canva คืออะไร? ฟีเจอร์หลัก ๆ ของ Canva คือการมี Template สำเร็จรูปไว้ให้พร้อม และครอบคลุมงานทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น Presentation, Resume, Report, Poster, Banner, แผ่นพับ, การ์ด, นามบัตร และอื่น ๆ อีกมากมาย โดย Canva ได้สร้าง Template ใหม่ ๆ ออกมาอยู่ทุกวัน มากกว่า 420,000 Template [ข้อมูลเดือนกรกฎาคม ปี 2021] หลักการใช้งานของ Canva คือการทำงานรูปแบบ “Drag-and-Drop” โดยให้ผู้ใช้สร้างหรือเลือก Template มาเป็นแบบ จากนั้น ใส่ข้อความ, ลากรูปภาพ หรือ Vector ที่ต้องการมาใส่, เปลี่ยนสีให้เข้ากับงานของตน, และจัด Layout ต่าง ๆ ผ่านการลากเมาส์ไปมา เพียงเท่านี้คุณก็จะได้ออกมาแล้ว 1 ชิ้น ในระยะเวลาอันรวดเร็ว รวมถึง เมื่อสิ้นปี 2020 ที่ผ่านมา Canva ก็เพิ่งเปิดตัวการใช้งานรูปแบบของ Collaboration ที่ผู้ใช้สามารถนำเพื่อนร่วมทีมมาออกแบบงานชิ้นเดียวกันได้ในเวลาเดียวกัน เพิ่มรูปแบบการทำงานร่วมกันที่เหมาะกับองค์กรยุคสมัยนี้มากๆ 

     1.  สร้างสรรค์งานออกแบบที่หลากหลายและครอบคลุมระบบโปรแกรมของ Canva ถูกออกแบบมาให้ครอบคลุมกับงานออกแบบทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นการทำภาพหรือวิดีโอบนสื่อโซเชียลมีเดีย, การทำภาพสำหรับสื่อสิ่งพิมพ์, การทำสไลด์, การออกแบบโลโก้ อีกทั้งยังมีขนาดของภาพที่เหมาะสมกับงานออกแบบต่าง ๆ ให้คุณกดเลือก โดยไม่ต้องเสียเวลามาตั้งค่าเองได้

ภาพที่ 2.1 งานออกแบบ canva
ที่มา : พิจิตรา  วิจารณกุล , 2563 

      2.      เทมเพลตฟรีกว่า 250,000 เทมเพลตนอกจากจะมีขนาดของภาพเพื่องานออกแบบที่เหมาะสมแล้ว Canva ยังมีเทมเพลตสำเร็จรูปให้คุณเลือกใช้และนำมาปรับเปลี่ยนแก้ไขให้เป็นสไตล์ของคุณกว่า 250,000 เทมเพลต อีกทั้งคุณยังสามารถเสิร์ชหาธีมหรือคอนเซ็ปต์ หรือแม้แต่เทมเพลตที่เหมาะสมกับเทศกาลต่าง ๆ ที่ต้องการได้อย่างอิสระ 

ภาพที่ 2.2 เทมเพลตสำหรับงานต่างๆ 

ที่มา : พิจิตรา  วิจารณกุล , 2563

    3.      การแก้ไขรูปภาพ Canva มีเครื่องมือสำหรับการแก้ไขรูปภาพมากมายให้เลือกใช้ ไม่ว่าจะเป็นการแก้ไขพื้นฐานอย่างการปรับเปลี่ยนขนาดรูป การปรับแต่งภาพให้มีสีสันอย่างที่ต้องการ หรือแม้แต่เครื่องมืออย่างการลบพื้นหลังและการสร้าง Smart mock up ต่าง ๆ

