ความหมายของสถิติ
สถิติ หมายถึง บรรดาตัวเลขซึ่งได้จากการรวบรวม เพื่อหาความหมายที่แน่นอนจากสิ่งที่ต้องการ ศึกษา โดยทั่วไปจะเรียกสถิติตามความหมายนี้ว่า
“ข้อมูลสถิติ” (Statistical Data)
สถิติ หมายถึง หลักการและระเบียบที่ว่าด้วยการเก็บรวบรวมข้อมูลที่เป็นตัวเลข ซึ่งแสดงถึงข้อเท็จจริงต่าง ๆ อันนำไปสู่การตัดสินใจที่มีเหตุผล
เราเรียกสถิติตามความหมายนี้ว่า “สถิติศาสตร์” (Statistics)
1. ขอบข่ายของสถิติ
สถิติเชิงพรรณนา คือ หลักการที่เกี่ยวกับระเบียบวิธีทางสถิติที่ใช้ ในการรวบรวมข้อมูล การจัดระเบียบข้อมูล การนำเสนอข้อมูล ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นลักษณะของข้อมูล โดยการตัดรายละเอียดที่ไม่สำคัญออกและเสนอเฉพาะลักษณะที่สำคัญของข้อมูลเหล่านั้น
2. สถิติเชิงอนุมาน
เป็นการวิเคราะห์ข้อมูลจากตัวอย่างที่เก็บมาได้ และอนุมานหรือโยงผลสรุปไปสู่ประชากร โดยอาศัยวิธีการทางสถิติ ซึ่งการอนุมานอาจทำในรูปของการประมาณค่าเพื่อแสดงลักษณะของประชากร หรือการทดสอบสมมติฐาน
3. ประโยชน์ของสถิติ
1. ประโยชน์ในระดับบุคคล
2. ประโยชน์ในระดับครัวเรือน
3. ประโยชน์ในระดับหน่วยงานธุรกิจเอกชน
4. ประโยชน์ในระดับประเทศ
4. ธรรมชาติของข้อมูล
1. ลักษณะของข้อมูล
1. ข้อมูลเชิงปริมาณ (Quantitative Data) คือ ข้อมูลที่ใช้แทนขนาดหรือปริมาณ ซึ่งวัดออกมาเป็นค่าของตัวเลขได้โดยตรง เช่น อายุ ส่วนสูง น้ำหนัก ราคา พื้นที่ ปริมาตร ความกว้าง ความยาว รายได้ คะแนนสอบ ความเร็ว ระยะทาง เป็นต้น
2. มาตรการวัดของข้อมูล
2. ข้อมูลเชิงคุณภาพ (Qualitative Data) คือ ข้อมูลที่ไม่สามารถวัดออกมาเป็นค่าตัวเลขได้โดยตรง แต่จะเป็นข้อมูลที่บรรยายคุณสมบัติหรือลักษณะของสิ่งที่กำลังสนใจ เช่น เพศ สถานภาพ ความนิยมพรรคการเมือง ความคิดเห็น เชื้อชาติ ศาสนา ระดับการศึกษา สีผิว เป็นต้น
3. มาตรอันตรภาค (Interval Scale) เป็นมาตรการวัดที่เป็นคุณสมบัติพื้นฐานเหมือนมาตรเรียงลำดับ แต่มาตรการวัดแบบนี้สามารถบอกความแตกต่างของข้อมูลได้เป็นช่วง ๆ เช่น การวัดอุณหภูมิเป็น 100 ํC ซึ่ง ก็คือ 100 ช่วงที่เท่า ๆ กัน แต่ตัวเลข 0 ในมาตรการวัดแบบนี้ไม่เป็นศูนย์ที่แท้จริง (Absolute Zero) แต่เป็นศูนย์สัมพัทธ์ (Relative Zero)
4. มาตรอัตราส่วน (Ratio Scale) เป็นมาตรการวัดที่สมบูรณ์ที่สุด โดยมีคุณสมบัติพื้นฐานเหมือนมาตรอันตรภาคแต่ตัวเลขศูนย์ในมาตรการวัดแบบนี้เป็นศูนย์ที่แท้จริงโดยถ้าวัดเป็นจำนวนเท่าของข้อมูลก็จะเป็นจริง เช่น นํ้าหนัก 0 กิโลกรัม ก็แสดงว่าไม่มีนํ้าหนักเลย
