โรคจากการทำงาน หมายถึง โรคหรือการเจ็บป่วยที่เกิดขึ้นกับคนทำงาน โดยมีสาเหตุจากการสัมผัสสิ่งคุกคามสุขภาพในที่ทำงาน ซึ่งอาการเจ็บป่วยเกิดขึ้นกับผู้ปฏิบัติงานในขณะทำงานหรือหลังจากการทำงานเป็นเวลานาน โรคจากการประกอบอาชีพบางโรคอาจเกิดภายหลังหยุดการทำงานหรือลาออกจากงานนั้นๆแล้ว ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับประเภทของสิ่งคุกตามสุขภาพ รวมทั้งโอกาสหรือ วิธีการที่ได้รับ ตัวอย่างของโรคที่สำคัญ เช่น โรคพิษตะกั่ว โรคซิลิโคสิส (โรคปอดจากฝุ่นหิน) โรคพิษสารตัวทำละลายต่างๆ (Organic solvent toxicity) เป็นต้น
ปัจจัยที่ทำให้เกิดโรคจากการประกอบอาชีพ
ปัจจัยที่สำคัญมี 3 ประการ
มีสาเหตุที่สำคัญ คือ
1. ปัจจัยทางกายภาพ 2. ปัจจัยทางเคมี 3. ปัจจัยทางชีวภาพ 4. ปัจจัยทางการยศาสตร์
2. ปัจจัยที่เกี่ยวกับตัวผู้ประกอบอาชีพ
ปัจจัยที่ทำให้เกิดโรคได้มากน้อยแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับ
1. เพศ 2. อายุ 3. สภาวะสุขภาพ 4. ระยะเวลาที่ทำงานในแต่ละวัน 5. ระยะเวลาที่ ได้ปฏิบัติงาน 6. ความรู้ความเข้าใจ ถึงอันตรายต่างๆ 7. ความไวต่อการรับการแพ้พิษหรือการเกิดโรค
1. สังคม • นายจ้าง หัวหน้างาน เพื่อนรวมงาน เพื่อนบ้าน 2. เศรษฐกิจ • ต้องการค่าจ้างมาก คุณภาพชีวิต ไม่ดี 3. สิ่งแวดล้อมอื่นๆ • สภาพที่อยู่อาศัย บริเวณรอบๆบ้าน
ชนิดของโรคที่เกิดจากการทำงาน
โรคที่เกิดจากแมงกานีสหรือสารประกอบ
โรคที่เกิดจากตะกั่วหรือสารประกอบ
โรคที่เกิดจากปรอทหรือสารประกอบ
โรคที่เกิดจากสารหนูหรือสารประกอบ
และโรคอื่นๆ อีกเป็นจำนวนมาก
ความบกพร่องทางการได้ยินที่เกิดจากเสียง
โรคที่เกิดจากการสั่นสะเทือน ส่งผลให้เกิดความผิดปกติของกล้ามเนื้อ เส้นเอ็น กระดูก ข้อ หลอดเลือดหรือเส้นประสาท
โรคที่เกิดจากอากาศอัด
โรคที่เกิดจากรังสี
โรคที่เกิดจากแสง (อัลตราไวโอเลต แสงที่มองเห็นได้ อินฟราเรด) รวมทั้งเลเซอร์
โรคที่เกิดจากการสัมผัสอุณหภูมิที่สูงเกินไป
โรคที่เกิดจากสารทางกายภาพอื่นๆ ในที่ทำงานที่ไม่ได้กล่าวถึง ตามข้างต้น
บรูเซลโลซิส
ไวรัสตับอักเสบ
ไวรัสภูมิคุ้มกันบกพร่องของมนุษย์
บาดทะยัก
วัณโรค
กลุ่มอาการที่เป็นพิษหรืออักเสบที่เกี่ยวข้องกับสารปนเปื้อนจากแบคทีเรียหรือเชื้อรา
โรคแอนแทรกซ์
โรคฉี่หนู
โรคที่เกิดจากสารชีวภาพอื่นๆ ในที่ทำงาน ที่ไม่ได้กล่าวถึง
2.1 โรคระบบทางเดินหายใจ 12 โรค เช่น
โรคปอดบวมที่เกิดจากฝุ่นแร่ไฟโบรเจนิค (ซิลิโคซิส แอนทราโคซิลิโคซิส ใยหิน)
วัณโรคซิลิโคทูเบอร์คูโลสิส
โรคปอดบวมที่เกิดจากฝุ่นแร่ที่ไม่ใช่ไฟโบรเจนิค
ไซด์โรซิส
2.2 โรคผิวหนัง 4 โรค ได้แก่