      4.      ภาพสต็อค, เวคเตอร์, ฟ้อนต์และเครื่องมือฟรีอื่น ๆในแพลตฟอร์ม Canva ยังมีภาพสต็อค ภาพเวคเตอร์ ฟ้อนต์หรือกราฟิคต่าง ๆ รวมไปถึงวิดีโอและ
    เสียงประกอบให้คุณนำมาใช้ในงานออกแบบได้มากมายและครบครันในที่เดียว ไม่ต้องทำการเซฟและนำมาใช้ เพราะคุณสามารถกดเลือกเครื่องมือที่ต้องการได้
    เลยเรียกได้ว่าหมดทุกปัญหาด้านการจัดเก็บไปเลย

                 แพลตฟอร์ม Canva ถูกพัฒนาขึ้นมา เพื่อให้คุณสามารถใช้งานได้ทั้งบนเว็บไซต์และในรูปแบบของแอพลิเคชัน ซึ่งสำหรับการใช้งานในแอพลิเคชันนั้น เครื่องมือต่าง ๆ ก็มีให้ครบครันเหมือนกับการใช้งานบนเว็บไซต์ไม่มีผิด อีกทั้งรูปภาพและงานออกแบบต่าง ๆ ยังถูกซิงค์ให้เชื่อมกันในทุกอุปกรณ์ ช่วยให้คุณสามารถเริ่มต้นออกแบบได้ผ่านแอป Canva ขณะกำลังเดินทางกลับบ้าน หรือจะกลับไปทำต่อบนเว็บไซต์ ช่วยให้คุณไม่ต้องเสียเวลาในการโยกไฟล์ไปมาให้วุ่นวายอีกด้วย 

      ในการใช้งานแบบเริ่มต้น คุณสามารถใช้งานได้ฟรี โดยฟีเจอร์หลัก ๆ ยังมีอย่างครบถ้วน และให้พื้นที่ในการจัดเก็บบนคลาวด์ที่ 5 GB แต่หากคุณต้องการใช้งาน Canva Pro แบบเต็มรูปแบบที่มีเครื่องมือและฟีเจอร์แบบจัดเต็ม รวมถึงมีเทมเพตให้เลือกใช้กว่า 600,000 แบบ และรูปภาพ วิดีโอ เสียง กราฟิกและฟ้อนต์ต่าง ๆ เพิ่มให้อีกกว่า 100 ล้านรายการ และมีพื้นที่จัดเก็บบนคลาวด์ให้สูงถึง 100 GB และสามารถใช้ทำงานร่วมกันได้สูงสุดถึง 5 คน โดยมีค่าบริการอยู่ที่ 229 บาท/เดือน และยังมีแพคเกจสำหรับองค์กรที่สามารถเข้าใช้งานขั้นต่ำอยู่ที่ 25 คน โดยราคาเริ่มต้นจะอยู่ที่ 889 บาท/เดือน แต่หากคุณเป็นองค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไรหรือโรงเรียนและหน่วยงานการศึกษา ทาง Canva ก็มีแพคเกจให้คุณสมัครใช้งานโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น

ข้อดี

-     ใช้งานง่าย ไม่ต้องมีพื้นฐานการออกแบบก็ใช้ได้

-     มีเทมเพลตสำเร็จรูปให้เลือกเยอะ

-     มีรูปภาพ, วิดีโอ, เสียง, กราฟิคให้ใช้งานมากมาย

-     มีระบบคลาวด์ที่ช่วยให้ประหยัดพื้นที่จัดเก็บบนอุปกรณ์ของคุณ

-     สามารถใช้ได้ทั้งบนเว็บไซต์ผ่านคอมพิวเตอร์และแอพลิเคชันผ่านแท็บเล็ตและมือถือ

ข้อเสีย

-     มีค่าใช้จ่าย เพื่อการใช้งานแบบเต็มรูปแบบ

-     ต้องเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตเพื่อใช้งาน

-     ไม่มีเครื่องมือมากพอสำหรับการออกแบบอย่างแบบมืออาชีพ

-     การเซฟไฟล์มีนามสกุลที่จำกัด

สิทธิ์ในการครอบครองผลงานเป็นของทาง Canva และผู้ใช้ได้รับเพียงสิทธิ์ในการใช้งานหรือเผยแพร่ 

