1. Code.org
Code.org เป็นองค์กรไม่แสวงผลกำไรที่จัดทำขึ้นเพื่อขยายโอกาสการเข้าถึงการเรียนวิทยาการคอมพิวเตอร์ในโรงเรียนและเพิ่มการมีส่วนร่วมทางด้าน IT ของผู้หญิงและชนกลุ่มน้อย โดยได้มีการจัดทำหลักสูตรที่มีการใช้งานแพร่หลายมากที่สุดในโรงเรียนหรือมหาวิทยาลัยเพื่อกระจายความรู้ให้กับคนทั่วโลกได้ศึกษา ซึ่งภายในเว็บไซต์เราจะได้เรียนรู้การเขียนโปรแกรมในรูปแบบบล็อกประกอบกับการเล่นเกม โดยในคอร์สเรียนจะมีโจทย์และแบบฝึกหัดให้ได้ฝึกฝนเหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นหัดเขียนโปรแกรมทุกช่วงวัย
2. W3Schools
เว็บไซต์ที่เหมาะกับผู้เริ่มต้นที่อยากเรียนรู้เกี่ยวกับคำสั่งในแต่ละภาษา โดยจะมีตัวอย่างการเขียนคำสั่งโปรแกรมและหน้าเว็บไซต์สำหรับทดลองเขียนโปรแกรม ซึ่งหน้าตาของเว็บไซต์ถูกออกแบบมาให้ใช้งานได้ง่ายและมีให้เลือกเรียนหลายภาษาทั้ง HTML ,CSS ,JavaScript ,SQL ,PHP ,Python ,jQuery ,C++ ,C# และบทเรียนอื่นๆ
3. Khan Academy
เว็บไซต์ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในการเรียนออนไลน์ ไม่ได้มีแค่หัวข้อการเรียนเขียนโปรแกรมเท่านั้น ยังมีหัวข้ออื่นๆ เช่น คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ ศิลปะศาสตร์ และอื่นๆอีกมากมาย ซึ่งในเว็บไซต์มีการเรียนการสอนผ่านวิดีโอแบบ Interactive มีโจทย์แบบฝึกหัดให้ได้ลองทำ โดยภาษาเขียนโปรแกรมที่จะได้เรียนรู้ ได้แก่ HTML ,CSS ,SQL ,JavaScript และภาษาอื่นๆอีกมากมาย
4. freeCodeCamp
เว็บไซต์ที่สามารถทำได้ทั้งเรียนเขียนโปรแกรมและตั้งกระทู้ถาม-ตอบ บนโลกออนไลน์ โดยภายในเว็บไซต์จะมีบทเรียนเกี่ยวกับการพัฒนา Responsive Web การจัดการฐานข้อมูล Data Visualization รวมถึงการนำ API มาใช้ร่วมกับการพัฒนาเว็บไซต์ ซึ่งภาษาเขียนโปรแกรมหลักที่จะได้เรียน ได้แก่ HTML5 ,CSS3 ,JavaScript ,Node.js ,React.js ,D3.js รวมถึงการใช้ Git และ Github
5. Codewars
เว็บไซต์ที่มีการนำเสนอวิธีการเรียนที่สนุกและไม่เหมือนใคร โดยผู้เรียนจะต้องทำโจทย์เพื่อที่จะเก็บ Rank เพิ่มระดับ ผ่านระบบเว็บไซต์ที่เรียกว่า Kata ซึ่งมาในธีมของสงครามและนักรบ เรียกได้ว่าการเรียนเขียนโปรแกรมผ่าน Kata แทบจะไม่ต่างจากการเล่นเกมเลยทีเดียว
6. Coursera
เว็บไซต์ที่ดีที่สุดในการเรียนเขียนโปรแกรมฟรี ด้วยหลักสูตรแบบมืออาชีพและมีความหลากหลาย โดยเว็บไซต์เป็นเหมือนห้องสมุดออนไลน์ขนาดใหญ่ที่สอนโดยอาจารย์จากมหาวิทยาลัยจริง ซึ่งทุกหลักสูตรไม่เสียค่าใช้จ่าย เว้นแต่ว่าเป็นการเรียนเพื่อขอใบรับรองหลักสูตร (Coursera Verified Certificate) โดยมีค่าใช้จ่ายประมาณ 30$-100$ หรือเป็นค่าเงินไทยประมาณ 900-3,000 บาท