การนิเทศโดยใช้กระบวนการวิจัยเป็นฐาน

วันที่โพสต์: Mar 05, 2020 3:42:52 AM

การวิจัยพัฒนาสื่อเพื่อส่งเสริมการอ่านแบบแจกลูกสะกดคำ เกิดจากจากนโยบาย สพฐ. และ นายวิชา มานะดี ผอ.สพป.นครราชสีมา เขต 2 ซึ่งดำรงตำแหน่งในขณะนั้น ได้เสนอแนวคิดและ เสนอตัวอย่างสื่อทำมืออย่างง่าย และให้ทุกโรงเรียนได้มีสื่อส่งเสริมการอ่านแบบแจกลูกสะกดคำอย่างจริงจัง เป็นรูปธรรม ผู้วิจัย จึงได้

วางแผนการนิเทศ เสนอโครงการเพื่อให้การดำเนินงานพัฒนาเป็นไปอย่างต่อเนื่อง ดังนี้

1) โครงการส่งเสริมการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมสู่ความเป็นเลิศ (Best Practices) ในปีงบประมาณ 2559 - 2560

2) โครงการวิจัยในชั้นเรียนเพื่อพัฒนาทักษะการอ่านของนักเรียนแบบแจกลูกสะกดคำ ในปีงบประมาณ 2560 และ

3) โครงการ พัฒนาห้องเรียนแกนนำขยายผลการใช้สื่อแผงประสมอักษรเพื่อส่งเสริมการอ่านแบบแจกลูกสะกดคำ ในปีงบประมาณ 2562

สร้างเครื่องมือการนิเทศโดย

ได้นำรูปแบบของสื่อทำมือ ที่ตัดจากกระดาษ A4 อย่างง่ายมาดัดแปลง โดยใช้วัสดุ แผ่นพลาสติก ที่มีความคงทนมากขึ้น และให้ครูสามารถผลิตได้เองโดยไม่ต้องใช้เครื่องมือช่างที่ยุ่งยาก และได้ ออกแบบและผลิตสื่อต้นแบบ ออกแบบเครื่องมือแบบสอบถามต่างๆ เพื่อเก็บรวบรวมข้อมูลผลการดำเนินการ

ปฏิบัติการนิเทศโดย

จัดประชุมครูนำเสนอ วิธีการผลิต วิธีใช้ ให้ครูได้ทดลองผลิตด้วยตนเองและ นำไปทดลองใช้กับนักเรียนตามบริบทและความจำเป็นของครูผู้สอน

ติดตามผลการดำเนินงาน

โดยเก็บรวบรวม ความคิดเห็นจากการสัมภาษณ์ Focus Group และผ่านแบบสอบถามออนไลน์ การสอบถามปัญหาการใช้ สอบถามความพึงพอใจของครูและนักเรียน

การประเมินประสิทธิภาพ

ได้จัดประชุมครูภาษาไทยที่สอนช่วงชั้นที่ 1 จัดประชุมคณะกรรมการเพื่อตรวจสอบคุณภาพของสื่อ และเครื่องมือประเมินประสิทธิภาพสื่อแผงประสมอักษรที่ผลิตขึ้น เป็นการประชุมในลักษณะ Focus Group ซึ่งแต่ละครั้งที่จัดประชุม ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี จากครูที่เข้าร่วมประชุม มีการอภิปราย แสดงความคิดเห็น และให้ข้อเสนอแนะ นำไปสู่การพัฒนา ทำให้ สื่อแผงประสมอักษรมีความสะดวกเหมาะสมมากยิ่งขึ้น ตามลำดับ

ในการประชุมแต่ละครั้ง ผู้นิเทศได้มีรูปแบบ ขั้นตอนการนิเทศ ดังนี้

1. ชี้แจงความสำคัญของโครงการและ นำเสนอสื่อตามลำดับการพัฒนาพร้อม สาธิตการใช้สื่อ

2. ให้ครูทดลองผลิต และ/หรือ นำเสนอ ออกแบบวิธีสอน และเสนอวิธีการใช้สื่อในการเรียนการสอน

3. ให้ครูประเมินสื่อ และแสดงความคิดเห็น (R)

4. ผู้วิจัย สอบถามความคิดเห็น และจดบันทึกความคิดเห็นของครูที่เข้าร่วมประชุม ภายหลังการประชุม ผู้วิจัยนำความคิดเห็น ข้อเสนอแนะ ต่าง ๆ มาปรับปรุงสื่อ ให้ดียิ่งขึ้น (D)

5. มอบสื่อส่วนหนึ่งให้ครูที่อาสานำไปสอนนักเรียน

6. ส่งแบบสอบถามความพึงพอใจ ออนไลน์ให้ ครู นักเรียน ตอบภายหลังนำไปใช้สอนจริง

จัดทำเอกสารรายงานวิจัย

โดยรวบรวมลำดับการทำงานเขียนเป็น 5 บท ประกอบด้วย บทนำ เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง วิธีดำเนินการ การวิเคราะห์ข้อมูล สรุปและอภิปรายผล และภาคผนวก

แผนภูมิ รูปแบบการนิเทศที่ใช้การวิจัยและการพัฒนาเป็นฐาน

แผนภูมิ ขั้นตอนการวิจัยและการพัฒนา

แผนภูมิ กรอบแนวคิดการวิจัย

ภาพ แผงประสมอักษรที่ผ่านการประเมินประสิทธิภาพ แล้ว