     Canva คือแพลตฟอร์มในการออกแบบ ที่มีเครื่องมือหลากหลายและสามารถใช้งานได้ง่าย โดยไม่ต้องมีทักษะพื้นฐานอะไรมากมาย รวมถึงฟีเจอร์ต่าง ๆ ก็ยังไม่ได้ครอบคลุมเท่ากับโปรแกรมออกแบบตัดต่อเฉพาะทาง ดังนั้น Canva จึงเหมาะกับการใช้งานส่วนบุคคล ซึ่งอาจจะเป็นการทำภาพหรือวิดีโอที่ไม่ได้มีการออกแบบอะไรที่ซับซ้อนมากนัก หรือการทำสไลด์และเอกสารเพื่อการเรียนรู้ แต่สำหรับคนที่ทำธุรกิจ Canva คือตัวเลือกที่ตอบโจทย์กับธุรกิจขนาดเล็ก-กลาง ที่ยังไม่มีงบประมาณในการจ้างนักออกแบบมืออาชีพ หรือความต้องการในการใช้งานที่ซับซ้อนและหลากหลายนั่นเอง

      วิธีการสมัคร

       มี 2 วิธี คือ ผ่านแอปพลิเคชัน และผ่านเว็บไซต์ ในที่นี้ขอกล่าวเพียงการสมัครผ่าน เว็บไซต์ 

1.  เข้าเว็บไซต์  https://www.canva.com/th_th/  คลิกปุ่ม สมัครใช้งาน

ภาพที่ 2.3 การสมัคร canva

ที่มา : พิจิตรา  วิจารณกุล , 2563

          2. เมื่อกดเข้าสู่ระบบด้วย Google ระบบจะนำคุณไปสู่หน้าด้านล่างนี้

   3. ถ้าหากในเครื่องเราเข้ารหัสอีเมลไว้แล้วหน้าก็จะโชว์อีเมลที่เราใช้อยู่เราสามารถเลือกอีเมลได้เลย หากไม่ได้เข้าอีเมลไว้เลยระบบหน้านี้ก็จะให้เข้าที่อยู่อีเมลและรหัสผ่านใหม่

ภาพที่ 2.4 การเลือกบัญชีอีเมลเพื่อทำการสมัครเข้าใช้งาน

ที่มา : พิจิตรา  วิจารณกุล , 2563

          4. หลังจากเข้าอีเมลเสร็จแล้ว ก็เป็นอันเสร็จ ระบบจะพาเราไปหน้านี้ ก็จะถามเราว่าใช้ Canva ทำอะไร ซึ่งเราสมัครในสถานะนักเรียน ดังนั้นจึงเลือก นักเรียน และเริ่มต้นใช้งานได้เลย

ภาพที่ 2.5 การเลือกสถานะก่อนเข้าใช้งาน 

ที่มา : พิจิตรา  วิจารณกุล , 2563

     เมื่อเข้าสู่ระบบแล้วจะปรากฏหน้าเว็บไซต์ของ Canva แบ่งเป็นส่วนประกอบต่างๆ ดังนี้

ภาพที่ 2.6 ส่วนประกอบหน้าจอ 

ที่มา : พิจิตรา  วิจารณกุล , 2563

1.  ส่วนจัดการออกแบบของเรา จัดกลุ่มและสื่อที่เราลบแล้ว

2.  ส่วนการสร้างโดยแต่ละงานออกแบบจะมีขนาดที่กำหนดมาให้ และกำหนดขนาดเองได้เช่นกัน

3.  เป็นงานออกแบบล่าสุดที่ทำเอาไว้แล้ว หรือส่วนงานออกแบบของเรา

หน้าต่างการทำงานย่อยในการสร้างงานออกแบบโดยใช้แม่แบบ

ภาพที่ 2.7 หน้าต่างการทำงานย่อยในการสร้างงานออกแบบโดยใช้แม่แบบ
ที่มา : พิจิตรา  วิจารณกุล , 2563 

