นางสาวกนิษฐา โกละกะ
นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรปฏิบัติการ
รับผิดชอบ ตำบลดงบัง
ข้อมูลพื้นฐานด้านการเกษตรตำบลดงบัง
ประวัติความเป็นมา :
ตำบลดงบัง เริ่มแรกคนที่มาตั้งถิ่นฐานที่นี่อพยพมาจากประเทศลาว และภาคอิสานตอนบนของไทย โดยได้ตั้งบ้านเรือนอยู่ใกล้แม่น้ำโขงที่บ้านทาสีไคเป็นแห่งแรก และได้มีการขยายการตั้งหมู่บ้านไปเรื่อย ๆ จนทางราชการได้ประกาศยกฐานะเป็นตำบลดงบัง เมื่อปี 2478 โดยมีนายชาลี ไชยนาม เป็นกำนันคนแรก การปกครองขึ้นตรงต่ออำเภอบึงกาฬ จังหวัดหนองคาย ต่อมาเมื่อปี พ.ศ. 2500 ทางราชการได้ตั้งอำเภอเซกา ตำบลดังบังได้แยกให้ขึ้นตรงอำเภอเซกา และต่อมาเมื่อปี พ.ศ. 2529 ทางราชการได้ตั้งอำเภอบึงโขงหลง ตำบลดงบังจึงได้ขึ้นตรงต่ออำเภอบึงโขงหลงเป็นต้นมา
สภาพทั่วไปของตำบล :
ตำบลดงบัง มีสภาพพื้นที่ราบลุ่มติดแม่น้ำโขง สภาพของดินมีความอุดมสมบูรณ์ สามารถปลูกพืชได้ตลอดปี ประชาชนมีความตื่นตัวในการพัฒนาตนเอง โดยในปี 2543 ได้รับโล่ตำบลพัฒนาดีเด่นของจังหวัดหนองคาย
อาณาเขตตำบล :
ทิศเหนือ จรดตำบลท่าดอกคำ อำเภอบึงโขงหลง จังหวัดบึงกาฬ
ทิศใต้ จรดตำบลไผ่ล้อม อำเภอบ้านแพง จังหวัดนครพนม
ทิศตะวันออก จรดแม่น้ำโขง และสาธารณรัฐประชาชนลาว
ทิศตะวันตก จรดตำบลโพธิ์หมากแข้ง อำเภอบึงโขงหลง และตำบลโสกก่าม อำเภอเซกา จังหวัดบึงกาฬ
จำนวนประชากรของตำบล :
จำนวนประชากรทั้งสิ้น 6,536 คน เป็นชาย 3,251 คน เป็นหญิง 3,285 คน
ข้อมูลอาชีพของตำบล :
อาชีพหลัก ทำนา สวนยางพารา
อาชีพเสริม ทำไร่ยาสูบ ปลูกมะเขือเทศ ฟักทอง
ข้อมูลสถานที่สำคัญของตำบล :
1. ภูลังกา
2. น้ำตกแดนสวรรค์ (ภูลังกา)
ข้อเท็จจริง
ข้อมูลทั่วไป ตำบลดงบังตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของอำเภอบึงโขงหลง มีอาณาเขต ดังนี้
ทิศเหนือ ติดกับ ตำบลท่าดอกคำ อำเภอบึงโขงหลง จังหวัดบึงกาฬ
ทิศใต้ ติดกับ ตำบลไผ่ล้อม อำเภอบ้านแพง จังหวัดนครพนม
ทิศตะวันออก ติดกับ แม่น้ำโขงพรมแดนสาธารณรัฐประชาชนลาว
ทิศตะวันตก ติดกับ ตำบลโพธิ์หมากแข้ง อำเภอบึงโขงหลง จังหวัดบึงกาฬ
สภาพพื้นที่มีลักษณะเป็นพื้นที่ดอนและมีพื้นที่ราบมีลักษณะเป็นลูกคลื่นลอนลาด มีความสูงจากระดับน้ำทะเลตั้งแต่ 150-190 เมตร และเป็นที่ลุ่มกระจายอยู่ทั่วไปในพื้นที่ของตำบล
พื้นที่ในเขตตำบลดงบัง มีทั้งหมดประมาณ 39,545 ไร่ แยกเป็นพื้นที่ดินตามชุดดินต่างๆ ดังนี้
1. ดินชุดดินโพนพิสัย ประมาณ 29,480 ไร่ คิดเป็น 74.5%
2. ดินชุดดินธาตุพนม ประมาณ 4,500 ไร่ คิดเป็น 11.3%
3. ดินชุดดินร้อยเอ็ด ประมาณ 4,125 ไร่ คิดเป็น 10.4%
4. ดินชุดดินศรีสงคราม ประมาณ 375 ไร่ คิดเป็น 1%
5. ดินชุดดินสรรพยา ประมาณ 375 ไร่ คิดเป็น 1%
6. ดินชุดดินสตึก ประมาณ 370 ไร่ คิดเป็น 1%
