1. วิธีดำเนินการ (20 คะแนน)
พิจารณาจากการดำเนินการที่ถูกต้อง ครบถ้วน เป็นไปตามระยะเวลาที่กำหนดไว้ในข้อตกลง และสะท้อนให้เห็นถึงระดับการปฏิบัติที่คาดหวังตามตำแหน่งและวิทยฐานะ
ประเด็นท้าทาย
เรื่อง “การสร้างแบบวัดความเครียดด้านการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5"
1.1 สภาพปัญหาการจัดการเรียนรู้และคุณภาพการเรียนรู้ของผู้เรียน
การเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์ต่าง ๆ ในปัจจุบันที่อยู่รอบตัวมนุษย์เป็นสถานการณ์ที่เกิดขึ้นโดยไม่สามารถคาดการณ์สิ่งที่เกิดขึ้นไว้ก่อนได้ สิ่งเหล่านั้นก่อให้เกิดความเครียดซึ่งเป็นประสบการณ์ของแต่ละคน ยิ่งมีการเปลี่ยนแปลงเนื่องจากความเจริญก้าวหน้าทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีทำให้สภาพสังคมเปลี่ยนแปลงไปส่งผลให้การดำเนินชีวิตประจำวันของประชากรมีการแข่งขันกัน มากขึ้นในสภาวะที่มีแรงกดดันอาจก่อให้เกิดปัญหา สุขภาพจิตขึ้นในแต่ละคนได้ความเครียดก็เป็นปัญหา สุขภาพจิตชนิดหนึ่งที่สามารถเกิดขึ้นได้กับบุคคล ทุกเพศ ทุกวัย (สุทธิดา สายสุดา, 2550) โดยเฉพาะนักเรียนที่ได้รับการคัดเลือกเข้ามาศึกษาในโรงเรียนต้องเผชิญการเปลี่ยนแปลงการโยกย้าย ช่วงชีวิตจากโรงเรียนระดับประถมมาสู่โรงเรียนระดับมัธยมโดยเฉพาะ อีกทั้งยังเผชิญกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในช่วงที่ผ่านมา นักเรียนในปีแรกต้องปรับตัวเข้ากับสังคมและการเรียนในหลาย ๆ ด้าน เช่น จากวิธีการเรียนที่มีคุณครูเป็นผู้รับผิดชอบในการเรียนการสอนมากกว่าตัวนักเรียนเองมาสู่การที่ต้องรับผิดชอบในการเรียนด้วย ตัวเองเป็นส่วนใหญ่ เป็นต้น (พีรภาว์ ลิมปนวัสส์, 2549: 2) ปัจจุบันพบว่าปัจจัยต่าง ๆ มีผลกระทบ ต่อสภาพร่างกายและจิตใจของวัยรุ่น (คันธารัตน์ ยอดพิชัย, 2549: 2)
การดำเนินชีวิตของนักเรียนในระดับมัธยมศึกษา นักเรียนต้องเผชิญความเครียดซึ่งไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ซึ่งหากนักเรียนประเมินแล้วพบว่าความเครียดที่เกิดขึ้นเกิดขีดความสามารถของนักเรียน นักเรียนจะรู้สึกถูกคุกคาม สูญเสียหรือความท้าทายของความมั่นคงของบุคคล (Lazarus and Folkman) เมื่อนักเรียนประเมินสถานการณ์แล้วพบว่าสถานการณ์นั้นก่อให้เกิดความเครียด นักเรียนจะพยายามหาวิธีการจัดการความเครียดที่เกิดขึ้น โดยนักเรียนแต่ละบุคคลจะมีกลวิธีหรือวิธีกรในการจัดการกับความเครียดที่แตกต่างกันขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ
1.2 วิธีดำเนินการ (วิธีการดำเนินการให้บรรลุผล ให้แนบร่องรอยหลักฐานที่แสดงถึงการดำเนินการในแต่ละขั้นตอน เพื่อดูพัฒนาการความก้าวหน้า ไม่น้อยกว่าร้อยละ 50)
1. กำหนดประชากรและการเลือกกลุ่มตัวอย่าง
ประชากรที่ใช้ในการวิจัย
ประชากรที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนโนนสูงศรีธานี
กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย
กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ภาคการศึกษาที่ 2 ปีการศึกษา 2566 จำนวน 250 คน และทำการเลือกกลุ่มตัวอย่างโดยการกำหนดแบบเจาะจง