1.  แถบเมนู ประกอบไปด้วย หน้าหลัก ไฟล์ และปรับขนาด

2.  แถบเครื่องมือในการทำงานต่างๆ ประกอบไปด้วย แม่แบบ องค์ประกอบ อับโหลดข้อความ โลโก้ และเครื่องมือเพิ่มเติม

3.  แถบแสดงสถานะของเครื่องมือต่างๆ จะถูกเปลี่ยนไปตาม สถานะของเครื่องมือการทำงาน

4.  พื้นที่แสดงผลการทำงานต่างๆ

5.  การเพิ่มพื้นที่ในการทำงานในแต่ละหน้า

6.  การตั้งชื่อไฟล์งาน

7.  พรีเซนต์ สำหรับการนำเสนองาน

8.  เครื่องมือแชร์ เพื่อทำงานร่วมกัน ดาวน์โหลดงาน

9.  เครื่องมือสำหรับการย่อขยายหน้าต่างแสดงผลการทำงาน

10.        เครื่องมือสำหรับดูเส้นกริด

11.         เครื่องมือสำหรับการย่อขยายหน้าต่างแสดงผลการทำงาน

12.         เครื่องมือช่วยเหลือหากมีข้อสงสัยในการทำงาน

13.         เครื่องมือสำหรับการสนทนาร่วมกันระหว่างทำงาน

      1.  Templates คือส่วนที่เลือกรูปแบบงาน โดยเทมเพลตของ Canva มีให้เราได้เลือกใช้งานได้หลากหลาย รวมถึงองค์ประกอบต่างๆ ของเทมเพลตสามารถเพิ่ม/ลบ ได้อย่างอิสระ นี่จึงเป็นจุดเด่นของระบบ

ภาพที่ 2.8 เทมเพลต
ที่มา : พิจิตรา  วิจารณกุล , 2563

   2.      Elements คือองค์ประกอบต่างๆ ที่ผู้ใช้สามารถเพิ่มลงไปในงาน อาทิ กรอบของรูปภาพ ไอคอนต่างๆ เสียง เส้น ฯลฯ

ภาพที่ 2.9 องค์ประกอบ

ที่มา : พิจิตรา  วิจารณกุล , 2563

         3.  Uploads คือส่วนที่รวมภาพ วิดีโอ เสียง ที่ผู้ใช้ใส่ลงไปในระบบ โดยภาพ วิดีโอ และเสียงทั้งหมดจะอยู่ cloud สามารถเรียกมาใช้เมื่อใดก็ได้การอัปโหลดไฟล์ลงบน Canva เริ่มจาก เลือก อัปโหลด จากแถบเครื่องมือด้านขวา จากนั้นคลิก อัพโหลดไฟล์ เลือกไฟล์ที่ต้องการอัปโหลด เมื่ออัปโหลดเสร็จสิ้นแล้ว จึงสามารถใช้ได้

ภาพที่ 2.10 การอัปโหลดไฟล์

ที่มา : พิจิตรา  วิจารณกุล , 2563

     4.      Text เป็นส่วนของเครื่องมือที่ใช้สำหรับเพิ่มข้อความ ให้กับผลงาน โดยมีรูปแบบให้เลือกใช้งานที่หลากหลาย

ภาพที่ 2.11 การเพิ่มข้อความ

ที่มา : พิจิตรา  วิจารณกุล , 2563

การเพิ่มข้อความ

1.  คลิก T ข้อความ ที่แถบเครื่องมือด้านข้าง

2.  คลิกที่ตัวเลือกเพื่อเพิ่มหัวเรื่อง หัวเรื่องย่อย หรือข้อความเนื้อหา อีกทั้งยังสามารถ