ผิวหนังอักเสบจากการสัมผัสและลมพิษที่เกิดจากการแพ้ จากกิจกรรมการทำงาน
การระคายเคืองผิวหนังที่เกิดจากกิจกรรมการทำงาน
โรคด่างขาวที่เกิดจากกิจกรรมการทำงาน
ไม่รวมโรคผิวหนังอื่นๆ ที่เกิดจากสารทางกายภาพ เคมี หรือชีวภาพในที่ทำงาน
2.3 ความผิดปกติของกล้ามเนื้อและกระดูก 8 โรคเช่น
Radial styloid tenosynovitis เนื่องจากการเคลื่อนไหวซ้ำๆ ออกแรงอย่างหนัก บริเวณข้อมือ
โรคเอ็นอักเสบเรื้อรังและข้อมือ เนื่องจากการเคลื่อนไหวซ้ำๆ
Olecranon bursitis เนื่องจากแรงกดบริเวณข้อศอกเป็นเวลานาน
Prepatellar bursitis เนื่องจากอยู่ในท่าคุกเข่าเป็นเวลานาน
2.4 ความผิดปกติทางจิตและพฤติกรรม 2 โรค
ภาวะป่วยทางจิตจากเหตุการณ์รุนแรง
ความผิดปกติทางจิตหรือพฤติกรรมอื่นๆ ที่ไม่ได้กล่าวถึง ที่เกิดจากการสัมผัสกับปัจจัยเสี่ยงที่เกิดจากกิจกรรมการทำงาน
มะเร็งที่เกิดจากสาร ตัวอย่างเช่น
แอสเบสตอส
เบนซิน
โครเมี่ยม
6 ไวนิล คลอไรด์
ส่วนประกอบนิคเกิล
แคดเมี่ยมและสารประกอบ
การเฝ้าระวังโรคจากการทำงาน
1. เรียนรู้อันตรายในสถานที่ทำงาน เพื่อหาวิธีป้องกันผู้ปฏิบัติงานจากอันตรายนั้น
2.นายจ้างควรพัฒนาระบบความปลอดภัย โปรแกรม ข้อกำหนด และขั้นตอนการทำงาน ที่ออกแบบมาเพื่อป้องกันผู้ปฏิบัติงานในสถานที่ทำงานไม่ให้เกิดการบาดเจ็บหรือเจ็บป่วย และลูกจ้างควรปฏิบัติตาม
3.สื่อสารความเป็นอันตรายต่อสุขภาพและความเสี่ยงต่อพนักงาน ให้ข้อมูลที่เหมาะสม และอบรมให้ความรู้กับผู้ปฏิบัติงาน เพื่อให้สามารถป้องกันตนเองจากอันตรายเบื้องต้นได้
4.ทำงานร่วมกับผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพ เพื่อสอบสวนการบาดเจ็บหรือการเจ็บป่วย ที่มีลักษณะบ่งชี้ว่าอาจเกี่ยวข้องกับการทำงาน เช่น บอกกับผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพว่าทำงานที่ไหน ทำงานอะไร และเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ใด เพื่อให้ทราบถึงปัจจัยเสี่ยงที่อาจส่งผลต่อสุขภาพของผู้ปฏิบัติงาน
กลยุทธ์ด้านการส่งเสริมสุขภาพได้มุ่งเน้นให้ความสำคัญตั้งแต่ต้นน้ำ หรือวิธีการที่ทำงานเพื่อแก้ไขรากเหง้าของปัญหาทางสุขภาพ โดยการเปลี่ยนเงื่อนไขและสภาพแวดล้อม ในที่อยู่อาศัย สถานที่ทำงาน และที่พักผ่อนหย่อนใจ โดยธรรมชาติแล้วกลยุทธ์การส่งเสริมสุขภาพจะมีความสัมพันธ์และเสริมซึ่งกันและกันในแต่ละแผนงานหรือกิจกรรม นอกจากนี้อาจเป็นการริเริ่มใน แผนกลยุทธ์อื่น ๆ ในโปรแกรมอื่น ๆ ดังนั้นแผนกลยุทธ์ทางการส่งเสริมสุขภาพที่มีประสิทธิภาพ ควรประกอบด้วยความหลากหลายของกิจกรรม และมักจะต้องมีความร่วมมือกันในหลาย ๆ สาขา