3. ข้อมูลสถิติ
ข้อมูลสถิติ (Statistical Data) หรือค่าการสังเกต (Observation) หมายถึง ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องที่สนใจศึกษา ซึ่งอาจจะอยู่ในรูปตัวเลข เช่น นํ้าหนัก ระยะทาง เป็นต้น หรืออาจจะเป็นข้อเท็จจริงที่ไม่เป็นตัวเลข เช่น อาชีพ เพศ เป็นต้น ข้อมูลหรือข้อเท็จจริงต้องมีจำนวนมาก เพื่อเป็นการแสดงถึงลักษณะของกลุ่มหรือส่วนร่วม นำไปใช้ในการเปรียบเทียบ หรือตีความหมายได้ ด้วยเหตุนี้ข้อเท็จจริงเพียงหน่วยเดียวจึงไม่เป็นข้อมูลสถิต
5. ระเบียบวิธีทางสถิติ
1. การเก็บรวบรวมข้อมูล (Collection of Data)
1. ข้อมูลปฐมภูมิ (Primary Data) เป็นข้อมูลที่ผู้ต้องการศึกษาได้เก็บรวบรวมมาเอง ซึ่งข้อมูลประเภทนี้จะเป็นข้อมูลที่ทันต่อเหตุการณ์ปัจจุบัน แต่อาจจะต้องเสียค่าใช้จ่ายและเสียเวลามากในการเก็บรวบรวม แต่จะเป็นข้อมูลที่ได้มาจากแหล่งผู้ให้ข้อมูลโดยตรง
2. ข้อมูลทุติยภูมิ (Secondary Data) การได้มาซึ่งข้อมูลประเภทนี้ผู้ที่ต้องการศึกษาไม่ได้ลงมือเก็บข้อมูลด้วยตนเอง แต่อาจรวบรวมมาจากหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่ง ซึ่งมีเป็นผู้เก็บบันทึกไว้แล้ว แต่บางครั้งข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ทันสมัยหรือไม่ครบถ้วน
วิธีการเก็บรวบรวมข้อมูลโดยทั่วไปที่นิยมใช้กันมาก มีดังนี้
1. ทะเบียนประวัติ (Registration) 4. การสังเกต (Observation)
2. การสำรวจ (Survey) 5. การทดลอง (Experiment)
3. การสำมะโน (Census)
2. การนำเสนอข้อมูล (Presentation of Data)
เป็นการกระทำกับข้อมูลหลังจากที่ได้รวบรวมมาแล้วให้เป็นหมวดหมู่ ง่ายต่อการทำความเข้าใจ และสะดวกต่อการนำไปใช้ประโยชน์ ซึ่งการนำเสนอข้อมูลมีรูปแบบต่าง ๆ ตามความเหมาะสมกับลักษณะของข้อมูลและมีเทคนิคต่าง ๆ ที่ใช้เพื่อให้ข้อมูลเหล่านั้นมีความน่าสนใจมากขึ้น
3. การวิเคราะห์ข้อมูล (Analysis of Data)
เป็นการนำข้อมูลที่ได้มาคำนวณหาค่าสถิติต่าง ๆ ตามลักษณะของข้อมูลที่ต้องการศึกษา เพื่อนำไปใช้เป็นพื้นฐานสำคัญในการตอบคำถาม หรือข้อสงสัยในเรื่องที่ต้องการทราบ สำหรับกระบวนการวิเคราะห์ข้อมูลทางสถิติมีมากมายหลายวิธี โดยวิธีการแต่ละวิธี ก็เหมาะสมกับลักษณะของข้อมูลแตกต่างกันไป
4. การตีความหมายข้อมูล (Interpretation of Data)
การตีความหมายหรือการแปลความหมายของข้อมูลเป็นขั้นตอนสุดท้ายของระเบียบวิธีทางสถิติ ซึ่งเป็นการนำเอาผลการวิเคราะห์ข้อมูลซึ่งเป็นค่าสถิติต่าง ๆ มาอธิบายความหมายที่ได้เพื่อให้ผู้ศึกษาหรือสนใจสามารถเข้าใจผลการวิเคราะห์