่โดดเด่น และแตกต่างจากคู่แข่งทางการตลาด
โลโก้ต้องดูดีและสื่อความหมายได้
3.8 คิดให้รอบคอบ
ออกแบบโลโก้ให้น่าสนใจจะต้องผ่านกระบวนการคิดอย่างรอบคอบ หลายคนลงมือทำโลโก้โดยไม่มีจุดประสงค์หรือไม่มีไอเดีย ซึ่งไม่ค่อยดีนักเพราะอย่าลืมว่า โลโก้จะอยู่คู่ธุรกิจหรือองค์กรไปอีกนาน การเริ่มทำโลโก้จะต้องคิดให้รอบคอบวางแผนให้ดีช่วยให้ผลงานออกมาน่าประทับใจและเป็นที่จดจำ
3.9 อย่าดีไซน์โลโก้ตามเทรนด์
วิธีออกแบบโลโก้สินค้า อย่าดีไซน์โลโก้ตามเทรน ทำไมการดีไซน์โลโก้ตามเทรนประจำปีหรือสีประจำปีถึงไม่ใช่ความคิดที่ดี นั่นก็เพราะสิ่งเหล่านี้อยู่ได้ไม่กี่ปีก็จะกลายเป็นของเก่าและถูกลืมไปในที่สุด โลโก้ที่ดีจะต้องอยู่ได้นาน คงไม่มีแบรนด์ไหนอยากเปลี่ยนโลโก้เป็นประจำทุกปีใช่หรือไม่เพราะอาจทำให้ลูกค้างงได้
3.10 สร้างความหมายมากกว่าชื่อแบรนด์
logo ที่ดี จะต้องสร้างความหมายมากกว่าการเอาชื่อแบรนด์มาเป็นโลโก้ ยกตัวอย่างเช่น โลโก้ของ amazon.com คุณจะเห็นได้ว่ามีลูกศรสีส้ม ชี้จากตัว A ไปหาตัว Z เป็นการบ่งบอกว่า Amazon นั้นขายสินค้าทุกอย่างตั้งแต่ a ถึง z นอกจากนั้นลูกศรสีส้มยังมีลักษณะคล้ายกับรอยยิ้ม สื่อถึงหน้าลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการได้รับความประทับใจกลับไปนั่นเอง
1. เข้าเว็บไซต์ หรือแอบพลิเคชัน Canva
2. สร้างดีไซน์
เมื่อสมัครการใช้งานเรียบร้อยแล้ว ให้ไปที่ สร้างดีไซน์
3. หลังจากนั้นให้คลิกเลือก โลโก้ (LOGO) ซึ่งระบบจะเซ็ตขนาดให้ 500 x 500 พิกเซล
4. หากต้องการกำหนดขนาดเองก็สามารถคลิก กำหนดขนาด ด้านล่างได้เลย
5. ใส่ชื่อธุรกิจและตกแต่งคลิก 2 ครั้ง เพื่อใส่ชื่อธุรกิจหรือชื่อแบรนด์ หลังจากนั้นเลือกตกแต่งโลโก้เพิ่มเติมจาก องค์ประกอบ
6. ดาวน์โหลดภาพโลโก้หลังจาก สร้างดีไซน์โลโก้ (LOGO) เรียบร้อยแล้ว
7. หากต้องการ ดาวน์โหลดโลโก้ ให้คลิกไปที่ปุ่ม แชร์ และคลิก ดาวน์โหลด
8. เลือก ประเภทไฟล์ ที่ต้องการดาวน์โหลด หลังจากนั้นคลิก ดาวน์โหลด
9. เมื่อดาวน์โหลดเสร็จแล้ว ระบบจะแจ้งว่า "เสร็จเรียบร้อย"
อ้างอิง
ออกแบบ #โลโก้ สวยอย่างมืออาชีพฟรี ด้วย #Canva I #Logo 19 มิถุนายน 2563 https://www.youtube.com/watch?v=sJW-PBtFr9I
สอน ทำโลโก้ด้วย canva แบบง่ายๆ ตอนที่ 1 19 สิงหาคม 2562 https://www.youtube.com/watch?v=kNIzwcP0wME
Canva #EP1 สร้างโลโก้ร้านง่ายๆ สำหรับมือใหม่ 29 สิงหาคม 2563 https://www.youtube.com/watch?v=472lCmibOMc&list=PLzcsdqfYlBid-nB_M0QseHcoO92MRWlGt&index=2
EP.38 สอนทำ Logo แบรนด์หรือสินค้า แบบง่ายๆ ใครๆ ก็ทำได้ ด้วยโปรแกรม "Canva" 16 กรกฎาคม 2563 https://www.youtube.com/watch?v=kVhJLs3wAw8&list=PLzcsdqfYlBid-nB_M0QseHcoO92MRWlGt&index=3
tutorial การทําโลโก้ ด้วย canva.com 29 กรกฎาคม 2563 https://www.youtube.com/watch?v=Cph4dhUOxTo&list=PLzcsdqfYlBid-nB_M0QseHcoO92MRWlGt&index=6
ออกแบบโลโก้ทําด้วยตัวเองฟรีที่ Canva 29 สิงหาคม 2563 https://www.canva.com/th_th/create/logos/
9 สิงหาคม 2563สร้างโลโก้สินค้าของคุณได้ฟรี!! ผ่านCanva https://news.trueid.net/detail/pGMr3PAPbAYQ