2. การสร้างและพัฒนาเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย
ขั้นตอนการสร้างเครื่องมือวิจัยได้สร้างขึ้นโดยมีขั้นตอนดังนี้
2.1 ศึกษาค้นคว้าตำรา เอกสารต่าง ๆ ทฤษฎีและงานวิจัยที่เกี่ยวกับพร้อมรวบรวมข้อมูลพื้นฐานของนักศึกษา เกี่ยวกับการศึกษาความเครียด การเผชิญความเครียดของนักศึกษาทางด้านการเรียนการสอน
2.2 สร้างแบบขออนุมัติเสนอโครงการ (นม.1ด)
2.3 เมื่อผ่านการอนุมัติแบบเสนอของบประมาณแล้ว จึงดำเนินการสร้างแบบวัดได้
2.4 สร้างแบบสอบถามชนิด คำถามปลายเปิด โดยเลือกกลุ่มตัวอย่าง คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 5 จำนวน 50 คน ในการตอบแบบสอบถาม
2.5 นำคำตอบของกลุ่มตัวอย่าง มาสร้างสถานการณ์ข้อคำถาม แบบวัดแบบเลือกตอบเพื่อหาความถี่ของพฤติกรรม
2.6 จากนั้นคณะผู้วิจัยทำแบบบันทึกข้อความ “ขอเชิญเป็นผู้ทรงคุณวุฒิตรวจเครื่องมือการวิจัย” โดยผู้ทรงคุณวุฒิต้องมี 3 คนขึ้นไปเพื่อความน่าเชื่อถือของแบบวัด
2.7 เมื่อผู้ทรงคุณวุฒิวิเคราะห์แบบวัดแล้ว คณะผู้วิจัยจึงทำการใช้สถิติการหาค่าความตรงตามเนื้อหาของแบบวัด โดยการคำนวณค่าดัชนีความสอดคล้องของความตรงตามเนื้อหา
2.8 เมื่อคณะผู้วิจัยใช้สถิติการหาค่าความตรงตามเนื้อหาของแบบวัด โดยการคำนวณค่าดัชนีความสอดคล้องของความตรงตามเนื้อหา ได้ค่าดัชนีความสอดคล้องแล้ว นำข้อคำถามที่ผ่านมาทำการสร้างแบบวัด
3. เก็บรวบรวมข้อมูล
3.1 เมื่อได้แบบวัดที่สมบูรณ์ นำแบบวัดไปวัดกลุ่มตัวอย่างที่เลือกไว้ข้างต้น
กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ภาคการศึกษาที่ 2 ปีการศึกษา 2566 จำนวน 250 คน และทำการเลือกกลุ่มตัวอย่างโดยการกำหนดแบบเจาะจง โดยแบ่งชั้นอย่างเป็นสัดส่วน
3.2 นำผลการทำแบบวัดไปหาค่า คือ การหาค่าดัชนีความสอดคล้องความตรงตามเนื้อหา การแปลงเป็นคะแนนเปอร์เซ็นไทล์ วิเคราะห์ความเที่ยงของแบบทดสอบที่เป็นแบบวัดครั้งเดียวด้วยวิธีการของครอนบัค (Cronbach’s Alpha method)
4. วิเคราะห์ผลข้อมูล
สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลมีดังต่อไปนี้
4.1 การหาค่าดัชนีความสดคล้องระหว่างข้อคำถามกับวัตถุประสงค์ (IOC)
สูตร IC =
N
เมื่อ IC คือ ดัชนีความสอดคล้อง
คือ ผลรวมคะแนนความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญ
N คือ จำนวนผู้เชี่ยวชาญ
4.2 การแปลงเป็นคะแนนเปอร์เซ็นไทล์
สูตร P =
N
เมื่อ P คือ ตำแหน่งเปอร์เซ็นไทล์
N คือ จำนวนข้อมูลทั้งหมด
cf คือ ความถี่สะสมของคะแนน
f คือ ความถี่ของคะแนน
4.3 วิเคราะห์ความเที่ยงของแบบทดสอบแบบวัดครั้งเดียวด้วยวิธีการของครอนบัค (Cronbach’s Alpha method)
สูตร Alpha =
เมื่อ k คือ จำนวนข้อสอบ
คือ ความแปรปรวนของข้อสอบแต่ละข้อกระทง
คือ ความแปรปรวนของแบบทดสอบทั้งฉบับ
ผลการประเมินตนเอง
สรุปผลการประเมินครั้งที่ 1 (เพื่อประกอบการพิจารณาเลื่อนเงินเดือน) มีผลการประเมินตนเองภาพรวมอยู่ในระดับ ......
สรุปผลการประเมินตลอดปีงบประมาณ มีผลการประเมินตนเองภาพรวมอยู่ในระดับ ........