ปุ่มลัด: กด T บนแป้นพิมพ์ เพื่อแทรกกล่องข้อความลงในดีไซน์ 

ภาพที่ 2.12 การแก้ไขข้อความ

ที่มา : พิจิตรา  วิจารณกุล , 2563

การแก้ไขข้อความ

1.  ดับเบิลคลิกที่กล่องข้อความที่ต้องการแก้ไข

2.  ลบหรือแก้ไขคอนเทนต์ในนั้น ใช้ตัวเลือกการแก้ไขข้อความบนแถบเครื่องมือแก้ไขเพื่อจัดรูปแบบข้อความ

คลิกด้านนอกกล่องข้อความเพื่อเสร็จสิ้น 

 ภาพที่ 2.13 การทำซ้ำกล่องข้อความ

ที่มา : พิจิตรา  วิจารณกุล , 2563

การทำซ้ำกล่องข้อความ

1.      คลิกเพื่อเลือกกล่องข้อความที่ต้องการทำซ้ำ

2.      บนแถบเครื่องมือแบบลอยตัวที่ปรากฏขึ้นข้างบนหรือช้างใต้ ให้คลิก ทำสำเนา

ปุ่มลัด : หลังจากคลิกที่กล่องข้อความแล้ว ให้กด Cmd + C (Mac) หรือ Ctrl + C (Windows) บนแป้นพิมพ์เพื่อคัดลอก กด Cmd + V (Mac) หรือ Ctrl + V (Windows) เพื่อวาง 

ภาพที่ 2.14 การลบกล่องข้อความ
ที่มา : พิจิตรา  วิจารณกุล , 2563

การลบกล่องข้อความ

1.      คลิกเพื่อเลือกกล่องข้อความที่คุณต้องการลบ

2.      บนแถบเครื่องมือแบบลอยตัวที่ปรากฏขึ้นข้างบนหรือช้างใต้ ให้คลิก  ลบ หรือกด Backspace (Windows) หรือ Delete (Mac) บนแป้นพิมพ์ได้

5. แอพ เป็นส่วนที่ให้ Canva เชื่อมต่อกับระบบอื่นๆเพื่อเพิ่มความสามารถ

ภาพที่ 2.15 แอพ

ที่มา : พิจิตรา  วิจารณกุล , 2563

6. เสียง

การอัปโหลดไฟล์เสียงและใส่เสียงในวิดิโอ

1.      อัปโหลดไฟล์เสียงลงใน CANVA โดยไปที่แถบเครื่องมือตัดต่อ แล้วให้คลิกเลือกแท็บ อัปโหลด > อัปโหลดสื่อ

2.      เลือกไฟล์เสียงที่ต้องการใส่ในวิดีโอ หรือคุณสามารถลากและวางไฟล์จากคอมพิวเตอร์ไปที่แท็บอัปโหลดได้เลย

3.       เมื่อต้องการใส่เสียงที่อัปโหลด สามารถคลิกที่เลือกเสียงดังกล่าว 

ภาพที่ 2.16 การอัปโหลดไฟล์เสียงและใส่เสียงในวิดิโอ

ที่มา : พิจิตรา  วิจารณกุล , 2563

4.      เลือก เสียง

5.      นอกจากนี้ยังสามารถค้นหาแทร็กเสียงหรือเอฟเฟ็กต์เสียงจากแท็บ เสียง และเพิ่มลงไปในวิดีโอได้

6.      โดยเลื่อนดูหมวดหมู่หรือใช้ แถบค้นหา แล้วคลิก ดูทั้งหมด

ภาพที่ 2.17 การอัปโหลดไฟล์เสียงและใส่เสียงในวิดิโอ
ที่มา : พิจิตรา  วิจารณกุล , 2563 

7.      เมื่อใส่เสียงในวิดีโอของเรียบร้อยแล้ว

8.     สามารถปรับระดับความดังและตัดแต่งคลิปแทร็กเสียงได้ โดยคลิกขวาและเลือกสิ่งที่ต้องการตัดแต่งได้เลย