7. ดินชุดดินเรณู ประมาณ 160 ไร่ คิดเป็น 0.4%
8. ดินชุดดินโคราช ประมาณ 160 ไร่ คิดเป็น 0.4%
ตำบลดงบังมีลำห้วยและหนองน้ำ ซึ่งเป็นแหล่งน้ำธรรมชาติ บางแห่งมีน้ำตลอดปีและบางแห่งก็ขาดน้ำในช่วงฤดูแล้ง และเริ่มมีการตื้นเขิน นอกจากนี้ยังมีแหล่งน้ำที่สร้างขึ้น ซึ่งใช้ประโยชน์ในการเกษตรในช่วงฤดูแล้ง ซึ่งสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกรเป็นอันมาก แหล่งน้ำต่างๆ มีดังนี้
1. ลำห้วยทอน ไหลผ่านและใช้ประโยชน์ในหมู่ที่ 1,7,8
2. ลำห้วยขมิ้น ไหลผ่านและใช้ประโยชน์ในหมู่ที่ 4,5,6
3. ลำห้วยใหญ่ ไหลผ่านและใช้ประโยชน์ในหมู่ที่ 5,6
4. ลำห้วยปลาฝา ไหลผ่านและใช้ประโยชน์ในหมู่ที่ 5
5. ลำห้วยลำขิง ไหลผ่านและใช้ประโยชน์ในหมู่ที่ 4
6. ลำห้วยกั้ง ไหลผ่านและใช้ประโยชน์ในหมู่ที่ 6
7. ลำห้วยตาด ไหลผ่านและใช้ประโยชน์หมู่ที่ 3,4
8. ลำห้วยเสือ ไหลผ่านและใช้ประโยชน์ในหมู่ที่ 1,2
9. หนองขอน ไหลผ่านและใช้ประโยชน์ในหมู่ที่ 3,9,4
10. หนองแวง ไหลผ่านและใช้ประโยชน์ในหมู่ที่ 4
11. หนองยาง ไหลผ่านและใช้ประโยชน์ในหมู่ที่ 3
12. หนองบวกหมู ไหลผ่านและใช้ประโยชน์ในหมู่ที่ 3
13. หนองเอี่ยน ไหลผ่านและใช้ประโยชน์ในหมู่ที่ 4
14. หนองไฮ ไหลผ่านและใช้ประโยชน์ในหมู่ที่ 2
15. หนองสิม ไหลผ่านและใช้ประโยชน์ในหมู่ที่ 10
16. หนองแสง ไหลผ่านและใช้ประโยชน์ในหมู่ที่ 4
17. หนองแข้ ไหลผ่านและใช้ประโยชน์ในหมู่ที่ 4
18. แม่น้ำโขง ไหลผ่านและใช้ประโยชน์ในหมู่ที่ 1,2,3,4,9
แหล่งน้ำที่สร้างขึ้น ดังนี้
1. สถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้า บ้านท่าสีไค ใช้ประโยชน์ในหมู่ที่ 1,2,11
2. สถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้า บ้านเหล่าหลวง ใช้ประโยชน์ในหมู่ที่ 3,9,4
3. ฝายน้ำล้นบ้านดงบัง ใช้ประโยชน์ในหมู่ที่ 4,5,8,10
4. ฝายน้ำล้นห้วยขมิ้น ใช้ประโยชน์ในหมู่ที่ 5,6,10
สภาพภูมิอากาศในตำบลดงบัง มีการเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว เนื่องจากมีอาณาเขตติดกับแม่น้ำโขงพรมแดนสาธารณรัฐประชาชนลาว ซึ่งมีภูเขาสูง ทำให้อากาศค่อนข้างเย็นและมีฝนตกก่อนฤดู ดังนี้
ฤดูฝนจะเริ่มต้นตั้งแต่ปลายเดือน เมษายน – เดือนตุลาคม
ฤดูหนาว จะเริ่มตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน – เดือนกุมภาพันธ์
ฤดูร้อน จะเริ่มตั้งแต่ปลายเดือนกุมภาพันธ์ – เดือนเมษายน
มีจำนวนวันที่มีฝนตกประมาณ 150 วันต่อปี ปริมาณน้ำฝนที่วัดได้ ประมาณ 1,054 มิลลิเมตร / ปี อุณหภูมิเฉลี่ย 24 – 25 เซลเซียส
การวิเคราะห์สภาพแวดล้อม
1. จุดแข็ง
2. จุดอ่อน
3. โอกาส
ปัญหา
แนวทางแก้ไข วิธีการดำเนินงาน
ปัญหาของชุมชน
1. ด้านกายภาพ
2. ด้านชีวภาพ
3. ด้านเศรษฐกิจ
4. ด้านสังคม