บันทึก การทำงานครบสามปี
ยังจำได้ว่า เมื่อสามปีที่แล้ว วันที่ 1 ตุลาคม 2554 ได้เดินทางจาก องครักษ์ จังหวัดนครนายก ย้ายมาทำงานที่ ภาควิชาวิศวกรรมเคมี มหาวิทยาลัยขอนแก่น ด้วยความมุ่งมั่นและตั้งใจ ในโอกาสที่ได้รับ เดือนนี้ ตุลาคม 2557 เป็นการทำงานครบรอบ 3 ปี (2554:10 – 2557:10) ได้มีลูกศิษย์ที่ตัวเองดูแลจบปริญญาตรี ได้ 2 รุ่นแล้ว แต่ปริญญาโทยังไม่ประสบผลสำเร็จ แม้ตั้งใจอย่างมาดมั่นว่าจะทำให้จบ 2 ปีให้ได้ แต่เนื่องจากมีเหตุผลบ้างประการที่ทำไม่ได้ แต่สามารถทดแทนกันได้จากโอกาสที่เด็กนักศึกษาจะได้รับ
ตัวเองเป็นเด็กบ้านนอกที่ไม่มีเงินแต่อยากเรียน และอยากมีโอกาส จึงเป็นคนที่ทุ่มเทกับการเรียน และการทำงานเผื่อว่าจะได้รับโอกาสในการพัฒนาตัวเอง และได้มีผู้คนใจดีที่อยู่รอบๆ ตัว และหยิบยืนโอกาสจนสามารถก้าวมาถึงในปัจจุบัน ดังนั้นตัวเองจึงมุ่งมั่นเสมอว่า เราเป็นผู้รับโอกาสแล้ว ต่อไปต้องเป็นผู้ให้โอกาสแก่คนอื่นบ้าง ดังนั้นเมื่อมาทำงานก็พยายามทำอย่างเต็มกำลังที่สามารถจะทำได้ โดยพยายามหาทุนเรียน และทุนวิจัยให้เด็กนักศึกษาระดับบัณฑิตศึกษา ดูแลเด็กปริญญาตรีให้จบการศึกษาตามเกณฑ์กำหนดด้วยเกรดที่น่าพอใจ เพื่อเป็นโอกาสในการหางานทำในอนาคต จนดูเหมือนเป็นอาจารย์ที่ ซีเรียส กับการทำงานของเด็กนักศึกษาจนทำให้เค้ารู้สึกเหนื่อย ว่าทำไมต้องทำอะไรมากมายขนาดนั้น ทั้งวิชาการ วิชาชีพ และภาษา มาทำงานทุกวันเช้า-เย็น ส่งผลให้เด็กหลายๆ คนกลัวที่จะเข้ามาร่วมงานด้วยกัน แต่ก็ยังไม่ท้อถอย เพราะคิดว่าการเรียนจบเป็นสิ่งที่เป็นพื้นฐาน แต่เรามีวิชาการ วิชาชีพ และภาษาพร้อมต่อการแข่งขันหรือยัง AEC จะเปิดในปี 2558 วิศวกร จากประเทศต่างๆ ก็จะเข้ามาหางานทำในประเทศเรา นั้นคือสิ่งที่น่ากลัวมากกว่า ดังนั้นเราต้องมุ่งมั่นกันมากขึ้น ไม่ใช่แข่งกันหางานแค่กับวิศวกรภายในประเทศแล้ว ยังมีวิศวกรจากประเทศอื่นๆ เข้ามาอีกเยอะ เพราะว่าเราต้องเป็น วิศวกร AEC
ปีที่ผ่านมาได้มีโอกาสเยอะมากมาย ได้ไปสอบวิทยานิพนธ์ในต่างประเทศ ได้ไปนำเสนองานวิจัยในงานประชุมระดับโลก ในทวีปยุโรป (ครั้งแรกในชีวิต ที่ได้ไปทวีปยุโรป) ทั้งมีผลงานทางด้านวิชาการ และวิจัยเพิ่มขึ้น ได้มีลูกศิษย์จากต่างประเทศ เข้ามาทำวิจัยด้วยกัน มีการใช้ภาษาต่างประเทศในห้องแล็บ มีพัฒนาการที่ดีของนักศึกษา ลูกศิษย์จบไปได้งานทำที่ดี และตามที่มุ่งหวัง
สุดท้าย คนที่เป็นอาจารย์ มีความสุขทุกครั้งที่ได้รับข่าวดีๆ จากลูกศิษย์ประสบความสำเร็จ และเป็นทุกข์เมื่อพบว่าลูกศิษย์ผิดพลาดหรือล้มเหลว ดังนั้นในบางโอกาสจึงเตือนสติไปบ้างไม่ว่ากันนะครับ เพื่อกลับมาสู่คนที่มีวินัย คนที่มีความรับผิดชอบ และเป็นคนดี ส่วนลูกศิษย์ที่หายหน้าหายตาไป คงมีความสุข และสมหวังในชีวิต มีอะไรที่อยากให้อาจารย์คนนี้ ภูมิใจ ดีใจ ก็แจ้งมาให้ทราบนะครับ
ปล. ผลจากการทำงานอย่างทุ่มเท และมุ่งมั่นของเหล่าสมาชิค CKCL ทำให้มีผลงานอย่างเป็นรูปธรรม จากการเผยแพร่ผลงานวิจัยของกลุ่มได้สูงถึง 41 ผลงาน ในรอบ 3 ปีที่ผ่านมา แสดงดังรูปข้างล่าง.....